
นายกฯ รับคนไทยชุดแรก 78 คน จากซูดานด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ชื่นชมความร่วมมือของทุกฝ่าย เพื่อนำพี่น้องชาวไทยกลับมาโดยสวัสดิภาพ ย้ำห่วงใย ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนสูงสุด
28 เม.ย.2566 - เมื่อวันพฤหัสบดี เวลาประมาณ 22 .30 น.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางมายังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อต้อนรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบในสาธารณรัฐซูดาน ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ เป็นชุดแรก จำนวน 78 คน แบ่งออกเป็นผู้ชาย 38 คน และผู้หญิง 40 คน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง แล้ว คนไทยทั้ง 78 คน จะได้รับบริการตรวจสุขภาพ โดยกรมควบคุมโรค และกรมสุขภาพจิต, การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเอกสารการเดินทาง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, การตรวจสอบสิทธิ์และให้คำแนะนำด้านต่าง ๆ โดยกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแล้ว กลุ่มแรกจำนวน 5 คน จะเข้าพักในที่พักที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาให้ส่วนอีก 73 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ จะอยู่ภายใต้การดูแลของ ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) ซึ่งจัดที่พักรับรองไว้ให้ 1 คืน จากนั้นช่วงเช้าของวันที่ 28 เมษายน 2566 กองทัพอากาศจะจัดเครื่องบิน C-130 ไปส่งที่สนามบินบ่อทอง จังหวัดปัตตานี ต่อไป
สำหรับแผนการช่วยเหลือในห้วงต่อไป ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีคนไทยรอเดินทางกลับด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศอีก 132 คน แบ่งออกเป็น ชุดแรกจำนวน 66 คน ขณะนี้เดินทางด้วยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบียจากสาธารณรัฐซูดาน ถึงเมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียแล้ว และได้พบกับ นายดามพ์ บุญธร เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และ นาวาอากาศเอก อนุรักษ์ รมณารักษ์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการภารกิจรับคนไทยกลับจากพื้นที่ขัดแย้งในสาธารณรัฐซูดาน (ในส่วนของกองทัพอากาศ) ที่ยังคงเตรียมความพร้อมและประสานงานอยู่ที่เมืองเจดดาห์ ส่วนชุดที่ 2 จำนวน 66 คน จะเดินทางข้ามจาก Port of Sudan ไปยังเมืองเจดดาห์โดยทางเรือ และอาจมีผู้เดินทางมาสมทบเพิ่มเติม ทั้งนี้กองทัพอากาศจะประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือคนไทยกลับมาได้ทั้งหมด
โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เครื่องบิน Airbus A340-500 กลับไปรับคนไทยเป็นเที่ยวบินที่สอง และยังมีเครื่องบิน C-130 อีก 2 เครื่องซึ่งเตรียมความพร้อมอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลลาซิซ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สำหรับกำหนดการและรายละเอียดอื่น ๆ กองทัพอากาศจะแจ้งให้ทราบต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามสถานการณ์การอพยพคนไทยกลับจากประเทศซูดาน ยินดีและขอขอบคุณด้วยหัวใจ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ในนามรัฐบาลได้สั่งการหน่วยงานทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอบคุณการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องเพื่ออพยพคนไทยกลับสู่ประเทศไทยให้ได้ ทั้งนี้ การดำเนินการไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องประเมินสถานการณ์ตลอด ครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบของรัฐบาลไทยที่สามารถดูแลคนไทยได้ รวมทั้ง ขอบคุณการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง เช่น อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำประสิทธิภาพของประเทศในทุกด้านซึ่งต้องมีความพร้อมทั้งด้านกำลังคน อุปกรณ์ แผนดำเนินการ ที่วางไว้ล่วงหน้าเพื่อเผชิญเหตุต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา โดยขอให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่เตรียมความพร้อมดูแลคนไทยให้ได้มากที่สุด ขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนและผู้ที่ติดตามข่าวสารด้วยความห่วงใยคนไทย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา