'ศรีสุวรรณ' จี้ รมว.พาณิชย์ สอบดราม่าฟาร์มหมูระยองกว่า1,500 ตัว แต่ยังขายไม่ออก

'ศรีสุวรรณ' จี้ รมว.พาณิชย์ สอบดราม่าฟาร์มหมูระยองกว่า 1,500 ตัว เลี้ยงมา 5 เดือน แต่ยังขายไม่ออก ชี้ชัดราคาในตลาด กก. 200-300บาท เอาเปรียบผู้บริโภค ขู่หากยังเพิกเฉยจะ ป.ป.ช.หรือฟ้องศาลปกครอง

19 ม.ค.2565 - นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้รายงานการสัมภาษณ์เจ้าของบรรทมฟาร์ม เลขที่ 33 ต.ห้วยยาง อ.แกลง จ.ระยองว่า หมูในฟาร์มกว่า 1,500 ตัว และฟาร์มใกล้เคียงที่เลี้ยงมา 5 เดือน ถึงเวลาขายแล้ว แต่ยังขายไม่ออก ซึ่งขายราคาหมูเป็น ราคากิโลกรัมละ 60 บาท ราคาถูกกว่าที่เป็นข่าวอยู่ในเวลานี้ แต่กลับไม่มีคนมาซื้อนั้น

กรณีดังกล่าวกลายเป็นข่าวครึกโครมและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากของประชาชน ทำให้เป็นที่สงสัยกันอย่างมากว่า ข้อมูลดังกล่าวมีข้อเท็จจริงเป็นเช่นใด ทำให้หลายคนมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อนสงสัยถึงสาเหตุการขึ้นราคาเนื้อหมูว่าแท้จริงแล้ว หมูแพงเกิดจากปัจจัยอะไร

กระทั่งเจ้าของฟาร์มหมูบรรทมฟาร์มดังกล่าว ยอมออกมาพูดความจริงหลังจากนั้นว่า หมูของตนไม่ได้ขายให้คนนอก เพราะต้องขายคืนให้บริษัทคู่สัญญาเจ้าเดียวเท่านั้นในราคา 60 บาท/กก. เพราะตนได้ทำสัญญาประกันราคาไว้ ไม่ว่าราคาหมูจะขึ้น หรือลง ก็ขายได้ 60 บาท/กก.เท่านั้น

ทั้งนี้เนื่องจากสุกรและเนื้อสุกร ถูกกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในใช้อำนาจตามความในมาตรา 9(1) และมาตรา 24 แห่งพรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ประกาศให้เป็นสินค้าควบคุม ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2564 เรื่อง การกำหนดสินค้าและบริการควบคุม เพื่อประโยชน์ในการดูแลป้องกันการกำหนดราคาซื้อ ราคาจำหน่ายหรือการกำหนดเงื่อนไข และวิธีปฏิบัติทางการค้าอันไม่เป็นธรรม

ดังนั้น กรณีที่มีบริษัทนายทุนใหญ่ไปจ้างเกษตรกรเลี้ยงหมูเป็นคู่สัญญากันหรือเป็นระบบเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) และรับซื้อหมูที่เลี้ยงโตเต็มที่คืนในราคา 60 บาท/กก. จึงเป็นข้อมูลที่ชี้ชัดได้ว่า ราคาหมูที่จำหน่ายในท้องตลาดในขณะนี้ที่ราคา 200-300 กก.นั้น เป็นราคาที่ค้ากำไรเกินควร เอาเปรียบผู้บริโภคโดยชัดแจ้ง ซึ่งจะอ้างกลไกราคาตลาดไม่ได้ เพราะหมูเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมาย เมื่อข้อมูลจากเกษตรกรชี้ชัดขนาดนี้แล้ว กรมการค้าภายในและหรือกระทรวงพาณิชย์ จะต้องลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเอากับเจ้าของบรรทมฟาร์มดังกล่าว เพื่อยืนยันข้อมูลและตรวจสอบบริษัทคู่สัญญาว่าเป็นบริษัทใด และเหตุใดเมื่อซื้อหมูมาในราคาถูกแล้วทำไมจึงนำไปจำหน่ายหรือชำแหละจำหน่ายขายส่งในราคาที่แพงเกินสมควร และหากเป็นการค้ากำไรเกินควร จะต้องมีบทลงโทษที่รวดเร็ว เด็ดขาด โดยต้องไม่เกรงใจกันหากเจ้าของบริษัทคู่สัญญาเป็นเจ้าพ่อในวงการเลี้ยงหมู่ 1 ใน 3 บริษัทขนาดใหญ่ของประเทศนี้

"ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำคำร้องส่งไปยัง รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและลงโทษตามอำนาจหน้าที่ หากยังเพิกเฉยสมาคมฯจะนำความไปยื่น ป.ป.ช.หรือฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป" นายศรีสุวรรณ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่พลาด! 'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วม 'เบน สมิธ'

'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วมกับเบน สมิธ เข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

'พี่ศรี' มาแล้ว บุก ป.ป.ช.ร้องสอบ 'อนุทิน' บริหารจัดการน้ำท่วมภาคใต้ผิดพลาดล้มเหลว

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรีกับพวก กรณีผิดพลาด ล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด

ชาวพิมายเฮ! ศาลปกครองสูงสุดสั่งกรมศิลปฯระงับฮุบที่ดินชาวบ้านรอบอุทยานฯพิมาย 2,287 ไร่

ที่ศาลปกครองสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ กทม.นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองนครราชสีมา โดย สั่งให้อธิบดีกรมศิลปากรระงับการขยายเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมายบางส่วนกว่า 2,287 ไร่

เอาแล้ว! 'ศรีสุวรรณ' ยื่นป.ป.ช.สอบจริยธรรมร้ายแรง 'อนุทิน' ปกปิด MOU แร่แรร์เอิร์ท

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิดนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ กรณีลงนามใน MOU แร่ธาตุหายาก(แรร์เอิร์ท) ระหว่างไทย-สหรัฐฯ