โฆษก ศปช. เผยปรับลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา แนวโน้มฝนลดลง ไร้สัญญาณพายุ

ศปช. ปรับลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเหลือ 1,950 ลบ.ม./วินาที หลังแนวโน้มฝนลดลง เตือนภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ด้าน “กนช.” เตรียมใช้ AI แก้ปัญหาน้ำเน้นความแม่นยำของข้อมูลแก้ปัญหาระยะยาว โต้ข่าวปลอมพายุกระทบไทย 13 – 14 ต.ค. นี้

12 ต.ค.2567 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนและจำนวนน้ำที่ไหลผ่านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา สถานี C.2 นครสวรรค์ 2,225 ลบ.ม./วินาที และการระบายน้ำ 2,002 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มดีขึ้น ที่ประชุม ศปช. วันที่ 12 ต.ค. จึงปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาลง เหลือ 1,950 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า และสมดุลกับสถานการณ์น้ำหนุนในช่วงวันที่ 13 – 24 ต.ค. นี้

“จากการปรับการระบายน้ำดังกล่าว เหลือ 1,950 ลบ.ม./วินาที ในวันนี้ จะส่งผลดีต่อพื้นที่ วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี , อ.เมือง , อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี และ วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง”นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้ ขอแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่มในพื้นที่ลาดชัน โดยเฉพาะที่ เวียงสระ พระแสง บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี , ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช , เบตง ธารโต จ.ยะลา รวมทั้งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งในช่วง 13 - 17 ต.ค.นี้ ยังต้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันน้ำล้นตลิ่งและบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทันบริเวณ จ.กาญจนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมทั้งติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนล่วงหน้าของหน่วยงานราชการแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงด้วย

นายจิรายุ ยังชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้มีข้อมูลว่าจะมีโอกาสพายุเข้าประเทศเวียดนามระหว่างวันที่ 13 - 14 ต.ค.นี้ ประเทศไทยจึงต้องติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงและไม่ได้มาจากแหล่งข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา อาจเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและจากการตรวจสอบติดตามอย่างต่อเนื่องยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนใกล้บริเวณประเทศไทยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่เพจกรมประชาสัมพันธ์ หรือ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย Anti-Fake News Center Thailand”

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าแผนฟื้นฟูที่ จ.เชียงราย มีความคืบหน้าอย่างมาก เมื่อช่วงค่ำของคืนวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า จ.เชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม Big Cleaning ล้างฝุ่นบนถนน (พหลโยธิน) หน้าด่านพรมแดนแม่สาย เพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวแม่สาย ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยทุกภาคส่วนขานรับดำเนินการเพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สาย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและบ้านเรือนกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว

นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการฟื้นฟูในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 1,367 ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 1,315 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 52 ครัวเรือน คิดเป็นความคืบหน้า 96% และการดำเนินการฟื้นฟูในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เฟส 2 กิจกรรมการฟื้นฟูล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน ได้รับผลกระทบ 819 ครัวเรือน ช่วยเหลือแล้ว 598 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 221 ครัวเรือนคิดเป็น 73% 

นายจิรายุ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 4/2567 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พิษณุโลก โดยมอบหมายภารกิจให้ กนช. ดำเนินการ 3 ประเด็น ดังนี้ 1.ขอให้ กนช. ควรมีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำทุกวันให้บ่อยขึ้น มีข้อมูลที่แม่นยำ และบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเตรียมพร้อมรองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงต้องไม่ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก

นายจิรายุ กล่าวว่า 2.การเตรียมตัวรับมือกับปัญหาภัยเเล้ง ที่จะเกิดขึ้นในหลาย ๆ พื้นที่ในประเทศไทย หลังจากสิ้นเดือน ต.ค.นี้ โดยเฉพาะการกักเก็บน้ำในเขื่อนให้เพียงพอสำหรับฤดูแล้งที่จะถึงนี้ โดยมีความกังวลว่าหากเข้าสู่ช่วงหน้าแล้ง จะสามารถประคับประคองสถานการณ์น้ำหรือปริมาณน้ำดังกล่าวให้เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปีให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงหน้าแล้งได้หรือไม่ และ 3.การแก้ปัญหาน้ำท่วมในระยะกลาง- ระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือปีหน้า และปีต่อไป ขอให้นำแผนต่าง ๆ ที่ได้มีการหารือ กลับมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนว่าโครงการใดที่ควรดำเนินการทันที ภายใต้การใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดให้มากที่สุด

“รองนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญตามข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการที่จะพิจารณาให้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลเรื่องน้ำของประเทศ เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจของฝ่ายบริหารสำหรับการบริหารจัดการน้ำของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”นายจิรายุ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

PORCELA (พอร์ซเซล่า) ปันสุข ผนึกกำลังพันธมิตรดีลเลอร์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หาดใหญ่

บริษัท ร่วมพัฒน์เซรามิค จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมกระเบื้องเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ แบรนด์ PORCELA (พอร์ซเซล่า) เดินหน้าดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “โครงการ PORCELA ปันสุข ปีที่ 6” เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย สะท้อนบทบาทองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG)

’สิริพงศ์‘ เผยโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมใต้แล้วกว่า 1.07 ล้านครัวเรือน

โฆษกรัฐบาลระบุ ปภ.ร่วมธนาคารออมสิน โอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้แล้ว 11 ครั้ง ครอบคลุม 9 จังหวัด รวมกว่า 9.6 พันล้านบาท อยู่ระหว่างเร่งจ่ายส่วนที่โอนยังไม่สำเร็จ

เทศบาลเมืองคอน ขึ้นธงเหลือง เตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วม

เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ภายใต้การนำของ ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายและปักธงสัญลักษณ์แจ้งเตือนภัยบริเวณสะพานข้ามคลองในเขตเทศบาล เพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และเตรียมพร้อมป้องกันน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

นายกฯ ขอให้ชาวสตูลมั่นใจรัฐบาลไม่ทอดทิ้ง เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม ช่วยเยียวยาให้เร็วที่สุด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านคลองขุด เพื่อมอบถุงยังชีพ 800 ชุด ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

'อนุทิน' ลงพื้นที่สตูล สั่งนายก อบจ. ทำประชาพิจารณ์รื้อประตูระบายน้ำ ถ้าไม่มีประโยชน์ก็เอาออก

นายกฯ ลงพื้นที่สตูล มอบถุงยังชีพ ขอชื่นชม ปชช. อดทนน้ำท่วม รับ เป็นความผิดรบ. หนีไม่ได้ ขอ ปชช. ให้อภัย บอกเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป ต้องมองไปข้างหน้า สั่ง นายกอบจ. ทำประชาพิจารณ์รื้อประตูระบายน้ำคลองมำบัง

รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท

โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