แม่ ส.อ.ธีรพล เปิดใจลูกเหยียบกับระเบิด สูญเสียขา ได้รับใช้ชาติ ปกป้องแผ่นดินไทย

แม่ทหารกล้าเหยียบทุ่นระเบิดรายล่าสุดและครอบครัวตกใจหลังทราบข่าวลูกชายขาขาด แต่ดีใจที่ได้รับใช้ชาติ เผยทุกครั้งที่ลูกจะไปหรือมาจะกราบเท้าแม่เอาเท้าเหยียบหัวทุกครั้ง ลูกชาย ส.อ.ธีรพล เผยไม่เสียใจพ่อเป็นไอดอลของตัวเอง ครบอายุ 21 ปีสมัครเป็นทหารจะเข้าประจำการเดือน พ.ย.นี้

12 สิงหาคม 2568 - หลังกองทัพบก ได้รับรายงาน "หน่วยทหารพรานร้อย.ทพ.2610" ได้รับบาดเจ็บ สูญเสียขา 1 นาย ระหว่างลาดตระเวนพื้นที่ "ปราสาทตาเมือนธม" เหตุเกิดช่วงเวลา 09.10 น. ในพื้นที่ช่องจุ๊บตาโมก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทางทิศตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม เบื้องต้นพบเป็นทุ่นระเบิด PMN 2 และคาดว่าเป็นการนำมาวางใหม่ ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์

ทราบต่อมาว่าทหารคนดังกล่าวคือสิบเอก ธีรพล หรือแกละ เพียขันที อายุ 48 ปี ตำแหน่ง ผบ.ชุดปฎิบัติการ ชป.ร้อย ทพ.กรม ทหารพราน 26

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 489 หมู่ 1 ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านแม่ของสิบเอก ธีรพล พบชาวบ้านมาให้กำลังใจนางสาคร เพียขันที อายุ 78 ปี แม่ของสิบเอกธีรพล เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็นหน่วยกู้ภัยฮุก 31 ได้เอาข้าวของมาให้กำลังใจด้วย

โดยนางสาคร ได้ดูคลิปภาพขณะรถพยาบาลนำร่างของลูกชายไปส่งโรงพยาบาลอย่างใจจดใจจ่อด้วยความเป็นห่วงลูกว่าได้รับบาดเจ็บแค่ไหน จนกระทั่งทราบว่าขาซ้ายของลูกชายขาดเพราะไปเหยียบทุ่นระเบิดของฝั่งทหารกัมพูชาที่เอามาวางไว้

นางสาคร เล่าว่า ลูกชายสมัครเป็นทหารพรานได้ประมาณ 23 ปี ทุกครั้งที่ลูกชายจะไปทำงานตามชายแดน หรือกลับจากชายแดนจะเข้ามากราบเท้าแม่แล้วเอาเท้าแม่เหยียบที่หัวทุกครั้ง นอกจากนั้นทุกครั้งเช่นเดียวกันลูกชายมักจะฉีกเอาชายผ้าถุงของแม่ ติดตัวไปด้วย

หลังจากมีคำสั่งให้เตรียมความพร้อมก่อนจะมีการรบกันลูกชายได้เก็บรถ เก็บข้าวของแล้วเดินทางไปในวันที่ 23 ก.ค. และทุกวันลูกชายจะโทรศัพท์มาคุยกับแม่และครอบครัวทุกวัน ถึงแม้จะมีการหยุดยิงไปแล้วก็ตามแต่ลูกชายก็จะโทรมาเป็นประจำเหมือนที่เคยโทร

จนล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ลูกชายได้โทรมาว่าสบายดีไม่เป็นอะไรแล้วเพราะหยุดรบแล้ว ตนก็ดีใจว่าลูกปลอดภัยแล้ว แต่เพียงข้ามคืนกลับได้รับข่าวว่าลูกชายขาขาด

นางสาคร เล่าทั้งน้ำตาว่ายอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ดีใจที่ลูกชายได้รับใช้ชาติ ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว หลังจากนี้ทางบ้านก็จะดูแลลูกชายต่อไปถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ขณะที่นายธนาศักดิ์ เพียขันที อายุ 21 ปี ลูกชายสิบเอกธีรพล เล่าว่าตนเองเห็นพ่อเป็นทหารแต่ตัวทหารแล้วรู้สึกชอบ เห็นพ่อเป็นไอดอลของตัวเองเสมอ พอปีนี้ตนอายุครบ 21 ปี ซึ่งจะต้องถึงเวลาเกณฑ์ทหาร จึงไปสมัครเป็นทหารจะเข้าประจำการผลัด 2 ในเดือนพฤศจิกายน 68

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม

ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่