
ศึกฟุตบอลโลก 2022 วันพุธที่ 14 ธันวาคม รอบรองชนะเลิศคู่ที่สอง เป็นการพบกันขอ งฝรั่งเศส เเชมป์เก่าเมื่อปี 2018 กับ โมร็อกโก ม้ามืดของรายการ ฟาดแข้งกันที่อัล เบย์ท สเตเดียม
เกมนี้ ทีมตราไก่ มีเปลี่ยนเเค่ 2 ตำเเหน่งจากเกมที่ชนะอังกฤษ 2-1 คือ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ พักเป็น อิบราฮิม่า โกนาเต้ กับ ยุสซุฟ โฟฟานา ขณะที่ สิงโตแอตลาสกรำศึกหนักเกมนี้มีทั้งตัวที่ติดเเบนเเละเจ็บ เเต่ตัวหลักอย่าง อัชราฟ ฮาคิมี กับ ฮาคิม ซีเย็ค ยังมีชื่อ
เล่นมาเเค่ 4 นาที ฝรั่งเศสได้ประตูออกนำเร็วจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ ได้บอลในเขตโทษ ไหลให้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงจังหวะเเรกติดบล็อก จังหวะที่สองไม่ดีเเต่ยังไปเข้าทาง เตโอ แอร์กนองเดซ ซัดด้วยซ้ายเข้าไป
ครึ่งหลัง โมร็อกโก ไม่ได้รับมากมีโอกาสได้ประตูตีเสมอหลายครั้งเเต่ทำไม่ได้ จนถึงนาทีที่ 79 ทีมตราไก่มาได้ประตูที่ 2 จังหวะที่ เอ็มบัปเป้ ได้บอลเลี้ยงเข้าเขตโทษยิงไปติดกองหลังโมร็อกโกเเต่บอลดันไปเข้าทาง ร็องดาล โคโล มัวนี ตัวสำรองที่ยืนโล่งๆ ซัดเข้าไป
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มครบ 90 นาทีฝรั่งเศสเอาชนะโมร็อกโก 2-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศพบกับอาร์เจนติน่า วันที่ 18 ธันวาคมนี้เวลา 22.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย) ส่วนโมร็อกโกไปชิงที่ 3 กับโครเอเชีย วันที่ 17 ธันวาคมนี้เวลา 22.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
5 ทศวรรษแห่ง ‘Green March’ โมร็อกโก! เรื่องราวของสันติภาพ, อำนาจอธิปไตย และการเจริญเติบโต
สถานเอกอัครราชทูตราขอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย เผยแพร่บทความเนื่องในโอกาสเป็นปีพิเศษที่ประเทศโมร็อกโกระลึกถึงการครบรอบ
'เอ็ดดี้' สุดทน! แฉความต่ำทรามของพวกบ่อนทำลายสถาบัน เหยียบย่ำหัวใจคนทั้งชาติ
เอ็ดดี้ อัษฎางค์ อินฟลูเอนเซอร์ทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "เสรีภาพ" ที่เหยียบหัวใจคนอื่น ไม่ใช่เสรีภาพ


