'อ.ปริญญา' วิเคราะห์ ผู้นำรัฐประหาร ทำไม 'ประยุทธ์' อยู่ในอำนาจได้นานกว่า 'สุจินดา'

11มิ.ย.2568- ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) พ.ศ.2535 โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ทำไมพลเอกประยุทธ์อยู่ในอำนาจได้นานกว่าพลเอกสุจินดา มีเนื้อหาดังนี้

บทวิเคราะห์ #ในวาระสุจินดาอสัญกรรม

พลเอกสุจินดา คราประยูร อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เพียงแค่ 47 วัน แล้วต้องลาออกเพราะการปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ที่มีผู้เสียชีวิต 44 คน และสูญหายอีกหลายร้อยคน และถ้านับตั้งแต่วันที่ยึดอำนาจคือ 23 กุมภาพันธ์ 2534 ก็มีระยะเวลาในอำนาจเพียง 1 ปีกับ 3 เดือนเท่านั้น

คำถามคือ แล้วทำไมพลเอกประยุทธ์ จันท์โอชา ถึงเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างยาวนานถึง 9 ปี? พลเอกประยุทธ์นั้นเอาอย่างพลเอกสุจินดาหลายเรื่อง ชื่อคณะยึดอำนาจก็ลอกมา พลเอกสุจินดาใช้ชื่อว่า “คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ” พลเอกประยุทธ์ก็แค่ตัดคำว่า ’เรียบร้อย‘ ออก แล้วก็ใช้ชื่อว่า “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ชื่อย่อของคณะพลเอกสุจินดาใช้ว่า “รสช.” พลเอกประยุทธ์ก็ใช้ว่า “คสช.” แล้วที่สำคัญคือใช้คนร่างรัฐธรรมนูญคนเดียวกันคือ มีชัย ฤชุพันธ์

แล้วทำไมพลเอกและยุทธ์อยู่ในอำนาจได้นานกว่ามาก? ในวาระที่พลเอกสุจินดาถึงแก่อสัญกรรม เราจึงน่าจะถือโอกาสมาสรุปบทเรียนกัน ซึ่งผมคิดว่าการที่พลเอกประยุทธ์อยู่ในอำนาจได้นานกว่าพลเอกสุจินดา มาจากเหตุดังต่อไปนี้คือ

1.ในปี 2534 #ไม่มีประชาชนเรียกร้องหรือถามหาการรัฐประหาร การยึดอำนาจจึงไม่ได้เกิดขึ้นโดยความสนับสนุนของประชาชน ขณะที่ในการยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น มีการชุมนุมปิดกรุงเทพ และสถานที่ราชการต่างๆ อยู่ถึง 6 เดือนเต็ม และมีการสร้างเงื่อนไขต่างๆ รวมไปถึงการปิดล้อมหรือขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง

2.ในสมัยปี 2534-2535 #ประชาชนไม่ได้แตกแยกกัน ขณะที่ในช่วงปี 2557 ประชาชนแตกแยกเป็นฝ่ายเสื้อเหลืองและเสื้อแดง พลเอกประยุทธ์จึงอยู่ในอำนาจได้นานเพราะความแตกแยกของประชาชน

3.รัฐธรรมนูญปี 2534 นั้น #พลเอกสุจินดาไม่มีกลไกอำนาจอะไรมากในการสืบทอดอำนาจ แม้พลเอกสุจินดาจะเลือก ส.ว. ชุดแรก แต่ ส.ว. ของ รสช. ก็มิได้มีอำนาจอะไรมากมาย องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญตอนนั้นก็ยังไม่มี

ขณะที่ 5 ปีแรกของพลเอกประยุทธ์ (2557-2562) สนช. ของพลเอกประยุทธ์เป็นผู้เลือกองค์กรอิสระและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พอรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ พลเอกประยุทธ์ก็เป็นคนเลือก ส.ว. ที่นอกจากจะมีอำนาจเลือกองค์คอิสระและศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังมีอำนาจในการเลือกตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ทำให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกต่อได้อีก 4 ปี (2562-2566) โดยควบคุมองค์กรอิสระและองค์กรตรวจสอบได้แทบทั้งหมด

4.พลเอกประยุทธ์คงจะได้สรุปบทเรียนว่าทำไมพลเอกสุจินดาจึงอยู่ในอำนานได้ไม่นาน ขณะที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ 2560 คืออาจารย์มีชัย (ที่จริงๆ คือเอาฉบับ 2534 มาอัพเกรดอำนาจเผด็จการ) ก็สรุปบทเรียนว่า #ทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจไม่ถูกแก้ จึงได้วางล็อกการแก้ไขเอาไว้ (ด้วยกลไกต้องมี ส.ว. เห็นชอบ 1 ใน 3

และการทำประชามติ) ดังนั้น พลเอกประยุทธจึงอยู่ในอำนาจครบ 4 ปีสบายๆ และยังกำหนดคนที่จะเป็นนายกต่อจากตนได้ด้วย

5.ประเด็นที่น่าสนใจอีกข้อหนึ่งคือ พลเอกสุจินดานั้นหลังยึดอำนาจเคยประกาศว่าจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเสียสัจจะ ก็ต้องแก้ตัวด้วยวาทกรรม “เสียสัตย์เพื่อชาติ” แล้วก็มีกลายเป็นจุดอ่อนที่ถูกโจมตีมากที่สุด

