ส.ต.ต. ส่อโดนอีกกระทง เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์

25 ม.ค.2565 - ว่าที่ พ.ต.ดร.สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ อดีตเลขาธิการสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีส.ต.ต. คฝ. ขี่รถจักรยานยนต์ชนแพทย์หญิงเสียชีวิต ว่าตามกฎหมายแพ่งมาตรา 437 วางหลักการไว้ชัดเจนว่าผู้ที่ครอบครองหรือควบคุมยานพาหนะอันเดินด้วยเครื่องจักรกล จะต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากยานพาหนะและทรัพย์นั้น ดังนั้นตัวตำรวจที่ครอบครองรถจักรยานยนต์ขณะเกิดเหตุจึงเป็นผู้ที่ใช้ยานพาหนะนั้นในฐานะเป็นผู้ยึดถือในขณะเกิดเหตุ กรณีผู้เป็นเจ้าของยานพาหนะไม่ได้อยู่ในรถในขณะเกิดเหตุจึงไม่ใช่ผู้ครอบครองยานพาหนะนั้น จึงไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย ซึ่งมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2659/2524 และ 6249/2541 พิพากษาเป็นแนวทางไว้แล้ว ดังนั้นคดีนี้ตำรวจที่ขี่รถมาต้องรับผิด 100%

นอกจากนี้ยังมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2497 มีเนื้อหาว่า พลตำรวจคนหนึ่ง ลอบไขกุญแจเอารถยนต์ของกรมตำรวจไปขับขี่โดยพละการ พลตำรวจเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ กรมตำรวจไม่ได้ครอบครอง กรมตำรวจไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ตำรวจขับรถไปชนผู้อื่นนอกหน้าที่

ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าตำรวจที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปชนหมอขี่รถไปเพื่ออะไร ไป เป็นการปฏิบัติราชการตามหน้าที่หรือไม่ ถ้าทำไปตามหน้าที่ก็จะต้องมีหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานต้นสังกัดออกมารับผิดเหมือนเป็นตัวการตัวแทนตามพ.ร.บ.ความรับผิดละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2539 ซึ่งผู้เสียหายต้องฟ้องหน่วยงานของรัฐ จะฟ้องเจ้าหน้าที่โดยตรงไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเอารถไปทำธุระส่วนตัวนอกหน้าที่โดยแอบเอารถออกมาจะผิดข้อหาใดในทางอาญา ว่าที่พ.ต.ดร.สมบัติ กล่าวว่า หากเขามีหน้าที่ในการเก็บรักษารถยนต์รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้วเอารถไปใช้ส่วนตัวอาจจะเข้าข่ายผิดความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ตามกฎหมายอาญามาตรา 147 และอาจผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 อีกด้วย

แต่ถ้าไม่มีหน้าที่ดูแลรักษารถคันนี้เลย แอบเอารถไปใช้ส่วนตัว หรือมีลักษณะเอาไปเลย ตัดกรรมสิทธิ์เลย คือขนาดไม่คิดจะเอารถมาคืน ก็อาจจะเข้าข่ายผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ อันเป็นเหตุฉกรรจ์ของกฎหมานอาญา มาตรา 334 และก็เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรานี้ผิดยืนพื้นอยู่แล้ว

“ตอนนี้ตำรวจกำลังไปให้ความสนใจเรื่องเจ้าของรถที่แท้จริง ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกับคดีนี้ เพราะคดีนี้เป็นเรื่องความผิดของตำรวจคนหนึ่งนำรถจักรยานยนต์ที่เจ้าพนักงานยึดรักษาไว้ออกมาใช้โดยพละการ แล้วไปทำละเมิดต่อบุคคลอื่น ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งมาตรา 437 บัญญัติไว้ชัดแจ้งอยู่แล้ว ส่วนใครจะนำเข้ารถจักรยานยนต์ผิดหรือไม่ผิดอย่างไรต้องไปว่ากล่าวกันอีกเรื่อง” ว่าที่พ.ต.ดร.สมบัติ กล่าวเพิ่ม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุงวัย 63 ปี ซิ่งรถตุ๊กตุ๊กรับจ้าง กลับจากเล่นสงกรานต์ เสียหลักชนเสาไฟเสียชีวิต

มีอุบัติเหตุรถสามล้อเครื่องชนเสาไฟฟ้ามีผู้เสียชีวิต ภายในซอยวัดด่านสำโรง แยกย่อยซอยสำโรงเหนือ 17 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

'ด.ต.ปิยนันท์' ถูกชนสาหัส ถึงรพ.ตำรวจแล้ว พบเลือดคั่งในสมองจ่อผ่าตัดรอบสอง

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) นำขบวนรถส่งตัว ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ หรือดาบต้าร์ อายุ 39 ปี ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จากโรงพยาบาลจังหวัดลพบุรีมา

ผู้ช่วยผบ.ตร. พอใจอุบัติเหตุลดลง คาดวันนี้เดินทางกลับสูงสุด 6 แสนคัน

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการจราจรและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลประจำปี 2567 ร่วมกับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทั่วประเทศ