คนไทยอยู่ร่วมกันด้วยความรักความสามัคคีซึ่งขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้กลับบ้าน และยินดีกับทุกครอบครัว ได้กำชับรอติดตามสถานการณ์กลับสู่ความสงบเรียบร้อย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทักทายคณะคนไทยด้วยความห่วงใยสอบถามรายละเอียดการเดินทาง สอบถามถึงสถานการณ์การเรียน การเปิดภาคการศึกษา ดีใจที่ทุกคนปลอดภัย ย้ำรัฐบาลส่งความห่วงใยให้ตั้งแต่วันแรกได้สั่งการให้มีการเตรียมการอพยพอย่างรอบคอบเพื่อให้ทุกคนปลอดภัยดีใจที่ทุกคนปลอดภัยกลับมา และขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ เครื่องบิน Airbus A340-500 ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ (King Abdulaziz) เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย นำผู้ประสงค์จะเดินทางกลับพร้อมเครื่องบินของกองทัพอากาศในเที่ยวบินแรก จำนวน 78 คน ประกอบด้วย นักเรียนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 71 คน จังหวัดพัทลุง 1 คน นครศรีธรรมราช 1 คน และครอบครัวซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี 5 คน และเบื้องต้นทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีจากกองทัพอากาศ พร้อมได้ตรวจสุขภาพ และผ่านการตรวจคัดกรองจากทีมแพทย์ของกองทัพอากาศ ซึ่งแม้มีอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่ทุกคนปลอดภัยและรู้สึกดีใจที่เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
โดยคณะคนไทยจะผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและการตรวจคัดกรองโรคก่อนเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก และในวันที่ 28 เมษายน คณะคนไทยที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ภาคใต้จะเดินทางกลับพื้นที่ด้วยเครื่องบิน C – 130 ของกองทัพอากาศ เพื่อกลับสู่ภูมิลำเนาต่อไป
นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการของกองทัพอากาศยังคงเตรียมความพร้อมอยู่ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือคนไทยชุดต่อไปซึ่งจะขึ้นเรือจาก Port of Sudan มาที่เมืองเจดดาห์ รวมถึงเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยนายกรัฐมนตรีห่วงใย ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนไทย โดยมุ่งหวังที่จะนำพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ลงหาดใหญ่รอบ 3! ขน 'สิ่งของ-ทีมกู้ชีพ' ขึ้น C130
'นายกฯอนุทิน' บินลงพื้นที่น้ำท่วม รอบที่ 3 ขนสิ่งของ 'อุปโภคบริโภค-เจ็ตสกี' พร้อมนำทีมกู้ชีพ ขึ้นเครื่องร่วมคณะ ไปช่วยวิกฤติหาดใหญ่ด้วย
ชีพจรลงเท้า! อนุทินบินไปเกาหลีประชุมเอเปกเล็งพบ 'สี จิ้นผิง' ขายข้าว 5 แสนตัน
นายกฯ อนุทิน บินเกาหลีประชุมเอเปกพบผู้นำมหาอำนาจโลก หวังสร้างโอกาสการค้า และสนับสนุนซึ่งกันและกัน เตรียมพบ 'สีจิ้นผิง' ขายข้าวให้จีน 5 แสนตัน
'โจ้ - ธนา' เขียนถึง 'โต้ง - สิริพงศ์' โฆษกผู้น่ารัก ความหวัง-ความภูมิใจ ของจังหวัดศรีสะเกษ
โจ้ - ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ที่ปรึกษาธุรกิจ และเจ้าของเพจ "เขียนไว้ให้เธอ" เขียนถึง โต้ง - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ในหัวข้อ "โฆษกผู้น่ารัก" มีเนื้อหาดังนี้
โพลจี้อิ๊งค์ออก/รทสช.ส้มหล่น
"อิ๊งค์" อยู่ยาก นิด้าโพลเผยคนอยากให้ลาออก ตามด้วยยุบสภา
'วิโรจน์' เตือนตั้งสติรับมือ 'ฮุน เซน' บิดาสแกมเมอร์ทำปั่นป่วน ท้าเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทยฟอกเงิน
'วิโรจน์' เตือนคนไทยตั้งสติ-รับมือให้ดี ชี้ 'ฮุน เซน' เป็นบิดาของสแกมเมอร์ มาเพื่อสร้างความปั่นป่วน ซัดหักหลัง-เหยียบศพขึ้นไปมีอำนาจเท่าไหร่ จะมีคลิปหรือไม่มีก็บอกว่ามีไว้ก่อน เพราะเป็นตัวพ่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ท้าเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทยฟอกเงิน เชื่อ 'อิ๊งค์' รู้แต่ไม่จัดการ ย้อนถามเป็นคนรอบตัวหรือไม่ ฉะ 'มาริษ' เงียบเกินไป ควรเปลี่ยนตัวเอาคนที่เก่ง-ทันเกมกว่านี้
'อ.ปริญญา' วิเคราะห์ ผู้นำรัฐประหาร ทำไม 'ประยุทธ์' อยู่ในอำนาจได้นานกว่า 'สุจินดา'
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) พ.ศ.2535 โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ทำไมพลเอกประยุทธ์อยู่ในอำนาจได้นานกว่าพลเอกสุจินดา มีเนื้อหาดังนี้


