"มาร์ค" จี้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยแท้จริง แนะถ้าไม่อยากให้มีรัฐประหาร ฝ่ายตุลาการต้องเปลี่ยนแนววินิจฉัยกฎหมาย ไม่รับรองอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
25 มี.ค.2565 - คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ จัดการเสวนาเวทีสาธารณะ 30 ปีพฤษภาประชาธรรม เหตุการณ์ 17 พฤษภาคม 35 กับการพัฒนาประชาธิปไตย โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่มีใครปฏิเสธว่า 30 ปีผ่านไป คงจะเป็นเรื่องอยากมากที่คนจะบอกว่าการเมืองไทยมีความก้าวหน้าขึ้น เรากำลังใช้รัฐธรรมนูญซึ่งมีโครงสร้างคล้ายคลึงกันกับเมื่อปี 2521 มากที่สุด ที่ยอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย รวมถึงการถดถอยในระบบเสรีประชาธิปไตยมีค่อนข้างมากอย่างชัดเจน นอกจากนี้ 20 ปีที่ผ่านมาโลกทั้งโลกเผชิญกับการถดถอยของระบบเสรีประชาธิปไตยเช่นกัน ผู้นำหลายประเทศในขณะนี้ซึ่งเรียกว่าเผด็จการ หรืออำนาจนิยม ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบโดยใช้เสื้อคลุมประชาธิปไตยเหมือนในไทย ทั้งมาจากการเลือกตั้ง และมีพรรคการเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเราอยากจะก้าวเดินไปข้างหน้า เราต้องเก็บเกี่ยวทุกมุมของเหตุการณ์ประวัติ เพื่อออกแบบระบบการเมืองที่สามารถพูดได้เต็มปากว่าปฏิรูปแล้วเป็นเสรีประชาธิปไตยจริงๆ ซึ่งไม่สามารถทำได้โดยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ดังนั้นจึงต้องเคลื่อนไหวเพื่อทำให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นไปตามหลักการเสรีประชาธิปไตยจริงๆ อย่างไรก็ตามเรายังมีปัญหาสิ่งตกค้างจากรัฐธรรมนูญ 2560 คือบทเฉพาะกาล มีความสุ่มเสี่ยงสร้างความขัดแย้งหลังการเลือกตั้งกรณีที่สว. 250 คน และเสียงข้างมากที่มาจากประชาชนเห็นไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้นการจะก้าวเดินต่อไปจึงต้องแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนการเลือกครั้งหน้าจะต้องแก้มาตรา 272 ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดชนวนของความขัดแย้ง
"หวังว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไปทุกพรรคจะสนับสนุนให้มีการสร้างกติกาให้เป็นเสรีประชาธิปไตย ถ้าเกิดขึ้นได้ จังหวะนั้นเราจะต้องนำบทเรียนต่างๆมาถกเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กระชับและเน้นเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอำนาจและสิทธิเสรีภาพ อย่าให้รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ใครอยากได้อะไรแล้วไปใส่ไว้ในนั้น ส่วนเชิงโครงสร้างคนที่มีอำนาจในการบริหารประเทศต้องมาจากประชาชน ขณะเดียวกันหัวใจที่จะทำให้รัฐธรรมนูญที่จัดทำใหม่ให้เกิดความยั่งยืน ไม่เจอปัญหาเหมือนที่ผ่านมา เราต้องแก้สมการที่ยากที่สุดให้ออก ว่าเราจะพึ่งพากลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุลในรูปแบบใด ถ้าเราจะกลับไปสู่ระบบที่เสียงข้างมากในสภาทำได้ทุกอย่างผมว่าจะเกิดปัญหาอีก จะทำอย่างไรให้องค์กรอิสระไม่ถูกแทรกแซง บิดเบือนไปโดยผู้ที่มีอำนาจ เหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าออกแบบตอบโจทย์ได้ จะเห็นการพัฒนาปฏิรูปการเมืองที่มีความยั้งยืนและตรงตามเจตนารมณ์ของการต่อสู้ เพื่อระบบเสรีประชาธิปไตย"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ว่าเราจะออกแบบรัฐธรรมนูญกันอย่างไร หากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในอนาคต เราต้องยอมรับว่าสิ่งแรกที่คณะรัฐประหารทำก็คือการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ซึ่งการหยุดวงจร หรือการสกัดกั้นการรัฐประหารได้ ต้องเกิดขึ้นจากฝ่ายตุลาการในที่สุด ฝ่ายตุลาการต้องเปลี่ยนแนววินิจฉัยกฎหมาย จากที่บอกว่าเมื่อมีรัฐประหารแล้วเกิดองค์รัฐาธิปัตย์ สามารถออกกฎหมายลบล้างทุกสิ่งได้ ต้องมีการวินิจฉัยเสียใหม่ ว่าการกระทำต่างๆของคณะรัฐประหารยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นวิธีที่ชัดเจนที่สุดในการคุ้มครองคนที่จะออกมาต่อสู้หรือต่อต้านการรัฐประหารได้ในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE เสียงของคน 'เมืองหลวง' ด่านอรหันต์ พลิกเกม ปชป. | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (31)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
'อภิสิทธิ์' เปิดตัว 33 ผู้สมัคร สส.กทม. เชื่อปีเลือกตั้งลงท้าย 9 'ปชป.' มักชนะ
'อภิสิทธิ์' เปิดตัว 33 ผู้สมัคร สส.กทม. การันตีเฟ้นเข้มข้น ขอโอกาสคนกรุงไว้วางใจ ใช้การเมืองสุจริตเปลี่ยนแปลงประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิต เชื่อเลือกตั้งปีที่ลงท้ายเลข 9 'ปชป.' มักชนะ
รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม
พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า
'อภิสิทธิ์' ชวนคนไทยเลิกทน ร่วมกันล้างบาง 'ปัญหาสีเทา' เตรียมแถลงเปิดแคมเปญใหญ่
หัวหน้าพรรคปชป. ชี้ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้มีรากเหง้ามาจากการทุจริตคอร์รัปชัน และระบบอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ
สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง
เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

