5 ก.พ.2568 - ที่โรงแรมเรือรัษฎา จ.ตรัง ในการเสวนาเรื่องความเสี่ยงในการจัดจ้างต่อเติมงานก่อสร้างหอศิลป์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จัดขึ้น นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง กล่าวถึงภาพรวมการทุจริตใน จ.ตรัง ว่า กรณีปัญหาการทิ้งงาน หรือทิ้งร้าง สร้างความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน โดยภาพรวมทั้งหมดในจังหวัดตรังมี 23 โครงการงบประมาณ 2,095 ล้านบาทพร้อมยกตัวอย่างการจัดจ้างต่อเติมงานก่อสร้างหอศิลป์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ โครงการนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2559 ใช้งบประมาณไป 4 ครั้ง และตอนนี้ยังไม่เสร็จ งบประมาณมีจำนวนมาก ใช้งบรวมกันไม่น้อยกว่า 390 ล้านบาท โดยจังหวัดตรังในขณะนั้นใช้งบกลุ่มจังหวัด จำนวน 39 ล้านบาทเศษ ต่อมามีเงื่อนไขว่าจะมอบให้เทศบาลนครตรังดูแล โดยในปี 2560 เทศบาลนครตรังได้ตั้งจ่ายงบใหม่เพื่อใช้ในโครงการนี้ 61 ล้านบาท หลังจากนั้นในปี 2562 จะดำเนินการสร้าเพื่อโอนให้เทศบาลนครตรัง แต่การก่อสร้างโครงสร้างต่าง ๆ ก็ยังไม่เสร็จ
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า เมื่อทิ้งระยะมานานจนกระทั่ง ป.ป.ช.ไปลงติดตามเรื่องนี้ หลังจากนั้นก็มีการจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ โดยใช้ค่าจ้าง 3.5 ล้านบาท ปรากฏว่า ดำเนินการตามสัญญาจ้างเรียบร้อย ณ วันนี้ และมีการตรวจรับงานด้าน ที่ปรึกษา ได้ปรึกษาเนื้อหาแนวทางแล้ว จนเคาะราคากลางก่อสร้าง ปรากฏว่าการกำหนดราคากลางเป็นส่วนหนึ่งคือ 287 ล้านบาท อย่างไรก็ดีตามกฎหมายท้องถิ่น หากจะใช้งบเกิน 200 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจของผู้ว่าฯตรัง เทศบาลตรังจึงมีหนังสือถึงผู้ว่าฯอนุมัติ แต่ผู้ว่าฯตรังเห็นว่ายังไม่ครบถ้วน จึงขอเหตุผลเพิ่มเติม เช่น โครงการใหญ่ขนาดนี้ คุ้มค่าหรือไม่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมดำเนินการหรือไม่ การบริหารจัดการอาคารนี้หลังจากนี้บริหารจัดการต่อเนื่องหรือไม่ ตนได้ประสานกับ สตง. เรื่องความคุ้มค่า เราต้องร่วมมือติดตามเรื่องนี้จนทุกวันนี้เทศบาลนครตรัง มีหนังสือถึงผู้ว่าฯ ว่าเสนอไปแล้ว แต่ยังไม่อนุมัติ
“ทำไมเรื่องนี้เราให้ความสำคัญ หลังจากนี้เมื่อมีการบริหารจัดการโครงสร้าง โครงการขนาดใหญ่ นอกจากจะดูว่าคุ้มค่าหรือไม่ เกรงว่าจะทิ้งร้าง เพราะในตรัง 23 โครงการทิ้งร้างไป 2 พันกว่าล้านบาท แล้วโครงการนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ จะทิ้งร้างอีกหรือไม่ เราจะติดตามต่อเนื่องแน่นอน ไม่อย่างนั้นสภาพปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น ผมจึงเสนอว่ากรณีอย่างนี้ ก่อนสร้างโครงการทำไมไม่ศึกษาความเป็นไปได้ก่อน งบประมาณขนาดนี้ ถต้องศึกษาความเป็นไปได้ ความเสี่ยง” นายบัณฑิต กล่าว
จากนั้น เวลา 16.00 น. นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความเสี่ยงในการจัดจ้างต่อเติมงานก่อสร้างหอศิลป์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ที่มีนายนิวรณ์ แสงวิสุทธิ์ รองนายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมคณะ มาให้ข้อมูล
โดยนายสาโรจน์ กล่าวว่า กรณีดำเนินการอี- บิดดิ้งเพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อในวงเงินกว่า 200 ล้านบาท จะต้องเป็นความรับผิดชอบของคู่สัญญา ซึ่งจะต้องบริหาเป็นไปตามสัญญา แต่ที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างคือ สถานที่ที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้น ต้องมีแผนรองรับในการดำเนินการจัดกิจกรรมและจัดงาน และค่าใช้จ่ายในการดูแลสถานที่ที่จะต้องคิดต่อว่าจะหาเงินมาจากไหน ไม่เช่นนั้นหากอาคารก่อสร้างเสร็จแล้ว หากไม่วางแผนรองรับไว้ ก็จะไปต่อลำบาก และจะเกิดสภาพการใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ เมื่อใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ก็จะไม่เกิดรายได้ แต่มีค่าใช้จ่าย ดังนั้น โครงการลักษณะนี้มีหลายจุดที่เป็นปัญหาจึงฝากเป็นข้อสังเกตไว้ เชื่อว่าทีมงานเทศบาลจะเตรียมการในเรื่องนี้ไว้ และแม้ว่าทรัพย์สินนี้จะตกเป็นของกระทรวงการคลัง ขอผู้รับเหมาอย่าทิ้งงานและอย่าทิ้งร้าง
