“สภาฯเอกฉันท์” เห็นชอบแก้กฎหมายอาญา เพิ่มนิยาม “คุกคามทางเพศ” ครอบจักรวาล เอาผิดครอบคลุมทั้งการคุกคามทางวาจา การแสดงท่าทาง การเฝ้าติดตาม ทำให้อับอาย รวมทั้งคุกคามผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดนคุกตั้งแต่ 1-5 ปี พวกเจ้านายหัวงูฉวยโอกาสเคลมลูกน้องก็อยู่ในข่ายความผิด ติดคุก 3 ปี ขณะที่เฟซบุ๊ก ไลน์ หากไม่ระงับเผยแพร่ภาพ วีดีโอผู้เสียหายตามคำสั่งศาล ติดคุกด้วย30 กรกฎาคม 2568 - เมื่อเวลา 13.50 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนี่ง เป็นประธานการประชุม พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ… ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาเสร็จแล้ว มีนายศุภชัย ใจสมุทร จากพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกมธ. ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระ 2 และวาระที่ 3
โดยนายศุภชัย ชี้แจงว่า กมธ.ฯได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ฯ ในหลายประเด็น เพื่อให้ร่างกฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์และสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดย 1.มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “กระทำการ” และเพิ่มบทนิยามคำว่า “คุกคามทางเพศ” 2.ยกเลิกเหตุฉกรรจ์ของความผิดฐานอนาจาร 3. กำหนดความผิดฐานคุกคามทางเพศ
สำหรับกรณีผู้กระทำความผิดให้ผู้อื่นกระทำกับตนนั้น ไม่รวมถึงการใช้อวัยวะอื่นหรือวัตถุล่วงล้ำอวัยวะเพศ หรือทวารหนักของตนด้วย เพราะมิฉะนั้นการกระทำของแพทย์ในการตรวจร่างกายจะเป็นความผิด
เนื่องจากพิจารณาว่า หากเป็นกรณีการคุกคามทางเพศที่ไม่ร้ายแรงโดยคู่กรณีสามารถตกลงกันได้ ก็ให้สามารถยอมความกันได้เพื่อไม่เป็นการเพิ่มภาระทางปริมาณคดีแก่ศาล ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.หากเป็นการกระทำที่ไม่ใช่เป็นการกระทำต่อหน้าธารกำนัล และไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัส หรือถึงแก่ความตาย ก็ให้สามารถยอมความได้
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า มีการกำหนดความผิดฐานคุกคามทางเพศ และกำหนดโทษ รวมถึงเหตุฉกรรจ์ เพื่อให้การคุกคามทางเพศเป็นความผิดทางอาญาและมีโทษ และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำขึ้นอีก อีกทั้งเพื่อป้องปรามมิให้ผู้กระทำฉวยโอกาสกระทำความผิดต่อเด็ก ซึ่งไม่สามารถต่อสู้ หรือช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากอันตรายจากการกระทำได้ กำหนดเหตุฉกรรจ์ที่ทำให้ผู้กระทำต้องรับโทษเพิ่มขึ้น เพื่อป้องปรามมิให้ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง หรือผู้มีอำนาจเหนือบุคคลอื่นฉวยโอกาสกระทำการคุกคามทางเพศต่อผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชา ลูกจ้าง หรือผู้ที่อยู่ภายใต้อำนาจประการอื่น เช่น ผู้ที่ต้องอาศัยพึ่งพา ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น
ให้อำนาจศาลในการกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยในกรณีความผิดฐาน
คุกคามทางเพศ โดยมีเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ให้ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานคุกคามทางเพศผ่านระบบคอมพิวเตอร์ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลจะมีอำนาจพิจารณาออกคำสั่งให้ผู้กระทำ ตลอดจนผู้ให้บริการระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook Line Tiktok เป็นต้น
มีการเพิ่มอัตราโทษการกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ กำหนดให้การกระทำดังกล่าวในที่สาธารณะสถานหรือต่อหน้าธารกำนัลเป็นเหตุฉกรรจ์ ที่ต้องรับโทษเพิ่มขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
เปิด 3 ทฤษฎี! 'นายกฯหนู' ยุบสภาหลังโหวตวาระ 3 แก้รธน.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้ความผ่านเฟซบุ๊กว่า Game of Thrones การเมืองไทย
'ชลน่าน' คาดถกแก้ รธน. วาระสอง ใช้เวลา 2 วันพอ แม้มีประเด็นให้เถียงกันหนัก
“ชลน่าน” ประเมิน ถกแก้รธน.วาระสอง 2 วันเพียงพอ แม้มีรายละเอียดมาก- ถกกันหนัก แต่ยุติด้วยเสียงข้างมาก เผยสงวนความเห็นไปสู้ในรัฐสภา ทวงคืน “สสร.- โละสูตร20 หยิบ1
ครม. เห็นชอบ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญ 10-11 ธ.ค. ลุยแก้ รธน. ให้เสร็จทันสิ้นปี
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกสมัยประชุมวิสามัญ รัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และวาระ 3
'ภราดร' ชงสภาฯ เปิดประชุมวิสามัญ 8-10 ธ.ค. เร่งแก้ รธน. หวังวาระ 3 จบก่อนปีใหม่
“ภราดร” ชง สภา เปิดวิสามัญ 8-10 ธ.ค. พิจารณาแก้ รธน. หวังโหวตวาระ 3 เสร็จก่อนปีใหม่ มีเวลาให้ กกต. ทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง ยํ้า กมธ.เห็นพ้อง หาทางรอดคำวินิจฉัยศาล เล็งสูตรคนละครึ่ง สมัครก่อน ให้สภาจับกลุ่มเคาะ เลี่ยงเข้าคูหาโดยตรง


