14 ตุลาคม 2568 - นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน กล่าวว่า "ช่วงนี้การโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งหลายคนอาจมองเป็นปรากฏการณ์ปกติที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่สำหรับผมแล้วอดไม่ได้จริงๆ ครับ ที่จะมองปรากฏการณ์นี้ที่เกิดขึ้นทุกปีด้วยความอนาถใจ
ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือกรณีภูเก็ตบ้านผมเองครับ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตท่านใหม่ป้ายแดง เพิ่งมีคำสั่งย้ายมาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมานี่เอง มาวันนี้ 14 ตุลาคม ผ่านไปยังไม่ทันจะสองอาทิตย์ดีมีคำสั่งย้ายผู้ว่าท่านใหม่เรียบร้อย
สำหรับกรณีภูเก็ตอาจเป็นกรณีพิเศษหน่อย แต่ปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นวงรอบปกติในการบริหารราชการแผ่นดินทั่วประเทศไทยมานานแล้ว เน้นเลยครับว่า *ตามวงรอบปกติ* วาระเฉลี่ยของผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ไม่เคยเกิน 1-4 ปี ส่วนใหญ่ คือ ผู้ใหญ่ที่ท่านใกล้เกษียณย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าแล้วจากไป
ใครที่มองด้วยความเคยชินในระบบการบริหารราชการที่เป็นมาของประเทศนี้ก็คงจะไม่แปลกใจ แต่ถ้าใช้คอมมอนเซนส์ในการมอง ระบบแบบนี้คือระบบที่ไร้ประสิทธิภาพที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดินครับ
ผมกำลังพูดถึงระบบที่อำนาจในการตัดสินใจสูงสุดของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศอยู่ที่ส่วนกลาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่แต่งตั้งมาจากส่วนกลางเป็นคนมีอำนาจตัดสินใจสูงสุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ แม้จะมีโครงสร้างท้องถิ่นอย่าง อบจ. อบต. เทศบาล แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือผู้ว่าเสมอ เมื่อเป็นเรื่องใหญ่ท้องถิ่นไม่เคยทำเองได้ ต้องให้ผู้ว่าเซ็น ไม่ก็ส่งเรื่องไปส่วนกลางเซ็นมานู่นเลย
และเมื่อผู้ว่าส่วนใหญ่คือคนนอก แล้วยังมีวาระที่สั้นอีก เพิ่งจะเคยชินกับสภาพของจังหวัดพอจะบริหารได้หน่อยก็ถูกย้ายไปอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าอายุผู้ว่าภูเก็ตล่าสุด 1-14 ตุลาคม นี่เป็นสถิติการดำรงตำแหน่งที่สั้นที่สุดของผู้ว่าราชการจังหวัดในประเทศไทยมั้ย แต่อย่างไรมันก็เป็นปรากฏการณ์ที่น่าอนาถอยู่ดี
เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของผู้ว่าที่เป็นตัวบุคคล แต่มันคือระบบที่มีปัญหา ระบบที่อำนาจสูงสุดในการบริหารจังหวัดอยู่ในมือของตำแหน่งที่ถูกแต่งตั้งมาจากส่วนกลาง ส่วนใหญ่เป็นคนนอก และมีอายุสั้น ระบบแบบนี้จะพัฒนาจังหวัดบ้านเกิดเมืองนอนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตำแหน่งนี้ยังถูกโยกย้ายได้ตามชอบตามอำเภอใจของขั้วการเมืองที่เป็นรัฐบาลกลางและคุมกระทรวงมหาดไทย แล้วประชาชนอยู่ตรงไหนในสมการครับ?
ประเทศไทยพยายามกระจายอำนาจมาตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ 2540 ทำให้เรามีโครงสร้างท้องถิ่นอย่าง อบจ. อบต. และเทศบาล แต่การกระจายอำนาจของไทยถูกกั๊กไว้ตลอด สุดท้ายประเทศไทยก็ได้แต่มีท้องถิ่นที่มีอำนาจแบบพอถูไถ แต่อำนาจที่แท้จริงยังอยู่ในมือส่วนกลาง ไม่ยึดโยงกับประชาชน และไม่อาจพัฒนาท้องถิ่นและประเทศของเราได้จริง
ปรากฏการณ์แบบนี้มันตอกย้ำถึงความไม่มีประสิทธิภาพของระบบบริหารราชการแผ่นดินแบบนี้ และยิ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นที่เราจะต้องมีการเลือกตั้งผู้บริหารจังหวัดทุกจังหวัดโดยตรงจากคนในจังหวัดจริงๆ เสียทีครับ #เลือกตั้งผู้ว่า "
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้
โทรโข่งเพื่อไทย โจมตี 'อนุทิน' โยกย้าย ขรก.มหาดไทย ในจำนวนที่น่าตกใจมาก
"ศึกษิษฏ์" ซัด "อนุทิน" โยกย้าย ขรก.มหาดไทยไม่หยุด ตั้งข้อสังเกตโยงเครือข่ายบ้านใหญ่รับศึกเลือกตั้ง ตอก "ธนาธร" หลังออกโรงป้อง "เสี่ยหนู" เหน็บ ภท.-ปชน.ติดค้างสินน้ำใจกันอยู่หรือไม่
'สุพิศาล' อดีตแกนนำพรรคส้ม ลาออกแล้ว แฉเลือกผู้สมัคร สส. มีลับลมคมใน
พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ได้ลาออกจากพรรคประชาชน ว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา
'จุลพันธ์' ซัดแรง 'ธนาธร' อย่าชี้นิ้วโทษคนอื่นปมแก้ รธน. แค่นี้มองไม่ออกก็โง่ซ้ำซ้อน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไปไม่ถึงวาระ3 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ สส. พรรคเพื่อไทยม
'ชลณัฏฐ์' รับกังวลต้องชนะเลือกตั้ง สส.กทม. ให้ได้ พร้อมท้าชน 'วัน อยู่บำรุง'
"ปาล์ม ชลณัฏฐ์" ไม่หวั่นโดนเปรียบเทียบ "ไอซ์ รักชนก" ชี้ทุกคนมีคาแรคเตอร์ต่างกัน เน้นเดินเคาะประตูมากกว่าปั่นจักรยาน ไร้กังวล ท้าชนพื้นที่ "วัน อยู่บำรุง" ฝากบอกผู้สมัครทุกคน ให้เต็มที่ในสนาม เดี๋ยวเจอกันวันจับเบอร์ ชี้ 'ปชน.' ก็มีกระสุน คืออาสาสมัคร
พรรคส้มเปิดชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'วิโรจน์' กลืนน้ำลายอยู่ในบัญชี
เปิดชื่อผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ 'ปชน.' พบ ไอซ์-กาย-ลูกเกด' ปรับจากเขตมาบัญชีรายชื่อ 'วิโรจน์' ลงต่อด้วย หลัง 'ป้าเจี๊ยบ' เฉลยให้อยู่อันดับ 100 เตรียมแต่งตัวเป็นฝ่ายบริหารพรรค