นายสาโรจน์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของอาคารนี้เดิมคือ ทำเพื่อเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรม ดังนั้น ต้องดูกลุ่มเป้าหมายด้วย และมีความเป็นไปได้อย่างไร และวางแผนต่อไปว่าหากมีคนเข้ามาดูจำนวนน้อยจะทำอย่างไรต่อ เมื่อจะทำในเชิงพาณิชย์ก็อาจจะผิดวัตถุประสงค์ ดังนั้น จึงฝากให้เทศบาลไปดูด้วย
ทั้งนี้ นายนิวรณ์ ชี้แจงถึงความคืบหน้าการก่อสร้างว่า เมื่ออาคารสร้างเสร็จเทศบาลก็จะเข้ามาดูแล บริหารจัดการ ให้ใช้ประโยชน์ให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ขณะนี้มีแผนเตรียมการไว้แล้วว่าจะมีการดำเนินโครงการ ทีเค ปาร์ค ซึ่งได้ทำข้อตกลงไว้แล้ว อาร์ซีตรัง และพิพิธภัณฑ์ ที่ขณะนี้ให้มิวเซียมสยามมาเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งทุกอย่างได้ประสานและตกลงกันเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนอาคารที่เหลือก็ต้องหาวิธีบริหารจัดการจะใช้พื้นที่อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นโจทย์ที่ทางเทศบาลจะต้องดำเนินการ ซึ่งเป็นแผนการเดิม ส่วนเงื่อนไขที่จะต้องตกลงกับกรมธนารักษ์ ซึ่งอาคารนี้เป็นทรัพย์สินของกระทรวงการคลังท่่มีเงื่อนไขไม่ให้หาผลประโยชน์ ดังนั้น จะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป เพราะลำพังเทศบาลดูแลเองคงไม่ไหว โดยหลักการต้องให้อาคารนี้ดูแลตัวเองได้ เป็นเป้าหมายที่คาดหวังและเป็นโจทย์ที่ต้องคิดต่อไป
ขณะที่การก่อสร้างอาคารหลังจากนี้ นายนิวรณ์ กล่าวว่า มีแผนเดิมคือ 18 งวดงาน จะต้องดำเนินการใน 720 วัน ซึ่งมีคณะกรรมการกำกับดูแลคาดหวังว่าหากไม่มีปัญหาใดๆ งานก็จะแล้วเสร็จในปี 2570 หลังจากนั้นจะมาบริหารจัดการอาคาร ทางนี้มั่นใจว่าจะสร้างอาคารให้แล้วเสร็จ แต่ขึ้นอยู่กับผู้รับจ้าง ที่ขณะนี้เตรียมพร้อมที่จะเข้าซ่อมแซมอาคารแล้ว และได้เช็นสัญญาไปแล้ว ส่วนข้อห่วงใยของ ป.ป.ช.นั้น เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะนำไปวางแผนต่อและปรับเนื้องานให้เสร็จและต้องเกิดความคุ้มค่าและประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด นั่นคือความคาดหวังที่เราจะต้องทำให้ได้ แต่เหลือเวลาอีก 2 ปีที่จะต้องศึกษาเรียนรู้ นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้จาก ป.ป.ช. จะไปหาวิธีการ ว่าจุดเสี่ยงอยู่ตรงไหน ประเด็นปัญหาจะต้องแก้อย่างไร เป็นโจทก์หนึ่งที่จะต้องเตรียมไว้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เลขาฯป.ป.ช.' คาดคดี '44 อดีตสส.ก้าวไกล' จบกลางปีนี้ เผยมารับข้อกล่าวหาไม่กี่คน
'เลขาฯป.ป.ช.' เผย คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล แก้ 112 มารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองไม่กี่คน ส่วนใหญ่ส่งไปทางไปรษณีย์ ยันพิจารณาพฤติการณ์รายบุคคล คาดจบกลางปีนี้
'ชาวเกาะลิบง' ร้องผู้ว่าฯตรัง เดือดร้อนหนัก คลื่นซัดบ้านพังยับผ่านมา 7 เดือนยังไร้เยียวยา
ชาวบ้านสุดทน บุกล้อมศาลากลางตรัง เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าตรัง โบ้ย หลังจากผ่านไป 7 เดือน ที่อยู่อาศัยถูกคลื่นซัดพัง รัฐไร้เยียวยา ไม่มีแม้ที่ดินแม้จะสร้างบ้าน เดือดร้อนหนัก เรียกร้องให้มีการช่วยเหลือด่วน ก่อนหน้ามรสุมจะมาอีกครั้ง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
ป.ป.ช. รับคำร้องญาติอดีตผกก.โจ้ ปมจนท.กลั่นแกล้ง ต้องสอบก่อนตั้งอนุไต่สวน
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีร่ำรวยผิดปกติ และคดีอาญาของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้
ถนัดตบจูบ! 'ทักษิณ' บอก 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' อยู่กันแบบนี้ออกรสชาติดี
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 81 สว.ยื่นคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายของคณะ
มติรัฐสภา ตีตก ร่างกม.ป.ป.ช. โอนคดีทุจริตทหารสู่ศาลอาญาทุจริต
เสียงข้างมาก 415 เสียง ลงมติไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ป.ป.ช. ฉบับแก้ไข ที่ให้โอนคดีทุจริตของบุคลากรในกองทัพจากศาลทหารไปยังศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขณะเสียงข้างน้อยชี้ ปล่อยให้ศาลทหารพิจารณาคดีต่อ เท่ากับประวิงเวลาและขัดหลักความยุติธรรมสากล
'นิพิฏฐ์' ชำแหละ คดีฮั้วเลือกสว. พันกันเหมือนงูกินหาง เงาแห่งหายนะมาเยือน
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เงาแห่งหายนะมาเยือน