นักสิทธิฯ รู้ไว้! ทอ. แจง F-16 ทิ้งระเบิดถล่มฐานทหารเขมร ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ

โฆษก ทอ.แจง F-16 ทิ้งระเบิดถล่มฐานทหารเขมร ถูกต้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยอาศัยสิทธิในการป้องกันตนเอง ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ

16 ตุลาคม 2568 - จากกรณีนางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นักสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ไทยใช้เครื่องบิน F-16 โจมตีกัมพูชาทำให้เขาได้รับความสูญเสียไม่น้อย ทำให้กองทัพอากาศต้องออกมาให้ข้อเท็จจริงชี้แจงประเด็นดังกล่าว 

พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ว่า ในสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ไทยเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีกัมพูชาก่อนโดยการใช้เครื่องบินขับไล่แบบ F-16 นั้น กองทัพอากาศขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

การปฏิบัติการทางอากาศด้วยเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 และ Gripen ของไทย เป็นการตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารของกัมพูชา ที่ใช้จรวดหลายลำกล้องและปืนใหญ่ โจมตีเป้าหมายทางพลเรือนในไทย โดยเป้าหมายทางพลเรือนจุดแรกในไทยที่ถูกโจมตีจากจรวดหลายลำกล้อง BM-21 อยู่ในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.33 น. ส่งผลให้คนไทยเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 2 คน หลังจากนั้น กัมพูชายังโจมตีเป้าหมายทางพลเรือนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์การโจมตีร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่ส่งผลให้คนไทยเสียชีวิต 7 คนและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

จากสถานการณ์ดังกล่าว นำไปสู่การตัดสินใจในการใช้กำลังทางอากาศ โจมตีเป้าหมายทางทหารในกัมพูชา เพื่อทำลายขีดความสามารถทางทหารของกัมพูชาที่ส่งผลกระทบต่อเอกราชอธิปไตยของไทยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย โดยเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 ได้ทิ้งระเบิดลูกแรก ซึ่งเป็นระเบิดที่มีความแม่นยำสูง โจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชา เมื่อเวลา 10.38 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568

ทั้งนี้ การใช้กำลังทางอากาศของไทยดำเนินไปอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยอาศัยสิทธิในการป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และยึดหลักความได้สัดส่วน ความจำเป็น และการแยกแยะเป้าหมายทางทหารจากพลเรือนอย่างชัดเจน

กองทัพอากาศขอให้ความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนคนไทยว่า กองทัพอากาศจะดำรงสภาพ ความพร้อมรบอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติ คุ้มครองดูแลชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย รวมทั้งสร้างเงื่อนไขเชิงยุทธศาสตร์ที่เอื้อต่อการเจรจานำไปสู่สันติภาพ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่

'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'

'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย

วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล

เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว

กองทัพภาค 2 รายงานสถานการณ์ 'เนิน 350' ไทยระดมยิงหนัก ทหารเขมรอ่อนล้าอาจต้านไม่ไหว

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 12.00 น. ดังนี้