ศาลฎีกา พิพากษายืนยกฟ้อง 'กานต์' เมียเสก คดีหมิ่นประมาท อีฟ แม็กซิม

ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง "กานต์ วิภากร" เมียเสก โลโซ ไม่ผิดหมิ่นประมาท "อีฟ แม็กซิม" เจ้าตัวขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ห่วงเสก โลโซที่อยู่ภายในเรือนจำ

11 ธันวาคม 2568 - ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 608 ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำ อ.2828/2562 ที่ น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรือ "อีฟ แม็กซิม" อดีตรองมิสแม็กซิมไทยแลนด์ 2008 และเป็นอดีตภรรยานายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดังเป็นโจทก์ฟ้อง นาง วิภากร ศุขพิมาย หรือ "กานต์" ภรรยา "เสก โลโซ" , บริษัท ลัสเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และนายรัฐนนท์ เจียงวิเชียร นักแต่งเพลง เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ

กรณีเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562 จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Facebook) ในชื่อว่า Wiphakorn Karn และ Wiphakorn Sookpimay จำเลยที่ 2 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มีจำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ จำเลยที่ 3 เป็นนักแต่งเพลงซึ่งเป็นลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562 จำเลยที่ 1 ได้นำเพลงที่จำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 1 ใช้ให้จำเลยที่ 3 เป็นผู้แต่ง เปิดในการที่จำเลยที่ 1 แพร่ภาพสด (Live) หรือถ่ายวิดีโอทางโทรศัพท์มือถือของจำเลยที่ 1 ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Facebook) ในชื่อว่า Wiphakorn Karn ที่ โดยลักษณะเนื้อเพลงดังกล่าวเป็นการกล่าวหาโจทก์ในลักษณะลดคุณค่าโจทก์ และบุคคลทั่วไปที่พบเห็นเข้าใจว่าโจทก์คือคนไม่ดี ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และสำเนาข้อความเนื้อเพลงที่โจทก์บันทึกจากการฟังการแพร่ภาพสด (Live) หรือถ่ายวิดีโอของจำเลยที่ 1

ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา

พวกจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

คดีนี้ศาลชั้นต้น เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงพิพากษาลงโทษจำคุก น.ส.วิภากร จำเลยที่ 1 รวม 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2 บริษัท ลัสเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ปรับเงิน 50,000 บาท และนายรัฐนนท์ จำเลยที่ 3 จำคุก 6 เดือน ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 20,000 บาท

พวกจำเลยยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของฝ่ายจำเลยมีน้ำหนักให้รับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อุทธรณ์พวกจำเลยฟังขึ้น ที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษพวกจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์ ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับยกฟ้อง

โจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ลงโทษพวกจำเลยด้วย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนและปรึกษากันแล้วเห็นว่า แม้เนื้อหาของเพลงที่นางวิภากร จำเลยที่ 1 เปิดทางสื่อออนไลน์จะทำให้ผู้รับฟังสามารถเชื่อมโยงได้ว่า เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่พอใจระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 แต่การกระทำและถ้อยคำที่จำเลยที่ 1 พูดในเพลงไม่ถึงขนาดเป็นการใส่ความโจทก์ เป็นเพียงการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควรเท่านั้น จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และไม่จำต้องวินิจฉัยการกระทำของจำเลยที่ 2-3 และฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังนางวิภากร ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้ศาลตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ ตนรู้สึกว่ายุติธรรมแล้ว และขอขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตา และสิ่งที่ฟ้องเกิดจากเพลงที่ตนเปิดให้ผู้สื่อข่าวฟัง มันไม่มีอะไรเลย สิ่งที่ตนทำไปอาจจะเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตนทราบอีกว่าคู่กรณีของตนได้ฟ้องที่ศาลอาญามีนบุรีอีกด้วย ซึ่งจะอิงตามผลของศาลฎีกานี้ หากศาลฎีกายกฟ้อง คู่กรณีก็จะไปยื่นถอนคดีที่อีกศาลเช่นกัน

เมื่อถามถึงกรณีของนายเสกสรรค์ หรือ เสก โลโซ ที่มีการส่งจดหมายออกมาจากเรือนจำเพื่อขอยุติการทำงานภายนอก นางวิภากร กล่าวว่า ตัวของนายเสกสรรค์ มีความเครียดอย่างมาก ประกอบกับมีโรคประจำตัวที่ร้ายแรง อย่าง ไบโพล่า และโรคซึมเศร้า คนที่อยู่ข้างในไม่ใครสบายอย่างแน่นอน โดยทางบ้านมีความกังวลใจ เนื่องจากมีตัวอย่างนักโทษที่มีอาการคล้ายกัน ได้ทำร้ายตัวเอง ซึ่งขณะอยู่ภายในเรือนจำ นายเสกสรร ได้ทำกิจกรรมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และทำประโยชน์ในการสอนดนตรี และสอนหนังสือให้ผู้ต้องขังคนอื่น วันละ 6 ชั่วโมง รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ จนทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอและมีความเครียด รวมถึงเรื่องกีฬาซีเกมส์ ที่จะนำตัวนายเสกสรรไปเล่นในพิธีเปิดในนามผู้ต้องขังหรือตัวแทนของราชทัณฑ์ ซึ่งตัวของนายเสกสรรไม่ต้องการทำแบบนั้น แต่ต้องการออกไปในนามของเสก โลโซมากกว่า

