นายกฯไทย-ลาว ลั่นฆ้อง สร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 ควงแขนทักทายชาวบึงกาฬชื่นมื่น

นายกฯไทย-ลาว ลั่นฆ้อง เริ่มต้นโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 เป็นของขวัญประชาชน 2 ประเทศ อำนวยความสะดวก-เพิ่มเส้นทางคมนาคมไปมาหาสู่ ก่อนควงแขนทักทายชาวบึงกาฬชื่นมื่น

28 ต.ค.2565 - เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สปป. ลาว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ณ แขวงบอลิคำไซสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยนายกรัฐมนตรีของ 2 ประเทศ ร่วมกันวางศิลาฤกษ์​ โครงการฯ และกดปุ่มเปิดสะพานมิตรภาพไทย​- ลาว บึงกาฬ-บอลิคำไซ อย่างเป็นทางการ จากนั้นนายคำพัน ได้ลั่นฆ้อง 9 ครั้งเอาฤกษ์เอาชัย​ ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการและถ่ายรูปร่วมกัน โดยมีคณะรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศร่วมด้วย พร้อมชมวิวริมฝั่งแม่น้ำโขง


จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และนายกรัฐมนตรีสปป.ลาว พร้อมคณะ เดินทางออกจากจุดจอดเรือโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แขวงบอลิคำไซ โดยเรือท้องแบน (Barge) มายังโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ ที่ฝั่งไทย จ.บึงกาฬ โดยนายกฯ 2 ประเทศร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 จ.บึงกาฬ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีและความร่วมมือโครงการฯ ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นประธานร่วมกับนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองประเทศ และเป็นความคืบหน้าสำคัญจากการหารือของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน2565 สะท้อนซึ่งความสัมพันธ์อันดี เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันในทุกระดับ มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเสมอมา ซึ่งพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ ความภาคภูมิใจของทั้งสองประเทศที่ร่วมกันพัฒนา และส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันมาโดยตลอด รวมถึงเป็นแบบอย่างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ภายหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็น หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 ถือเป็นโครงการยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาลไทยในการเชื่อมต่อ สปป.ลาว และภูมิภาค รวมถึงยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ สปป. ลาว ที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของภูมิภาค


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สะพานแห่งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการไปมาหาสู่กัน เพิ่มทางเลือกในการคมนาคมขนส่งระหว่างไทย กับ สปป. ลาว ตลอดจนช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคระหว่างไทย - ลาว – เวียดนามบนเส้นทางหมายเลข 8 รวมถึงสามารถเชื่อมต่อไปยังจีนได้สะดวกมากขึ้น ทำให้การค้าขายในภูมิภาคคล่องตัวและเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น และในบริบทการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 สะพานแห่งนี้จะช่วยรองรับปริมาณการค้าระหว่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้นและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทยและตอนกลางของ สปป.ลาว โดยเฉพาะระหว่างจ.บึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่นมากยิ่งขึ้น เกิดการพัฒนาในพื้นที่ และการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในทั้งสองฝั่ง


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายไทยและฝ่าย สปป.ลาว ที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 ให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมเชื่อมั่นว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามกรอบเวลาในปี 2024 เพื่อเป็นของขวัญสำคัญให้ชาวไทยและชาวลาวในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) ตนยืนยันว่า รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล สปป. ลาว ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือที่มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ


จากนั้นนายกฯทั้ง 2 ประเทศร่วมโปรยข้าวตอกดอกไม้และธัญพืช 9 ชนิดบนแผ่นศิลาฤกษ์ เพื่อเป็นสิริมงคลและความรุ่งเรือง ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลั่นฆ้อง 9 ครั้ง เพื่อเป็นสัญญาณเริ่มต้นการก่อสร้างโครงการฯ โดยนายกฯ 2 ประเทศยังได้จับมือและกอดกันอย่างชื่นมื่น ก่อนถ่ายภาพร่วมกัน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์​ เดินควงนายพันคำ พบปะกับชาวบึงกาฬ​ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มและเป็นกันเองขณะที่ นายพันคำ ทักทายชาวบ้าน พร้อมถามว่า "ซำบายดีบ่ทุกคน" และกล่าวว่า​ "ฮักแพงกันเด้อ" ขณะที่มีชาวบ้านเข้าสวมกอดนายพันคำ พร้อมกับระบุ "ดีใจนำเด้อที่จะได้สะพาน​ สิได้ขัวนำ" นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านตะโกนให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ “นายกฯสู้ๆ”

ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ณ ห้องเดอะวัน คอนเวนชั่น ฮอลล์ โรงแรมเดอะวัน จ.บึงกาฬ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนประชาชนระวัง 'โรคหัด' หลังพบแพร่ระบาด บริเวณชายแดนเพื่อนบ้าน

รัฐบาลเตือนประชาชนระวัง 'โรคหัด' หลังพบแพร่ระบาดบริเวณชายแดนเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงราย เผยปี 68 พบผู้ป่วยสะสมแล้วพันกว่าราย

'โจ้ - ธนา' เขียนถึง 'โต้ง - สิริพงศ์' โฆษกผู้น่ารัก ความหวัง-ความภูมิใจ ของจังหวัดศรีสะเกษ

โจ้ - ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ที่ปรึกษาธุรกิจ และเจ้าของเพจ "เขียนไว้ให้เธอ" เขียนถึง โต้ง - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ในหัวข้อ "โฆษกผู้น่ารัก" มีเนื้อหาดังนี้