'มัลลิกา' ชูแผน 'จุรินทร์' เจาะตลาดการค้า RCEP 15 ประเทศ เพิ่มโอกาสและรายได้เข้าไทย

5 มี.ค.2565 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดการฝึกอบรมหลักสูตร “ทางลัดในการเจาะตลาด RCEP” (RCEP Marketer) รุ่นที่ 1 ในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Webex โดยนางมัลลิกา กล่าวว่าในนามของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับมอบหมาย จากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เพื่อพิธีเปิดหลักสูตรทางลัดเจาะตลาด RCEP (RCEP Marketer) รุ่นที่ 1 ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนาหรือ ITD เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับภารกิจผลักดันการส่งออกซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลโดยการนำของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในด้านการผลักดันการส่งออก ด้วยเชื่อว่าข้อตกลง RCEP จะเป็นประโยชน์ ทำให้ทั้งประเทศ สังคม ผู้ประกอบการลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสมีทางเลือกได้อีกมาก

นางมัลลิกา กล่าวว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ Regional Comprehensive Economic Partnership หรือ RCEP ถือว่าเป็นเขตข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกัน 1 ใน 3 ของโลก มีประเทศสมาชิก 15 ประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็เป็นคู่ค้าของไทย เช่น ปี 64 จีน อันดับ 1 มูลค่าการค้า 3.3 ล้านล้านบาท ญี่ปุ่น อันดับ 2 มูลค่าการค้า 1.9 ล้านล้านบาท ออสเตรเลีย อันดับ 6 มูลค่าการค้า 546,577 ล้านบาท เกาหลีใต้ อันดับ 9 มูลค่าการค้า 501,975 ล้านบาท นิวซีแลนด์ อันดับที่ 33 มูลค่าการค้า 85,887 ล้านบาท ยังไม่นับรายประเทศในอาเซียน

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยคงคุ้นเคยกันบ้างแล้วแต่หลังจากนี้อาจเพิ่มโอกาสอีกและทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศซึ่งทำภารกิจเซลล์แมนประเทศไทยตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ขันแข็งในการทำงานตอบสนองนโยบายเชิงรุก สำหรับจีนที่เป็นตลาดใหญ่ของเราก็ยังขยายตัวและภาพรวมการส่งออกทั้งหมดช่วงสถานการณ์โควิด-19 เราก็ฝ่าด่านมาได้โดยการส่งออกปี 2564 โดยรวมทุกประเทศขยายตัว 17.1% มูลค่าการค้า 8.5 ล้านล้านบาท และเมื่อเดือนมกราคมปี 2565 ขยายตัวที่ 8% มูลค่าประมาณ 708,000 กว่าล้านบาท ส่วนการเข้าร่วมข้อตกลง RCEP นี้จะช่วยสร้างโอกาสและการค้าของผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขัน เพิ่มทางเลือกนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าโดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและอื่นๆรวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนในสาขาที่ไทยมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น

นางมัลลิกา ระบุว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในทุกรูปแบบฝึกอบรมและเป็นภารกิจของทุกกรมในกระทรวงพาณิชย์ที่อบรมผลักดันส่งเสริม สร้างประกอบการรุ่นใหม่ให้กับไทย เพื่อปรับตัวสู่ยุค New Normal โดยไม่ทิ้งผู้ประกอบการเดิม แต่จะส่งเสริมข้อมูลความรู้ที่ปรับเปลี่ยนการอบรมในแต่ละปีทะลุเป้าหมายแทบทุกครั้ง และทูตพาณิชย์ทั่วโลกมีภารกิจอย่างหนักตั้งแต่ปี 2562 ที่ปรับภารกิจเข้มข้นเป็นเซลล์แมนประเทศและพาณิชย์จังหวัดเป็นเซลล์แมนจังหวัด เพิ่มทักษะผู้นำ ผู้ประกอบการภูมิภาคต่างๆเข้าสู่ระบบการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นและให้กระทรวงพาณิชย์เพิ่มสัดส่วนผู้ประกอบการที่อยู่ในภูมิภาคมีการเชื่อมโยงกับกระทรวงเกษตรฯ นำนโยบาย “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” นำตลาดเป็นเป้าหมาย มีความร่วมมือกับ กรอ.พาณิชย์ หรือ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งโครงสร้างมีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้เป้าหมายของรัฐบาลประสบความสำเร็จผลักดันการส่งออก และเพิ่มสัดส่วนตัวเลขในตลาดโลกและบุกตลาดเก่า ตลาดใหม่ ตลาดที่ต้องรื้อฟื้น(ตลาดเดิม) ที่นายจุรินทร์ได้ให้กับกระทรวงพาณิชย์ และข้าราชการที่สามารถนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้อย่างดีมีประสิทธิผลประสิทธิภาพ เป็นความสำเร็จร่วมกันของประเทศไทย