ขณะที่พลเอกประยุทธ์นั้น ไม่เคยพูดว่าจะไม่เป็นนายก

เพราะเป็นนายกตั้งแต่หลังยึดอำนาจเลย แล้วก็แต่งเพลงมาสัญญากับประชาชนว่า “เราจะทำตามสัญญา

ขอเวลาอีกไม่นาน ความสุขจะคืนกลับมา” แต่กว่าจะให้เลือกตั้งเวลาก็ผ่านไปถึง 5 ปี แล้วยังเป็นนายกต่ออีก 4 ปี รวมเป็น 9 ปี ซึ่งไม่ใช่ “เวลาอีกไม่นาน” แน่ๆ นอกจากนั้นตอนที่มีการลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พลเอกประยุทธ์แถลงขอให้ประชาชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยตนเอง “จะไม่สืบทอดอำนาจ” ซึ่งก็ไม่จริงอีก

คำถามคือการไม่ทำตามคำพูดของพลเอกประยุทธ์ทำไมจึงไม่เกิดปัญหาเหมือนสมัยพลเอกสุจินดา? นี่หมายความว่า #มาตรฐานเรื่องความสัตย์ หรือสัจจะต่อประชาชนคงจะมีมาตรฐานต่ำลงกว่าในปี 2535 แล้วก็ดูจะเป็นเรื่องจริง เพราะไม่ได้มีแต่พลเอกประยุทธ์ที่ไม่ทำตามคำพูดแล้วก็ไม่เกิดปัญหาอะไร

นึ่คือเหตุผลที่พลเอกประยุทธ์อยู่ในอำนาจได้ยาวนานกว่าพลเอกสุจินดา กล่าว #โดยสรุป คือ ฝ่ายเผด็จการเขาสรุปบทเรียนความผิดพลาดของพลเอกสุจินดา จึงอยู่ในอำนาจได้นานกว่า ขณะที่ฝ่ายประชาธิปไตยนอกจากจะแตกแยกกันแล้วยังอาจจะไม่ได้สรุปบทเรียนกันด้วย

กล่าวมาทั้งหมดคือ ประชาชนควรต้องสรุปบทเรียนบ้างครับ เผด็จการเข้ามาไม่ได้ ถ้าเราไม่เรียกหรือสร้างเงื่อนไขให้เข้ามา เราเห็นต่างกันแค่ไหนก็ขอให้แก้ไขกันไปตามวิถีทางประชาธิปไตย แม้หลังเหตุการณ์พฤษภา 2535 ที่ตั้งใจกันว่าจะทำให้รัฐประหารหมดไปจะไม่สำเร็จ แต่คราวนี้ขอให้เราตั้งใจกันอีกครั้งว่า รัฐประหาร 2557 จะต้องเป็นครั้งสุดท้ายครับ

ผมเชื่อว่าถ้าเราสรุปบทเรียนกันดังที่ว่าไป ในครั้งนี้เราจะทำสำเร็จให้รัฐประหาร 2557 เป็นครั้งสุดท้ายได้จริงๆ แล้วก็มาหาทางแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็นมรดกเผด็จการให้สำเร็จเเรื่องป็นเรื่องต่อไปครับ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ญาติวีรชนพฤษภา'35 จี้รัฐบาลหาคำตอบคนสูญหาย เชื่อความจริงไม่ได้ตายไปพร้อมกับ 'สุจินดา'

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา' 35 และรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

ญาติพฤษภา'๓๕ ขออโหสิกรรม 'สุจินดา ' หลังขอโทษต่อครอบครัว หวังสังคมไทยไม่ใช้ความรุนแรงอีก

ญาติพฤษภา'๓๕ เผย'สุจินดา'กล่าวขอโทษต่อครอบครัวแล้ว สมเป็นชายชาติมหาร เราจึงขออโหสิกรรม สลดใจการเมืองไทยแย่ลงหลายด้าน หวังสังคมไทยได้บทเรียน ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหากันอีก ดังคำสอนพ่อหลวงร.๙

'ดร.ปริญญา' ชำแหละคดี 'พอล แชมเบอร์ส' ปัญหากระบวนการยุติธรรมชั้นต้นที่ต้องแก้ไข

ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน และผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ คดี ดร.พอล แชมเบอร์ กับ #ปัญหากระบวนการยุติธรรมของไทยที่ต้องแก้ไข ว่า

'พล.อ.ประยุทธ์' เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญสัญญาบัตร พัดยศ ถวายพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญหิรัญบัฏ พัดยศ เครื่องประกอบสมณศักดิ์ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ถวายแด่

'อ.ปริญญา' อบรม ผู้ว่าฯสตง. ยังมี 70 ชีวิตติดอยู่ใต้ซากอาคาร ควรให้กำลังใจการช่วยคนออกมา

รศ. ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

เปิดภาพ 'ลุงตู่' ทำบุญไหว้พระ 'วัดมหาธาตุวชิรมงคล' จ.กระบี่

เพจเฟซบุ๊ก "วัดมหาธาตุวชิรมงคล" ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังของ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นำภาพของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี มาโพสต์ลงบนเพจ