ผู้ว่าฯสระแก้ว เผย สมช. ไฟเขียวตั้ง คกก.ศึกษาสร้างแนวรั้วชายแดน 16 กม.

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันเอาจริง ย้ายคนกัมพูชา รุก "บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว" รอผลประชุม GBC 10 ก.ย.นี้ เผย สมช.ไฟเขียวตั้ง คกก.ศึกษาสร้างรั้วชายแดนแล้ว 
 
6 กันยายน 2568 - คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุม ติดตามสถานการณ์ปัญหาความมั่นคงชายแดนในพื้นที่อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พ.อ.ปฏิวัติ เฟื่องประภัสสร์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ 12 กองกำลังบูรพา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าร่วม 
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงในที่ประชุมว่า ตนเองยังไม่เกษียณอายุราชการเพียงแต่ต่อระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง รวมทั้งที่มีการนำเสนอข่าวว่าพื้นที่บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์นั้น ไม่เป็นความจริง บ้านหนองจาน มีพื้นที่รวมกว่า 3,000 ไร่ โดยพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์คือพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียง ยืนยันว่าจะมีการออกเอกสารสิทธิ์ให้พื้นที่ดังกล่าว ทวงคืนพื้นที่เหล่านี้กลับมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ทำกินและเป็นผืนแผ่นดินไทย
 
“ใครที่บอกว่าผมขายชาติ ลองคิดดูว่าขายหรือไม่ ถ้าผมทำอย่างนี้แล้ว ก็อยู่ที่ท่านจะใช้ดุลยพินิจ”
 
นายปริญญา กล่าวต่อว่า ตนเองได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ขอความร่วมมือดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ประท้วงกลับ เรามีจุดประสงค์ให้สังคมไทยรู้ว่า กองกำลังบูรพา แม่ทัพภาคที่ 1 เอาจริง ไม่ใช่ทำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เราทำอย่างรอบคอบรัดกุมเป็นไปตามเงื่อนไขทวิภาคีและกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมกับตอบคำถามกับผู้สังเกตการณ์ได้ โดยขั้นตอนต่อไปต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10  ก.ย.นี้ เนื่องจากได้ชงเรื่องเขตแดนบ้านหนองจานไปยังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขอให้นำวาระเข้าไปพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา แม้จะมีการส่งหนังสือหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยไปแล้วก็ตาม โดยยืนยันว่าได้วางแผนดำเนินการไว้ทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นได้ทำการติดป้ายประกาศขอให้ออกจากพื้นที่ หากไม่ปฏิบัติตามก็จะดำเนินการตามตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 รวมถึงพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ในเวลาที่เหมาะสม
 
ส่วนแนวคิดการสร้างรั้วบริเวณชายแดน 16 กิโลเมตร เมื่อวานนี้ (5 ก.ย.68) ที่ประชุม สมช.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างรั้วชายแดนในจุดที่มีความจำเป็นต้องสร้าง เพื่อป้องกันการขนยาเสพติด สินค้าหนีภาษี และการแสดงอาณาเขตของประเทศ 
 
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ ระบุว่าเรากังวลว่าจะมีการยกระดับไปสู่การปะทะ คณะกรรมาธิการจึงจำเป็นจะต้องรวบรวมข้อมูล เผื่อนำไปสู่การสนับสนุนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ค้านการสร้างรั้ว แต่อย่างไรจะต้องหามาตรการเพิ่มเติม หากมีการละเมิดอธิปไตยก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องอาณาเขตของประเทศไทย  ฉะนั้นเรื่องเทคโนโลยีและกล้องเป็นสิ่งสำคัญ สอดคล้องกับฝ่ายทหารที่ต้องการ CCTV เพื่อเฝ้าระวังจุดที่มีความอ่อนไหว โดยประเด็นนี้คณะกรรมาธิการจะมีการพูดคุยกับ สมช.ต่อไป 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน สร้างรั้วชายแดน บังเกอร์ หลุมหลบภัย ถนนตรวจการณ์

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิง

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่