
20 ม.ค.2568-ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ทำไมชาวนาจึงเผาตอซังและฟางข้าว?” เนื้อหาระบุ
1.ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ที่ทำนาข้าวประมาณ 72.5 ล้านไร่หรือประมาณร้อยละ 20ของพื้นที่ทั้งประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง สามารถผลิตข้าวได้ประมาณ 22 – 24 ล้านตันต่อปี มีฟางข้าวเฉลี่ยประมาณปีละ 25.45 ล้านตัน และมีปริมาณตอซังข้าวที่ตกค้างอยู่ในนาข้าว 16.9 ล้านตันต่อปี ชาวนาส่วนใหญ่ทำการเผาเกิดฝุ่นควันและปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีโครงการรณรงค์ให้เกษตรกรทำการไถ กลบตอซังฟางลงในดินที่เตรียมเพาะปลูกใหม่แทนการเผาซึ่งจะเกิดการย่อยสลายเป็นอินทรียวัตถุและธาตุอาหารพืช..แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล
2.ช่วงเวลาที่เกษตรกรเผาฟางข้าวจะเริ่ม หลังจากทำการเก็บเกี่ยวข้าวคือช่วงกลางถึงปลายเดือนมกราคมเป็นต้นไปและเริ่มการไถพรวนดินในเดือนเมษายน ต่อจากนั้นจะหว่านข้าวก่อนสงกรานต์ เมื่อเข้าสู่ฤดูทําให้ต้นข้าวงอกใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษ ภาคมเป็นต้นไปและจะเริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงต้นเดือนมกราคม
3.ทำไมชาวนาจึงเผาตอซังและฟางข้าว?
3.1.ชาวนา 80%ไม่ได้มีนาเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เช่าที่ดินเพื่อทำนาชาวนาในพื้นที่ชนบทยากจนมากจึงไม่มีเงินพอที่จะจ้างรถไถกลบ การเผาจะประหยัดกว่าการจ้างรถไถมาไถกลบหรือทำการไถกลบเอง
3.2.ความเห็นของชาวนาคือ
– หากเป็นนาหว่าน ต้นข้าวจะหนามากและมีหญ้าขึ้นจำนวนมาก การไถตอซังข้าวและหญ้าจะทำได้ช้าและจะกำจัดซากวัช พืชได้ไม่ค่อยหมด
– หากเป็นการทำนาปรังซึ่งเป็นการปลูกข้าวต่อเนื่องกัน เช่น 3 ครั้งต่อปี จะทำให้ไม่มีเวลาที่จะให้ตอซังข้าวย่อยสลายได้เอง จึงมีความจำเป็นต้องเผา
– หากเป็นการทำนาแบบนาปี ซึ่งเป็นการทำนาโดยปล่อยน้ำเข้านาจะไม่มีการเผา
– หากเป็นนาหยอดและหญ้าหนาจริงๆก็ต้องเผาเหมือนกันไม่เช่นนั้น เวลาที่หยอดเมล็ดลงไปในหลุมจะเกาะกับดินเป็นก้อน
4.ตั้งแต่ปี 2550 เริ่มมีการเผาตอซังและฟางข้าวจำนวนมาก จนก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันปกคลุมไปทั่วภาคกลาง อีสานและภาคเหนือ ในปีนี้การเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเกิดขึ้นค่อนข้างมาก การทำงานของภาครัฐที่ผ่านมาทำเพียงแค่จัดโครงการรณรงค์ขอความร่วมมือไม่ให้ชาว นาเผาเพื่อลดปัญหาฝุ่น2.5แต่ยังเข้าไม่ถึง ว่าทำไมชาวนาต้องเผา
5.รัฐบาลควรลงไปดูที่ต้นตอของปัญหา รับฟังเสียงและช่วยเหลือชาวนา จัดการแก้ปัญหาในแต่ละกรณีย่างเป็นรูปธรรม เช่นให้คำแนะนำในการทำนาแบบไม่ต้องเผาในแต่ละรูปแบบของการทำนาโดยที่ชาว นาเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง รวมทั้งมีแนวทางการจัดหารถไถตอซังฟางข้าวให้เช่าในรา คาถูกหรือซื้อได้ในราคาถูกจะช่วยได้มากหรือสร้างแรงจูงใจจากภาครัฐหากไม่เผาเช่นจ่ายเงินชดเชยให้..หากภาครัฐไม่ได้รับฟังเสียงจากชาวนาแต่คิดแผนจัดการกันเองและทำเพียงแค่รณรงค์รวมทั้งบังคับใช้กฏหมายเท่านั้น..ยิ่งทำให้เกิดการลักลอบเผาโดยที่จับใครไม่ได้ เช่นปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทำค่าฝุ่นPM2.5 เพิ่ม 'นักวิชาการสิ่งแวดล้อม' ชี้ความเข้าใจผิดนำรถกระบะดีเซลอุด EGR
รถกระบะซิ่งและรถเครื่องยนต์ดีเซลที่อุดEGRและทะลวงCatจะปล่อยมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นPM2.5ออกมามหาศาล
นักวิชาการ กระตุก 'ชัชชาติ' จะประกาศให้กรุงเทพเป็นเขตควบคุมมลพิษ ต้องคิดให้ดี
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
กทม.ค่าฝุ่นอยู่เกณฑ์อันตราย! ‘นักวิชาการ’ แนะรีบประกาศ ‘พื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ’
ดร.สนธิ ชี้ฝุ่น PM2.5สูงมาก กทม.ควรใช้กฎหมายในการประกาศเป็น"พื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ" ได้แล้ว..เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่น ไม่ต้องไปรอหน่วยงานอนุญาตอื่นๆ
ฝุ่น PM 2.5 คลุมกรุงเทพฯ พื้นที่สีแดง 12 เขต สีส้ม 38 เขต
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวัน
‘นักวิชาการ’ ชี้โลกร้อนขึ้น ฤดูหนาวหนาวปากสั่น ฤดูร้อนร้อนเหงื่อตก!
ไม่แน่ฤดูว่าร้อนปี2025..ลานีญาอ่อนกำลังลงเข้าสู่ภาวะเป็นกลางระหว่างลานีญาและเอลนีโญ..ประเทศไทยอาจร้อนสุดขีดก็ได้
นักวิชาการ มีคำอธิบาย 'ทำไม?ประเทศไทยปีนี้จึงหนาวเย็นมากกว่าปกติ'
ความกดอากาศสูงที่กดทับประเทศไทยดังกล่าวทำให้เกิดอากาศปิดหรือมีลักษณะคล้ายฝาชีครอบ แหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆที่ปล่อยฝุ่นPM2.5 มาถูกอากาศเย็นหรือมวลความกดอากาศสูงครอบไว้