ปภ.ช. สั่งเข้ม! ปิดอุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง 'ห้ามเผา' เก็บของป่า-ล่าสัตว์

กระทรวงทรัพย์ฯ สั่งปิดอุทยานหลายจุดจัดการมือเผาป่า ขณะที่วันแรก Kick Off เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา" คึกคัก ชาวบ้านตอบรับมาก

3 ก.พ.2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ติดตามผลการปฏิบัติการวันแรกของกิจกรรม Kick Off เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันทุกพื้นที่ โดยใช้กลไกท้องถิ่นลงพื้นที่เคาะประตูบ้านประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชน ร่วมกันไม่เผาเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน พร้อมกำชับฝ่ายป้องกันและปราบปรามบังคับใช้กฎหมายดำเนินการจับกุม ผู้เผาอย่างเคร่งครัด

ขณะที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานต่อ ปภ.ช.ว่า ได้สั่งปิดอุทยานแห่งชาติในช่วงประกาศห้ามเผาเด็ดขาด เพื่อสกัดกั้นการเข้าไปเก็บหาของป่า รวมทั้งการลักลอบล่าสัตว์และเผาป่าซึ่งมักจะกลายเป็นไฟป่าที่ลุกลามเป็นวงกว้างและก่อให้เกิดจุดความร้อนและฝุ่นควันฟุ้งกระจายเป็นวงกว้าง โดยเบื้องต้นมีอุทยานฯที่ประกาศปิดป่า ดังนี้

1. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.เชียงใหม่ (ตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 เม.ย.68)
2. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี (ตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 พ.ค.68)
3. อุทยานแห่งชาติภูผายล อุทยานแห่งชาติภูพาน อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กและวนอุทยานภูผาแด่น จ.สกลนคร (ตั้งแต่20 ม.ค.–30 พ.ค. 2568)

ทั้งนี้ปภ.ช.ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด กรณีฝ่าฝืนเข้าไปในเขตอุทยานฯที่ประกาศปิด มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และหากพบว่าเข้าไปมีส่วนกับการลักลอบเผาป่าต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 4แสน บาท ถึง 2ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการเผาในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 และชั้น 2 จะมีโทษที่รุนแรงมากขึ้น

“ปภ.ช.ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนที่มีพื้นที่เกษตรรอบผืนป่า ให้ระมัดระวังการก่อไฟที่อาจลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่า หากพบว่ามีไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ จะถือว่าเข้าข่ายความผิดเดียวกับการลักลอบเผาป่า สำหรับ รายงานกรมควบคุมมลพิษ ถึงสถานการณ์ฝุ่น Pm2.5 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ณ เวลา 07:00 น. สถานการณ์ดีขึ้น พบสีแดงเพียงจุดเดียวที่จังหวัดสระบุรีมีค่า 76.2 มคก./ลบ.ม ขณะที่ สมุทรปราการเริ่มกลับเข้าสู่ค่ามาตรฐาน แต่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ ภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า มีจุดความร้อนอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างมาก ส่วนภาคเหนือตอนล่างสถานการณ์ฝุ่นค่อนข้างสูง ที่จังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก ส่วนภาคเหนือตอนบนฝั่งตะวันตก คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่สถานการณ์ดีขึ้น ขณะที่ภาคใต้ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยกเว้นจังหวัดชุมพรที่ยังเกินค่ามาตรฐาน“ นาย จิรายุกล่าว

ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศโดยรวมบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพอากาศค่อนข้างแห้ง ซึ่งจะต้องระวังในเรื่องของการเกิดอัคคีภัย และเกิดลมแรงในช่วงวันที่ 4 - 5 กุมภาพันธ์นี้ / ส่วนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลมมีกำลังอ่อนแรง ในวันที่ 6 - 8 กุมภาพันธ์ อาจจะมีปริมาณฝุ่นที่เพิ่มมากขึ้นแต่ยังไม่ถึงระดับสูงสุด โดยสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเผยโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้แล้วกว่า 7 แสนครัวเรือน วงเงินกว่า 6 พันล้านบาท

รัฐบาล เผยความคืบหน้าโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้แล้วกว่า 700,000 ครัวเรือน วงเงินกว่า 6,000 ล้านบาท กำชับเร่งเดินหน้าช่วยเหลือ ปชช.ต่อเนื่อง แนะ ปชช.รีบผูกพร้อมเพย์รับเงินเยียวยา

รองนายกฯ สุชาติ สั่งกรมอุทยานฯ เร่งเครื่อง "เคาะประตูบ้าน" สกัดไฟป่า-ลด PM2.5 ทั่วประเทศ ชูมาตรการเชิงรุก พร้อมบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น .

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการด่วนให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) เร่งขับเคลื่อนมาตรการเรือธง "เคาะประตูบ้าน" อย่างเข้มข้น

'อนุทิน' ไม่หวั่นไหว 'ฮุนเซน' ปล่อยภาพใกล้ชิดผู้ว่าฯกัมพูชา มองเป็นเรื่องไร้สาระ

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯอนุทิน ไม่หวั่นไหว "ฮุนเซน" ใช้วิธีสแกมเมอร์ ปล่อยภาพใกล้ชิดกับผู้ว่าฯกัมพูชา มองเป็นเรื่องไร้สาระ แค่ภาพเก่า ไปร้านอาหาร ไปวัด ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดถึงขนาดเดินในห้องนอน กร้าวปัญหาชายแดนต้องจบในรัฐบาลนี้

เปิดไทม์ไลน์ละเอียดยิบ กัมพูชาเปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน ไทยตอบโต้ตามหลักสากล

รัฐบาล ย้ำไทยใช้เครื่องบินรบเพื่อสกัดกั้นการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาที่เริ่มรุกรานก่อน จนเป็นเหตุให้ทหารไทยบาดเจ็บ-เสียชีวิต โดยตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองตามกฎการปะทะ อย่างได้สัดส่วน ตามหลักสากล