ฟุ้งผลงาน ปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย

7 ธ.ค.2567 - นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรึ เผยผลการเร่งรัดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการตัดวงจรช่องทางการก่ออาชญากรรมที่สำคัญของขบวนการมิจฉาชีพ ในปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 – พ.ย. 2567 (14 เดือน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายแล้ว 178,609 รายการ หรือ เฉลี่ย 12,757 รายการต่อเดือน เพิ่มขึ้น 8.6 เท่าตัว จากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่ ต.ค. 2565 – ก.ย. 2566 (12 เดือน) ที่ปิดกั้น 17,670 รายการ หรือ เฉลี่ย 1,472 รายการต่อเดือน

การดำเนินการกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่มีลักษณะหลอกลงทุนเป็นการกระทำความผิดเข้าข่ายตามมาตรา 14 (1) พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ กระทรวงดีอี มีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ในการระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น เว้นแต่เฉพาะในขั้นตอนการตรวจสอบพยานหลักฐาน ที่ยังมีความจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากพยาน หลักฐานต้องมีองค์ประกอบตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับข้อมูลเว็บไซต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่แล้วนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดไปพร้อมกัน

“สถิติตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2567 ทุกเดือน เป็นผลจากการปรับกระบวนการทำงานให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการตรวจสอบ เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง” นายคารม กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ถึงคิวโอ๊คหรือยัง พานทองแท้ในวันที่พรรคเพื่อไทยต้องหานายกฯคนใหม่

ภาพสามพี่น้องชินวัตรเดินเข้าเยี่ยมพ่อที่เรือนจำคลองเปรม กลายเป็นไวรัลในพริบตา ไม่ใช่เพราะใครอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเรือนจำ แต่เพราะ “โอ๊ค” พานทองแท้ ปรากฏตัวในลุคใหม่ สดใส อารมณ์

รัฐบาลเร่งล้างภาพแรงงานเด็ก-แรงงานบังคับ หวังปลดล็อกบัญชีเฝ้าระวังสหรัฐฯ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงานเดินหน้าเร่งขับเคลื่อนการขจัดการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับเป็นภารกิจสำคัญของประเทศ

รัฐบาลคุมเข้มปล่อยบั้งไฟใกล้สนามบิน ฝ่าฝืนโทษหนักจำคุก 5 ปี

รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม สั่งเข้มมาตรการปล่อยบั้งไฟในช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟ ห้ามจุดใกล้สนามบินเด็ดขาด พร้อมกำชับขออนุญาตล่วงหน้า หากฝ่าฝืนโทษหนักทั้งจำทั้งปรับสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 2 แสนบาท เพื่อความปลอดภัยนักบินและประชาชนเป็นหลัก