คนนครฯฝาก 'อุ๊งอิ๊ง' 7 ข้อ ตั้งกก.ร่วมกับภาคปชช.ศึกษาการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ

18ธ.ค.2567-นายวรา จันทร์มณี เลขาธิการเครือข่ายประชาชนพิทักษ์สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรม นักวิชาการอิสระด้านสังคมศาสตร์ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

ต่อกรณีน้ำท่วมในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ในฐานะผู้ร่วมขับเคลื่อนเรียกร้องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ขอฝากถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ว่า
1. อำเภอเมืองนครอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลแค่ 1 - 2 เมตร จึงยากที่จะระบายน้ำลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว
2. ในอำเภอเมืองนครมีถนนหลักเส้นใหญ่ขวางทางน้ำอย่างน้อย 4 สาย คือ เบญจมฯ-นาพรุ ราชดำเนิน คูขวาง และเฉลิมพระเกียรติ ทั้งนี้ยังไม่รวมถนนย่อยที่ขวางทางน้ำ โดยปราศจากการวางผังเมืองที่มีประสิทธิภาพ
3. แหล่งพักน้ำและระบายน้ำ เช่น ห้วย หนอง นา พรุ คู คลอง บึง จำนวนมาก ถูกถม เพื่อทำสิ่งปลูกสร้างทั้งบ้าน อาคารพาณิชย์ และห้างสรรพสินค้า ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ก็มีส่วนสำคัญในการขวางทางน้ำ
4. มีการรุกล้ำที่ดินสาธารณะไปจำนวนไม่น้อย จนแหล่งพักน้ำเหลือน้อยลงมาก
5. ระบบการระบายน้ำไร้ประสิทธิภาพ ท่อระบายน้ำในตัวเมืองนครเล็ก เก่า ขาดการปรับปรุงฟื้นฟู
6. ที่ผ่านมาไม่มีการศึกษาหรือวางแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ จังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งอยู่ติดกับภูเขาและทะเลจึงมีปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง
7. ในวันนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโครงการคลองผันน้ำเมืองนคร มูลค่า 9,580 ล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ได้ศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility) และผลกระทบของโครงการ (EIA) ไม่น่าจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชได้จริง เนื่องจาก
7.1) น้ำที่เข้าท่วมตัวเมืองนครมาจากทุกทิศทางไม่ใช่จากเฉพาะคลองท่าดี ที่ไหลมาจากชุมชนคีรีวง อำเภอลานสกา ผ่านหมู่ที่ 1 ตำบลไชยมนตรี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการคลองผันน้ำ
7.2) การเริ่มผันน้ำที่หมู่ 1 ตำบลไชยมนตรี อำเภอเมือง ออกมาสู่ ตำบลท่าเรือ (อ.เมือง) เพื่อระบายน้ำลงทะเลที่ตำบลท่าเรือ ตำบลบางจาก และอำเภอปากพนัง ไม่ครอบคลุมน้ำทั้งหมดที่ไหลเข้าท่วมอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สมมุติฐานที่บอกว่าน้ำจากคีรีวงแห่งเดียวมาท่วมตัวเมือง จึงน่าจะผิด และน่าจะเป็นการใช้งบประมาณเกือบหมื่นล้านบาทโดยเลื่อนลอยไร้ประสิทธิภาพ เพราะไม่ได้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมดังกล่าวข้างต้น

ฝากบอกนายกฯ อุ๊งอิ๊งว่า เมื่อปี พ.ศ. 2562 พวกเราเครือข่ายปกป้องดิน น้ำ ป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง ได้ตกลงกับรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะศึกษาการแก้ไขปัญหาน้ำจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับกรมชลประทาน และ สท.นช. (สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ) แต่ถูกเบี้ยวในที่สุด เพราะมีคนต้องการผลักดันโครงการคลองผันน้ำหมื่นล้านมากกว่าการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
หากนายกฯ อุ๊งอิ๊งมีความจริงใจกับจังหวัดนครศรีธรรมราชบ้านเกิดของสามีรัก ก็ควรหันกลับมาตั้งกรรมการร่วมกับภาคประชาชนเพื่อศึกษาการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดนครศรีธรรมราชทั้งระบบ ศึกษาตั้งแต่เขา ป่า นา เล มีปัญหาตรงไหน จะวางระบบบริหารจัดการแก้ไขอย่างไร จะเป็นอานิสงค์ต่อเมืองนครมากกว่าการผลาญงบประมาณหมื่นล้านอย่างมักง่ายโดยไม่ศึกษาโครงการให้รอบคอบอย่างโครงการคลองผันน้ำเมืองนคร

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อุ๊งอิ๊ง' รับพ่อเครียดบอกถ้าได้สิทธิ์ออกมาพักคงดีเพราะอยู่ข้างในก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว

'อิ๊งค์' รับ 'ทักษิณ' เครียดหนัก ชี้คุณพ่ออายุเยอะแล้ว ถ้าได้สิทธิ์ออกมาพักก็คงจะดี เพราะอยู่ข้างในก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว พ้อถอยออกจากการเมืองเยอะมากแล้ว ปล่อยพรรคเพื่อไทยลุยเต็มที่

สามีอิ๊งค์เข้าเยี่ยมทักษิณ! ทนายปูดยื่นฎีกาขออภัยโทษรอบสองแล้ว

'ปอ ปิฎก' เป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม 'ทักษิณ' โดยรวมสุขภาพยังคงโอเค 'ทนายวิญญัติ' มอง 'ทักษิณ' มีสิทธิได้รับพิจารณาพักโทษ ยังไม่ได้รับแจ้งผลฎีกาขออภัยโทษรอบสอง คาดอยู่ในขั้นตอนกราบบังคมทูล

'สุริยะ' ปูดหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ไม่ใช่คนตระกูลชิน!

'สุริยะ' ปัด บีบ 'อิ๊งค์' ลาออก ยันหนุนชินวัตรเต็มที่ ลั่นไม่มีขนออกมีแต่ขนเข้า แย้มหัวหน้าพรรคคนใหม่เป็นคนในไม่ใช่ตระกูลชิน

พท.ฟอก 'อิ๊งค์' ลาออกเพื่อไม่ถูกเป็นเครื่องมือทางการเมืองมาข่มขู่

'พท.' ประชุมด่วน 'แพทองธาร' แจ้งลาออก หน.พรรค ด้าน 'สรวงศ์' ยัน 'แพทองธาร' ยังเป็นเสาหลัก พท.สู้ศึกเลือกตั้ง มันใจ สส.ใจไม่แกว่ง

'วิสุทธิ์' บอกอิ๊งค์แค่ลาออกจากหัวหน้าไม่ได้ทิ้งพรรค!

'วิสุทธิ์' ชี้ 'เพื่อไทย' ไม่กังวล 'อิ๊งค์' ลาออกหัวหน้าพรรค ยันไม่มีใครบีบบังคับ แต่เปิดทางพรรคเดินหน้าเลือกตั้งราบรื่น ป้องกันการร้องเรียนภายหลัง