'บิ๊กเด่น' ระบุคดีตู้ห่าวใกล้จบแล้ว คาด 1-2 วันส่งให้อัยการฟ้องได้ตามกำหนด ระบุฟัน 6 นายตำรวจให้ออกจากราชการไว้ก่อนเซ่นคดีแล้ว ส่วนกรณีหลานนายกฯ ก็สั่งตรวจสอบแล้ว
12 ม.ค.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว ว่าขณะนี้การสอบสวนเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะสรุปสำนวนเสนออัยการสูงสุดภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งอยู่ในกรอบระยะเวลาที่อัยการสูงสุดต้องเสนอส่งให้ศาลภายใน 20 ม.ค.2566 ทั้งนี้ตำรวจได้ร่วมการสอบสวนร่วมกับอัยการอยู่แล้ว โดยมีคณะของอัยการสูงสุดมาให้คำแนะนำหรือดูแล ทางตำรวจจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ส่วนตัวมั่นใจในพยานหลักฐานว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะลงโทษผู้กระทำผิดในคดีนี้ได้ ซึ่งมีผู้ต้องหาหลัก 37 คน จับกุมได้ 19 คน หลบหนี 18 คน ไม่รวมคดีเสพต่างๆ อีกกว่า 70 คน
“มั่นใจว่ามีหลักฐานทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานต่างๆจำนวนมาก ได้สอบปากคำพยานไม่ต่ำกว่า 400 ปาก”
ส่วนกรณีที่มีตำรวจเข้าไปพัวพันในเรื่องนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในคดีนี้จะแบ่งเป็นคดีหลักคือคดีฟอกเงิน ซึ่ง พ.ต.อ.หญิงภรรยาของนายตู้ห่าว เกี่ยวข้องกับคดีหลักคือคดีฟอกเงิน ส่วนอีก 5 นาย ทั้ง รองผบก.น.6, พลขับ, รอง ผกก.จร.สน.ลาดพร้าว, และพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย รวมทั้งหมด 6 นาย ได้ตั้งคณะกรรมการวินัยร้ายแรงไปแล้ว และส่งสำนวนการดำเนินคดีไปที่ ป.ป.ช. โดยเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2566 ที่อยู่ในอำนาจของ ตร. และอยู่ในอำนาจของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วทั้งหมด 6 นาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้งหมดจะอุทธรณ์ได้หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า จะต้องไปสู้กันทางคดีต่อไป เราถือว่าเป็นคดีสำคัญและอาจจะมีความเกี่ยวเนื่องกันในคดีหลักคือคดีฟอกเงิน ส่วนอีก 5 นายเป็นคดีต่อตำแหน่งหน้าที่ เรียกรับสินบน ในส่วนอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็ได้สั่งให้ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.2566 ส่วนอำนาจของ ตร. คือภรรยาของนายตู้ห่าว ทาง ตร.ก็ได้สั่งให้ออกจากราชการแล้วเช่นกัน ส่วนนายตู้ห่าวได้แจ้งข้อหาฟอกเงินแล้ว เพราะจะสรุปสำนวนส่งอัยการในเร็วๆนี้
ส่วนประเด็นรถทัวร์ที่เป็นของหลานนายกฯ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า กรณีนี้ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นไปแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นได้ข้อมูลจาก ป.ป.ส. มาส่วนหนึ่งว่ารถทัวร์ที่หลานนายกฯ ไปทำธุรกรรมการเช่าซื้อ เรื่องการทำธุรกิจท่องเที่ยวมีมาตั้งแต่ปี 2562 ประมาณ 33 คัน จากจำนวนหลายร้อยคันที่นายตู้ห่าวได้ทำธุรกิจ ส่วนคดีจินหลิงเป็นคดีสมคบ ยาเสพติด คดีองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เราได้ดูหลักฐานความเกี่ยวเนื่องย้อนไปถึงปี 2563 ซึ่งเรื่องรถทัวร์เป็นก่อนกระทำความผิดไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยตรง แต่เราจะประสานข้อมูลกับ ป.ป.ส. เพิ่มเติม ในเรื่องความเกี่ยวเนื่องของทรัพย์สิน และ ปปง.เรื่องเส้นทางการเงิน ถ้ามีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
เมื่อถามอีกว่าคดีนี้จะมีมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เพราะเราดำเนินการอย่างชัดเจน เพียงแต่จะไม่บอกทุกขั้นตอน เพระเกรงว่าผู้ที่จะวางแผนต่อสู้คดีเขาจะรู้ตัว แต่ตอนนี้ถือว่าใกล้เวลาที่จะต้องส่งสำนวนแล้ว จึงมาแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร.ไทยถกด่วน ผบ.ตร.กัมพูชาหามาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์!
สตช.ถกด่วนร่วมตำรวจกัมพูชาวางมาตรการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมประสานขอส่งตัวผู้ต้องหากว่า 100 คนกลับมาดำเนินคดีในไทย
อสส.สร้างสำนักงานใหม่ บนที่ดินเก่าเสี่ยเปี๋ยง
ที่ห้องประชุม ชั้น 4 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายอดิศร ไชยคุปต์ รองอัยการสูง
'เศรษฐา' มอบนโยบายตำรวจชายแดนให้ปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก!
นายกฯ รุด บช.ตชด. มอบนโยบายปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก บอกต้องภาคภูมิใจไม่ใช่แค่ดูแลความมั่นคง แต่ยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ก่อนเดินตรวจแฟลชที่พัก ให้กำลังใจ พร้อมหนุนงบปรับปรุง
ล้อมคอกโจรไซเบอร์ เดินหน้า 'ปอง.2'
อสส. เปิด ปอง. 2 เดินหน้าพัฒนาศักยภาพบุคลากร รับมือรับมืออาชญากรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ชี้เป็นหลักสูตรติดอาวุธทางปัญญาที่สำคัญในการต่อต้านการฟอกเงินและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศ
ผบ.ตร. สั่งดูแลความปลอดภัยจุดพักพิงเหตุเพลิงไหม้ตรอกโพธิ์
ผบ.ตร. กำชับดูแลความปลอดภัยจุดพักพิงเหตุเพลิงไหม้ตรอกโพธิ์ เพิ่มพนักงานสอบสวนอำนวยความสะดวกคดี พร้อมส่ง พฐ.ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ป.ป.ช.ยืดเวลาสอบปม 'เศรษฐา' ตั้ง 'ต่อศักดิ์' นั่ง ผบ.ตร.มิชอบ
ป.ป.ช.ขยายเวลาสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ปม 'เศรษฐา' ตั้ง 'บิ๊กต่อ' เป็น ผบ.ตร.มิชอบ