นาง วิภากร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีร้องเพลงกับนายเสกสรรค์ นั้นตนยังไม่ทราบเรื่อง เพราะไม่ได้เข้าเยี่ยมมานานกว่า 10 วันแล้ว และการเข้าเยี่ยมแต่ละครั้ง มีความยากลำบากกว่าเดิมเนื่องจากภายหลังที่มีข่าวเรื่องของกลุ่มจีนเทา ทำให้ราชทัณฑ์เข้มงวดกับเรื่องการเยี่ยมญาติมากกว่าเดิม และขอยืนยันว่าเวลาที่ตนเข้าเยี่ยมก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์ใด ๆ ตอนนี้ตนเป็นห่วงเพราะนายเสกสรรค์ทำงานหนักมาก เพราะทางราชทัณฑ์ต้องการอะไรก็สั่งนายเสกสรรค์เหมือนเป็นคนใช้ เพราะกังวลในเรื่องของการเพิ่มโทษหรือสิทธิ์ในการลดโทษ และช่วงหลังมีอาการเครียดจนทานอาหารได้น้อยลง และกักตัวอยู่ในห้องขัง เนื่องจากราชทัณฑ์ไม่อนุญาตให้ลูกหรือทีมงานเข้าเยี่ยมรวมถึงเป็นห่วงคดีของตนในวันนี้ เพราะกลัวว่าจะติดคุกทั้งพ่อทั้งแม่จนไม่มีใครดูแลลูกและญาติคนอื่น อย่างไรก็ตามตนไม่ได้กล่าวล่วงเกินราชทัณฑ์หรือเจ้าหน้าที่ แต่อยากฝากไปว่าต้องปรับปรุงการดูแลผู้ต้องขังภายในเรือนจำ

นาง วิภากร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนอยากฝากขอบคุณแฟนคลับของนายเสกสรรค์ไม่เคยรังเกียจที่เจ้าตัวกลายเป็นผู้ต้องขัง ต้องไปอยู่ภายในเรือนจำ แฟนคลับทุกคนคือกำลังใจสำคัญที่ทำให้นายเสกสรรค์มีแรงจูงใจที่จะใช้ชีวิตต่อ ตนได้นำข้อความความคิดถึงไปบอกเจ้าตัว และหลังจากนี้ก็จะหาเวลาไปบอกผลคดีของตนในวันนี้รวมถึงกำลังใจจากแฟนคลับภายนอกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตดารา เชื่อทักษิณไม่มีเจตนาเลี่ยงภาษี ชี้เปรี้ยงคำพิพากษาศาลไม่ถูกต้อง!

เรื่องที่ไม่พูดกันคือทักษิณโอนหุ้นแอมเพิลลิสต์ให้โอ๊คเอมปี43 แล้วนำมาขายให้เทมาเซคปี 49 หลังมีม็อบออกมาประ

ดร.ณัฏฐ์ ชำแหละปม ‘ทักษิณ’ ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน

ดร.ณัฏฐ์-นักกฎหมายมหาชน ผ่าปม “ทักษิณ” ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน โอนให้นอมินี ไม่พ้นจากความรับผิด โอกาสยึดทรัพย์ในต่างประเทศยาก

มาแล้วฉบับเต็ม! เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาภาษีหุ้นชิน 'ทักษิณ' จ่าย 1.76 หมื่นล้าน

เมื่อวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ที่ศาลภาษีอากรกลาง ศูนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่นายทักษิณ

'ทักษิณ' อ่วม! ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้เรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.76 หมื่นล้าน

"ทักษิณ" อ่วม! ศาลฎีกาพิพากษากลับยกฟ้อง กรมสรรพากร เรียกเก็บภาษีชินคอร์ป 1.76 หมื่นล้านบาท ชี้ ให้ "โอ๊ค-เอม" ถือหุ้น วัตถุประสงค์ขาดคุณธรรมทางภาษี ส่งผลรัฐเก็บภาษีไม่ได้ เป็นธุรกรรมหาประโยชน์อื่นรวมถึงภาษีเงินได้ มิชอบด้วยกฎหมายร้ายแรง