วันนี้ผู้บริหารสถาบันไอทีดี (สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา) เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาด RCEP ถือว่ามีวิชั่นเพราะนั่นคือโอกาสจริงๆ และหลักสูตรทางลัดการเจาะตลาด RCEP มีทั้งเรื่องการฟังการบรรยาย การทำกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 จนมาถึงวิกฤตโควิด-19 ที่ต้องเข้มข้นมากขึ้น การจับคู่การค้าการเจรจาผ่านทางออนไลน์ซึ่งประสบความสำเร็จมากล่าสุดเจรจาเรื่องสินค้าเพื่ออนาคต BCG (Bio Circular Green Economy) เพียงสัปดาห์เดียวได้มูลค่า 3,000 กว่าล้านบาทและกระทรวงพาณิชย์มีการติดตามและอำนวยความสะดวกจนกว่าจะผลักดันจนมีรายได้เข้าประเทศ เชื่อมโยงถึงขั้นชำระภาษีหรือลดภาษีอย่างไร

" ขอบคุณสถาบันการค้าระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมกันจัดทำหลักสูตรนี้ขึ้นเปิดโอกาสให้กับประเทศของเราและผู้ประกอบการของเรา และหวังว่าจะมีการขยายหลักสูตรเป็นรุ่นที่ 2 รุ่นที่ 3 ต่อไป ทั้งนี้นโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ท่านจุรินทร์ ยินดีส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการในการขยายโอกาสตลาดส่งออกให้มากที่สุดเพื่อนำเข้ารายได้ช่วยประเทศ" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

จากนั้นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้บรรยายโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าความเป็นมาตั้งแต่นายจุรินทร์เป็นประธานจนเจรจาสำเร็จและมีรายการสินค้าสามารถลดภาษีนำเข้าระหว่างกันทำให้ลดต้นทุนผู้ประกอบการและขยายโอกาสการส่งออกได้มากโดยตั้งแต่เริ่มใช้เมื่อ 1 มกราคม 2565 นั้นมีความตื่นตัวของผู้ประกอบการมาก นอกจากนั้นระบุด้วยนายจุรินทร์ยังมีโครงการสินเชื่อจับคู่กู้เงินบุกตลาด RCEP วงเงิน 3,000 ล้านบาทโดยเงื่อนไขพิเศษซึ่งเริ่มไปตั้งแต่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 และยังมีวงเงินเหลืออยู่อนุมัติโดย Exim Bank ตอนนี้ใช้ไป 810 ล้านบาทยังเหลืออยู่อีก ผู้ประกอบการกู้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายและวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 ล้านบาทนั้นไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงใช้หนังสือค้ำจาก บสย.และบุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกัน เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' ลุยตลาดจีน MOU นำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรไทย-จีน

“ภูมิธรรม”  ลุยตลาดจีน  ลงนาม MoU ระหว่างสมาคมนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรไทย-จีน กับสมาคมผู้นำเข้าผลไม้จากประเทศจีน มุ่งค้ำประกัน เพิ่มรายได้ โปรโมตคุณภาพสินค้าไทยในตลาดโลก

'พาณิชย์' ลุยต่อ จัดธงฟ้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน ชาว จ.สุรินทร์ และ จ.อุบลราชธานี

“พาณิชย์” เดินหน้าลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน จัดงานธงฟ้าราคาประหยัด ทั้งที่จ.สุรินทร์ และจ.อุบลราชธานีนำสินค้าจากผู้ประกอบการ ห้าง เกษตรกร SMEs วิสาหกิจชุมชน เครือข่ายรุ่นใหม่ YEC และ Young Smart Farmer รวม 10 หมวดสินค้า กว่า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60%

'ภูมิธรรม' ชื่นชมคอร์สสอนทำอาหารไทยในฮ่องกงกำลังเป็นที่นิยม ช่วยดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเปิดงาน Thai Food Festival ที่โรงแรม Hotel ICON