ใช้นวัตกรรมชูไอเดียเปลี่ยนปัญหาขยะ สู่การเป็นทรัพยากรทดแทนที่มีคุณค่า

ปัญหาขยะ ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของทุกคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งแน่นอนว่าเกือบทุกคนบนโลกนี้จำเป็นที่จะต้องตระหนัก และรู้ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัญหาขยะได้ จนนำไปสู่การแก้ไขและปรับเปลี่ยนวิธีจัดการกับปัญหาเหล่านี้ก่อนที่จะนำไปสู่จุดที่ต่ำที่สุด จนเกินกว่าที่จะแก้ไขได้...

ปัญหาขยะในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมาตลอดระยะเวลา แต่ด้วยความเคยชินของคนในสังคมรวมถึงระบบปฎิบัติการที่ยังดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง ที่ผ่านมาการดูแลเรื่องดังกล่าวจึงยังไม่เห็นถึงความเป็นรูปธรรมมากนัก ทุกคนยังทิ้งขยะอย่างเคยชิน และไม่ได้ใส่ใจถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น แต่ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนไป และกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการดูแลสิ่งแวดล้อม ปัญหาขยะจึงมักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นปัญหาระดับโลก และกำลังมองหาทางแก้ไขร่วมกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง

แน่นอนว่าการพัฒนาของเทคโนโลยีก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การดูแลและเก็บกวาดขยะเป็นเรื่องที่สะดวก ไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมา รวมทั้งยังสามารถนำไปพัฒนาเป็นของมีค่าได้อีกด้วย เช่นเดียวกับที่ทีมนักวิจัย จากสถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอช จี เนกซ์ จำกัด ได้ร่วมมือกันพัฒนาต่อยอดจนได้ทางออกที่สมบูรณ์ให้กับผู้ที่อยากเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นทรัพยากรทดแทนที่มีคุณค่า เติมเต็มช่องว่างของการค้นหาทรัพยากรใหม่ๆ ที่มีอยู่อย่างจำกัดในปัจจุบัน

ต่อไปนี้ สังคมอาจจะเห็นขยะ หรือสิ่งที่ถูกมองข้ามกลายมาเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อสังคมก็ได้ เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ ปตท. ได้จัดพิธีเปิดงานนิทรรศการ “Waste is MORE” โดยมี นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นให้เห็นถึงมิติของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการพัฒนาศักยภาพของ “ขยะ” ที่ถูกมองว่าไร้ค่า ให้กลายเป็นวัสดุทดแทนที่ “ไม่ไร้ค่า” อีกต่อไป

โดย ปตท. พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันศักยภาพของนวัตกรรมการวิจัย และการออกแบบของคนไทย ให้เติบโตไปแข่งขันในเวทีระดับโลก ทั้งยังคำนึงถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน จากนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมใน 3 มิติ ไปพร้อมกัน อันประกอบไปด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) หรือ BCG ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมชุมชนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ จึงได้จัดตั้งโครงการ MORE ร่วมกับ บริษัท เอช จี เนกซ์ จำกัด โดยมุ่งมั่นพัฒนางานวิจัยและออกแบบวัสดุเหลือใช้ต่างๆ ให้สามารถนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยอาศัยนวัตกรรมการพัฒนาวัสดุด้วยกระบวนการ Upcycling วัสดุเหลือใช้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณค่าและมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งความตั้งใจของโครงการ MORE โดย ปตท. ใช้นวัตกรรมเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นทรัพยากรทดแทน โดยร่วมตีความวัสดุเหลือทิ้ง ได้แก่ เยื่อกาแฟ เศษใบอ้อย ฝุ่นไม้ อะลูมิเนียมฟอยล์จากกล่องยูเอชที ฝุ่นผ้า เศษแผ่น PVC ฝาขวดน้ำ เปลือกไข่ ร่วมกับ 8 นักออกแบบ ได้แก่ MORE, o-d-a, NUTRE JEWELLER, Kitt.ta.khon, mitr., TAKORN TEXTILE STUDIO, Designerd และ Spirulina Society ในการสรรสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในครั้งนี้

เป็นการตอกย้ำความมุ่งหวังของ ปตท. ในการผลักดันให้เศรษฐกิจ BCG ของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังหวังผลให้เกิดการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำให้กับเกษตรกรและชุมชนอีกด้วย โดยนิทรรศการ Waste is MORE นี้ เป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Design Week 2023 ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 12 ก.พ. 2566 ณ อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก กรุงเทพมหานคร

ซึ่งภายในงานนั้นได้ออกแบบให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และงานออกแบบที่ต่อยอดจากความรู้และมุมมองใหม่ๆ โดยใช้ขยะให้กลายเป็นทรัพยากรที่สามารถมาทดแทนบางอย่างได้ รวมถึงพัฒนาให้ออกมาในรูปแบบของงานศิลปะ งานประดิษฐ์ ของใช้ และของตกแต่งบ้าน รวมถึงยังมีกิจกรรม workshop ให้ผู้ที่ไปร่วมงานนั้นสามารถเข้าร่วมสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นฝีมือของตัวเองได้อีกด้วย โดยผู้ที่สนใจยังสามารถติดตาม และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : waste.wasteismore

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กลุ่ม ปตท. ผนึกพลังจงรักภักดี จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2567) - ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และพนักงานกลุ่ม ปตท.

‘เอนโก้’ ลั่นครบรอบ 20 ปี พร้อมลุยงานเต็มที่ตั้งเป้าดันกำไรโต

นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ เอนโก้ เปิดเผยว่าในปีนี้ เอนโก้ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ปตท. ขอเชิญร่วมงาน “ลำนำนที วารีสมโภช” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

จัดเต็มกิจกรรมสุด Exclusive ณ สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ) ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2567

ขอเชิญชวนเยาวชนและบุคคลทั่วไปร่วมส่งผลงานประเภทประติมากรรมสื่อผสมจากวัสดุเหลือใช้ ในหัวข้อ ‘ชลวิถี นทีพัฒน์’

ขอเชิญชวนเยาวชนและบุคคลทั่วไป อายุ 18 ปีขึ้นไป ร่วมส่งผลงานประเภทประติมากรรมสื่อผสมจากวัสดุเหลือใช้ เข้าประกวดในหัวข้อ ‘ชลวิถี นทีพัฒน์’

ปตท. คว้าอันดับ 1 บริษัทชั้นนำในไทยและอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนิตยสารฟอร์จูน สะท้อนผลการดำเนินงานและความสำเร็จที่เป็นเลิศในระดับสากล

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทชั้นนำอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

OR หนุน3สมาคมกีฬาฯ 4ปีรวม60ล้านบาท มุ่งพัฒนานักกีฬาไทยสู่สากล

ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และประธานอนุกรรมการพิจารณาจัดการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน รับมอบเงินจำนวน 60 ล้านบาท สนับสนุน 4 ปีต่อเนื่อง (ปี 2567 - 2570) จาก นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย