
21 ก.พ. 2568 – ที่ห้องปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ ชั้น 11 อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา ดร.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงว่า ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ลักษณะอากาศประเทศไทยจะเริ่มมีความแปรปรวนมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล ลมเริ่มเปลี่ยนทิศทาง เช้าอากาศเย็น กลางวันอากาศร้อน ต้องติดตามและเฝ้าระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและเตรียมพร้อมรับมือ โดยในช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่ามวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้
ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน จึงทำให้เกิดลักษณะอากาศที่แปรปรวนขึ้น โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังค่อนข้างแรง บริเวณทีมีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ดังนั้น ขอให้ชาวเรือระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ส่วนการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย ปี 2568 นั้น ดร.สุกันยาณี อธิบายว่า ตามเกณฑ์ทางอุตุนิยมวิทยา จะพิจารณา 2 องค์ประกอบคือ (1) อุณหภูมิสูงสุดบริเวณประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาค ตะวันออก) วัดได้ตั้งแต่ 35.0 องศาเซลเซียส (°ซ.) ขึ้นไป มีมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และ (2) ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมหนาว) ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมฝ่ายใต้พัดปกคลุมแทน โดยเกณฑ์อากาศร้อนจะใช้อุณหภูมิสูงสุดประจำวัน (อากาศร้อน อุณหภูมิตั้งแต่ 35.0-39.9 °ซ. และอากาศร้อนจัด อุณหภูมิตั้งแต่ 40.0 °ซ.)
สำหรับปีนี้ฤดูร้อนของประเทศไทยจะเริ่มขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และจะสิ้นสุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35-36 °ซ. หากเทียบกับค่าปกติ (35.4 °ซ.) จากสถิติที่กรมอุตุนิยมวิทยารวบรวมตั้งแต่ปี 2494 พบว่าอุณหภูมิไม่สูงเท่าปีที่แล้ว เป็นปีที่มีปรากฏการณ์ลาณีญากำลังอ่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดมีโอกาสที่อุณหภูมิจะสูงกว่า 42 °ซ. จำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น และชัยภูมิ รวมทั้งเป็นช่วงที่จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้เป็นระยะ ขอให้ติดตามข่าวสารที่กรมฯ จะแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า สำหรับปริมาณฝนคาดว่ามากกว่าค่าปกติร้อยละ 10 – 20 แต่ฝนที่ตกในช่วงฤดูร้อนจะเป็นฝนที่ตกไม่นานและครอบคลุมพื้นที่ไม่กว้าง แนะนำให้สำรองน้ำและใช้อย่างประหยัด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่งท้ายปลายปี 'เหนือ-อีสาน' อุณหภูมิต่ำสุด 12-13 องศาฯ 'กทม.' อากาศเย็นตอนเช้า
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง
'จีน-ไทย-เขมร' เปิดฉากไตรภาคี นานาชาติร่วมยินดีหยุดยิง
'จีน-ไทย- กัมพูชา' หารือไตรภาคี หลังหยุดยิง นานาชาติร่วมยินดีไทย กต. ยืนยันยังคงรวบรวมหลักฐานทุ่นระเบิด เสนอตามกรอบออตตาวา ในฐานะรัฐภาคีที่รับผิดชอบต่ออนุสัญญา
เฝ้าระวัง72ชม. จับตา‘กัมพูชา’ เบี้่ยวเจอสวน!
ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ แจงเฝ้าระวังหยุดยิง 72 ชั่วโมง ชี้ตัวเลขที่เหมาะสม-ระดับมาตรฐานสากลใช้กันทั่วโลก ชี้บทเรียนฉีกข้อตกลงไทยพร้อมตอบโต้ป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติข้อ
หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!
ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม
ศูนย์แถลงฯ เปิดเหตุผล ‘ไม่รบต่อ’ ประเมินโดยฝ่ายทหาร ไร้การเมืองบีบ
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เผยเอกสารตอบคำถามประชาชน 20 ข้อ ชี้การตัดสินใจหยุดการรบมาจากการประเมินของฝ่

