ซูเปอร์โพลชี้คนไทยไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือขบวนการทำลายชาติ

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง รู้ทัน ความเคลื่อนไหว ทำลายชาติ

21 พ.ย. 2564 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง รู้ทันความเคลื่อนไหวทำลายชาติ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,086 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 – 20 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 ระบุ สถาบันกษัตริย์เป็นรากฐานสำคัญของประเทศที่ต้องอยู่คู่กับประชาชน ร้อยละ 96.4 เชื่อว่า ขบวนการสั่นคลอนโค่นล้มสถาบันฯ มีอยู่จริงและเชื่อมโยงนักวิชาการ นักการเมือง นักข่าว กลุ่มทุนและองค์กรต่างชาติ และอื่น ๆ และร้อยละ 95.0 เชื่อว่า มีความพยายามของต่างชาติเชื่อมโยงกับขบวนการสั่นคลอนสถาบันฯ พยายามเข้ามาแทรกแซงเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หวังคนในชาติขัดแย้งอ่อนแอ ชี้นำยึดครองผลประโยชน์ชาติ

ขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.3 ต้องการการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบด้วยบรรทัดฐานเดียวกัน ภายใต้กฏหมายที่กำหนด ในขณะที่เพียงร้อยละ 2.7 ไม่ต้องการ ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.2 ต้องการให้การแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย โดยกลไกรัฐสภา ในขณะที่ร้อยละ 2.8 ไม่ต้องการ

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 ไม่เห็นด้วยกับ ขบวนการสร้างเงื่อนไข บิดเบือน ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกของคนในชาติ นำมวลชนลงถนน และใช้ความรุนแรงบานปลาย ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.5 เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.8 ระบุบ้านเมืองและประชาชนกำลังอยู่ในช่วงต้นของการเปิดประเทศ เริ่มกลับมาใช้ชีวิต ค้าขายปกติ ทุกคนกำลังช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและแก้ปัญหาปากท้องในทุกมิติ ร้อยละ 96.6 ระบุ กังวลกับกลุ่มขบวนการสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ จะทำลายความพยายามฟื้นฟูบ้านเมืองร่วมกัน นำสู่ความวุ่นวายและวิกฤตซ้ำซาก

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.3 ไม่เห็นด้วยกับขบวนการสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ ที่พยายามบิดเบือน จาบจ้วงก้าวล่วง พาคนลงถนน คุกคามและไม่เคารพผู้อื่น ทำบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ทำลายความหวังของประชาชนที่จะร่วมกันฟื้นฟูประเทศ ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.7 เท่านั้นที่เห็นด้วย

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยกับขบวนการสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ โดยรับรู้ได้ถึงเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่มีนักวิชาการ นักการเมือง นักข่าว และกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมบางส่วน ร่วมมือกับขบวนการต่างชาติ พยายามแทรกแซงเปลี่ยนแปลงการปกครองไทย โดยปั่นให้คนไทยแตกแยก ขัดแย้ง อ่อนแอ นำสู่ความวุ่นวายทางสังคมรุนแรงบานปลาย จนไม่สามารถควบคุม ดังตัวอย่าง ในฮ่องกงและหลายประเทศในตะวันออกกลาง ผลโพลนี้จึงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนไทยส่วนใหญ่รู้เท่าทันความเคลื่อนไหวทำลายชาติจึงไม่เอาด้วยกับขบวนการและไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของขบวนการต่าง ๆ ดังกล่าว

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งรุนแรงในชาติจะไปทำลายความหวังและความพยายามร่วมกันในการเริ่มเปิดและฟื้นฟูประเทศ อย่างไรก็ตาม อุดมการณ์และความคิดเห็นต่างเป็นเรื่องปกติในวิถีประชาธิปไตย ที่รัฐจำเป็นต้องเปิดเวทีให้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันในทุกระดับ โดยต่างต้องเคารพความคิดเห็นต่างและทำความเข้าใจกัน ไม่เห็นเป็นฝ่ายตรงข้ามกันและเอาชนะกันด้วยการบิดเบือน ปลุกปั่น สร้างความโกรธเกลียดแตกแยกรุนแรงในสังคม จนสูญเสียเอกภาพการควบคุมแบ่งสรรทรัพยากรและผลประโยชน์กันเองภายในประเทศให้กับต่างชาติสามารถควบคุมดูดซับกลับประเทศไปใช้ประโยชน์ เฉกเช่น หลายประเทศที่กำลังเกิดขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ซูเปอร์โพล’ สำรวจความเห็นเอกชนเสนอนโยบายเศรษฐกิจให้รัฐบาลใหม่

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชน เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มุ่งทำความเข้าใจ “ประสบการณ์จริง” ของผู้ประกอบการขนาดเล็ก รายย่อย ไม่เป็นทางการ และกิจการครัวเรือน ต่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน นโยบายที่ต้องการเร่งด่วน ความคิดเรื่องการเมือง

'ซูเปอร์โพล' เปิดคู่มือลาก 'ผู้นำกัมพูชา' ขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ด้านวิทยาการข้อมูลและระเบียบวิธี (Data Science and Methodology) ได้เสนอออกแบบ คู่มือปฏิบัติการนำผู้นำกัมพูชาขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ

ซูเปอร์โพลชี้ผลสำรวจต้องการให้ไทยสื่อสารเชิงรุกปมกัมพูชา

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชน เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง เปิดใจประชาชน จากกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,125 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 8 – 9 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

หยุดปะทะคารมไทย–กัมพูชา หันเยียวยา ปชช. มุมมองจากกรอบความมั่นคงไซเบอร์ NIST สหรัฐ

การปะทะกันทางทหารบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ไม่ได้สร้างเพียงรอยแผลทางภูมิรัฐศาสตร์ หากยังทิ้งร่องรอยความสูญเสียแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างลึกซึ้ง