ผิดคิว 'พิธา' ชำแหละงบช้างป่วย สะเทือนจำนำข้าวยุคยิ่งลักษณ์!

31 พ.ค.2565 - นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายว่า งบประมาณปีนี้จึงเป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อและสำคัญ ถ้าเราจัดงบปีนี้ดีประเทศจะทะยานไปข้างหน้า เป็นจุดตัด จุดเปลี่ยนของประเทศ แต่ถ้าจัดงบไม่ดี ทศวรรษที่แล้วไม่ดีอย่างไร ทศวรรษหน้าก็จะเป็นเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจากการพิจารณาปีนี้เป็นงบช้างป่วยที่ปรับตัวไม่ได้ รายได้ผันผวน รายจ่ายแข็งตัว การกู้จะหลุดกรอบ เพราะรายได้ 2.49 ล้านล้านบาท ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย เราจำเป็นต้องกู้เพิ่มอีก 6.95 แสนล้านบาท แต่ปัจจัยเสี่ยงการเก็บภาษีของเราถดถอยลง ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงทำให้ภาระเงินกู้สูงขึ้นด้วย ในส่วนของเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ข้าราชการ วงเงินงบประมาณ 3 แสนกว่าล้านบาท คือรายจ่ายที่สูงเท่ากับกระทรวงศึกษาทั้งกระทรวง

นี่คือปัญหาของช้างป่วยที่ปรับตัวไม่ได้ โครงสร้างงบประมาณตั้งแต่ปี 57- 65 งบประมาณ 75% เป็นงบประจำทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรในประเทศ การตั้งงบประมาณไม่ได้ตอบสนองกับวิกฤตหรือโอกาสในปีหน้าแต่อย่างใด นี่เป็นยาขมที่พวกเราทุกคนต้องกลืน เป็นโครงสร้างงบประมาณที่น่ากลัว

“ทุกๆ 1 บาท ที่เก็บภาษีและกู้มา 40% กลายเป็นเงินเดือน สวัสดิการ กับบำนาญข้าราชการ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เงินที่ใช้ไปกับบำนาญมากขึ้น 2 เท่า โดยปี 57 บำนาญอยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท ปี 64 อยู่ที่ 3 แสนล้านบาท ปี 66 อยู่ที่ 3.22 แสนล้านบาท ตอนนี้เรามีข้าราชการเกษียณ 8 แสนคน แต่ในปี 2580 จะมีข้าราชการเกษียณ 1.2 ล้านคน แค่บำนาญของบุคคลากรก็เกินงบประมาณที่เราจะใช้ไปเยอะมาก กระบวนการรัฐราชการ รัฐอุ้ยอ้าย จึงเป็นช้างป่วยที่ปรับตัวไม่ได้ เราจะแก้ไขเรื่องนี้กันอย่างไร ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ประเทศจะพัฒนาได้อย่างไร” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวต่อว่า 70% ของงบประมาณ 3.18 ล้านล้านบาท หมดไปกับอดีต เหลือใช้จริงไม่ถึง 1 ล้านล้านบาท หรือ 30% ที่จะนำมาฟื้นฟูประเทศ สร้างความหวังให้ประชาชน ถือว่าเป็นปัญหา แต่ยังสามารถทำให้ประชาชนมีความหวังได้ ด้วยการใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์ ยุติธรรม แต่พอดูรายละเอียดปรากฏว่างบภาคการเกษตร 5.7 หมื่นล้านบาท เป็นการชำระหนี้ให้กับนโยบายประกันกับจำนำข้าวย้อนหลังไปถึงปี 2551

นายพิธา กล่าวอีกว่า ประเทศจะมีความหวังประเทศต้องมีความเป็นธรรม ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจ เมื่อนำงบประมาณที่ตั้งไว้ให้กับอีอีซี 1.1 หมื่นล้านบาท มาเทียบกับงบเอสเอ็มอี 2.7 พันล้านบาท เป็นการตั้งงบที่ละเลยทุนตัวเล็กตัวน้อย ไม่ยุติธรรม จึงเป็นปัญหาที่ทำให้ประเทศในช่วงที่ประชาชนควรจะมีความหวัง การฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะไม่ยุติธรรม ไม่สร้างสรรค์ และไม่มีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ตนไม่สามารถรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบฯ ฉบับนี้ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

'ชลน่าน' คาดถกแก้ รธน. วาระสอง ใช้เวลา 2 วันพอ แม้มีประเด็นให้เถียงกันหนัก

“ชลน่าน” ประเมิน ถกแก้รธน.วาระสอง 2 วันเพียงพอ แม้มีรายละเอียดมาก- ถกกันหนัก แต่ยุติด้วยเสียงข้างมาก เผยสงวนความเห็นไปสู้ในรัฐสภา ทวงคืน “สสร.- โละสูตร20 หยิบ1

ครม. เห็นชอบ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญ 10-11 ธ.ค. ลุยแก้ รธน. ให้เสร็จทันสิ้นปี

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกสมัยประชุมวิสามัญ รัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และวาระ 3

'ภราดร' ชงสภาฯ เปิดประชุมวิสามัญ 8-10 ธ.ค. เร่งแก้ รธน. หวังวาระ 3 จบก่อนปีใหม่

“ภราดร” ชง สภา เปิดวิสามัญ 8-10 ธ.ค. พิจารณาแก้ รธน. หวังโหวตวาระ 3 เสร็จก่อนปีใหม่ มีเวลาให้ กกต. ทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง ยํ้า กมธ.เห็นพ้อง หาทางรอดคำวินิจฉัยศาล เล็งสูตรคนละครึ่ง สมัครก่อน ให้สภาจับกลุ่มเคาะ เลี่ยงเข้าคูหาโดยตรง

'โรม' ชงญัตติด่วน จี้นายกฯ ปราบสแกมเมอร์ ทุนเทายึดประเทศ ฉะ 'ซูเปอร์บอร์ด' ตั้งมาซื้อเวลา ไร้แผนงาน

"โรม" ชงญัตติด่วน จี้นายกฯ ปราบสแกมเมอร์ ดึงนานาชาติร่วมปฏิบัติการ ไม่ใช่แค่เดินไปคุย แนะออก พ.ร.ก.ปราบ ยกเครดิต "ชาดา" มองออกใครเป็นโจร ลั่นควรสร้างอนุสาวรีย์ให้ ซัดรัฐบาลซื้อเวลาไร้ความคืบหน้า หวั่นไทยกลายเป็นสวรรค์แห่งการฟอกเงิน ห่วงทุนเทาฮุบอำนาจ ชี้ เลือกตั้งรอบหน้าอาจมี 4 พรรค “สีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน และสีดำ” ฉะ "ธรรมนัส" ไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง