'3 การไฟฟ้า' ผนึกกำลัง โชว์สุดยอดนวัตกรรม เสริมแกร่งพลังงานไทย ตอบโจทย์ผู้ใช้ไฟฟ้า

จากสภาพการณ์พลังงานโลกที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงพฤติกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป 3 องค์กรหัวหอกด้านพลังงานไฟฟ้าของไทย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้สั่งสมงานพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ อันหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ จึงร่วมมือกันโชว์ความพร้อมในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ผ่านการจัดแสดงผลงานนวัตกรรม (Show and Share, Innovation for the better life) เป็นครั้งแรก โดยมี นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และนายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมเปิดงาน และมีนักประดิษฐ์จากทั้ง 3 การไฟฟ้า พร้อมหน่วยงานด้านนโยบายและกำกับดูแลกิจการด้านพลังงาน หน่วยงานด้านวิจัยของประเทศ ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และประชาชนเข้าร่วมงาน ที่ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานของทั้ง 3 การไฟฟ้ากว่า 30 ผลงาน จากนักประดิษฐ์ ทั้งการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า งานด้านสังคมสิ่งแวดล้อมและธุรกิจใหม่ และงานบริการ ทำให้เกิดมิติใหม่ของการแลกเปลี่ยนความรู้ครั้งยิ่งใหญ่ สู่การพัฒนาต่อยอด ตอบโจทย์พฤติกรรมความต้องการใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเข้าชมนวัตกรรมด้านต่าง ๆ อย่างคึกคัก

นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนายุทธศาสตร์การพัฒนานวัตกรรมจาก 3 ผู้ว่าการ ในหัวข้อ "ยุทธศาสตร์การพัฒนานวัตกรรม 3 การไฟฟ้า ที่นำไปสู่ความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ" ซึ่งทั้ง 3 องค์กรได้ร่วมมือกันพัฒนา 3 นวัตกรรมใหญ่ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในอนาคต ได้แก่ 1. การศึกษาการพัฒนาโรงงานรีไซเคิลและกำจัดซากโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ 2. Sharing of Energy Information and Technology (Big Data) และ 3. โครงการความร่วมมือ 3 การไฟฟ้า EV Roaming

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมของ กฟผ. ว่า ได้วางยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1. เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจปัจจุบันด้วยนวัตกรรม 2. นวัตกรรมขับเคลื่อนภารกิจอนาคต 3. นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และ 4. สร้างคน กฟผ. ให้เป็นผู้สร้างนวัตกรรม ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคต

ด้านนายนายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ กฟน. กล่าวว่า กฟน. มีการวางยุทธศาสตร์ด้านบริหารจัดการนวัตกรรมไว้ 3 กลยุทธ์ เพื่อให้วิถีชีวิตเมืองมหานครดียิ่งขึ้น ได้แก่ 1. การวางโครงสร้างพื้นฐานให้เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม 2. การเสริมสร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม และ 3. การพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองลูกค้าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและความยั่งยืนขององค์กร

นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการ กฟภ. กล่าวว่า กฟภ. สร้างบรรยากาศและทรัพยากรให้เพียงพอต่อการส่งเสริมผู้ปฏิบัติงานให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขยายผลสู่การใช้งานภายในองค์กรและเชิงพาณิชย์ จึงได้วางยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมไว้ 3 ประการ ได้แก่ 1. การพัฒนายกระดับกระบวนการจัดการนวัตกรรม 2. การสร้างค่านิยมและเสริมสร้างวัฒนธรรมด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม และ 3. การนำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์

สำหรับนวัตกรรมโดดเด่นของ กฟผ. ที่นำมาจัดแสดงมีหลากหลายผลงาน ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์สำหรับการดำเนินภารกิจ และเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมอย่างเห็นได้ชัด เช่น ระบบแจ้งจุดขัดข้องในสายส่งแบบติดตั้งภายในสถานี (EGAT Line Fault Location) ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่มีความพิเศษ ที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ของสายส่งได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งสามารถควบคุมทางไกลเพื่อเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง มีการแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง จึงสามารถนำไปใช้กับงานตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าก่อนใช้งาน งานบำรุงรักษาสายส่ง หรือการพยากรณ์ระบบสายส่ง ช่วยลดเวลาและกำลังคนในการเข้าถึงพื้นที่ในการตรวจหาจุดขัดข้อง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศ และทำให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน กฟผ. ยังจัดแสดงชุดตรวจเชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์มในน้ำดื่มและน้ำแข็งแบบแคปซูล โดยสามารถนำมาตรวจเชื้อในน้ำดื่มและน้ำแข็งสำหรับการบริโภค ประชาชนใช้งานง่าย สามารถทราบผลรวดเร็วจากการเปลี่ยนสีของน้ำว่าสะอาดหรือมีเชื้อโรคปนเปื้อน มีราคาต้นทุนถูก เก็บรักษาในความเย็นได้นานกว่า 1 ปี ซึ่งปัจจุบัน กฟผ. นำมาใช้ตรวจการปนเปื้อนในน้ำที่สำนักงานใหญ่ กฟผ. และหน่วยงานภูมิภาคทั่วประเทศ รวมถึงส่งมอบให้โรงเรียน มหาวิทยาลัย และบริษัทในกลุ่ม กฟผ. ปีละ 6,000 ชุด โดยผลงานชิ้นนี้ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานที่เข้ามาสอบถามข้อมูล และนำชุดตรวจเชื้อแบบทดลองไปทดสอบใช้ในหน่วยงานด้วย

อีกยังมีทั้งผลงานของอีก 2 การไฟฟ้า เช่น โครงการ Smart Metro Grid หรือผลงาน PEA VOLTA DC25 นับว่าการผนึกกำลังในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นอกจากการโชว์ผลงานความสำเร็จด้านการใช้พลังงานแล้ว ยังสามารถต่อยอดขยายความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในอนาคตอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จอมพลังไทยฟอร์มเฉียบ EGATยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2567

นายไตรรัตน์ ชัยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมพิธีปิดการแข่งขัน EGAT ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567 ณ โรงยิมเนเซียมเทศบาลเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

กฟผ. แจ้งร้อนนี้หากจะทำกิจกรรมริมน้ำดูแผนการระบายน้ำของเขื่อนต่าง ๆ ของ กฟผ. ล่วงหน้าที่เว็บไซต์ https://water.egat.co.th เพื่อป้องกันภัยประชาชน

กฟผ. เผยทุกเขื่อนมีการแจ้งแผนการระบายน้ำล่วงหน้าทั้งรายสัปดาห์และรายวันที่เว็บไซต์ https://water.egat.co.th และช่องทางการสื่อสารทางไลน์ในพื้นที่ชุมชนที่อยู่รอบเขื่อน วอนขอให้ประชาชนติดตามแผนการระบายน้ำก่อนที่จะทำกิจกรรมริมน้ำเพื่อมิให้เกิดอันตราย

กฟผ.ชวนสัมผัส “ELEXTROSPHERE โลกใหม่ Right คาร์บอน” โซนใหม่ศูนย์การเรียนรู้ จัดเต็มความรู้คู่ความสนุก พบกัน 2 เมษายนนี้!

ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง เป็นโครงการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มุ่งทำขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์การแบ่งปันองค์ความรู้สู่สังคม หรือ Learning for Society

ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ 5 ดาว ประหยัดไฟ รักษ์โลกมากกว่าเดิม

แม้ไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนเพียงไม่นาน แต่บางพื้นที่มีอุณหภูมิร้อนแรงแตะ 45 องศาเซลเซียส ทำให้หลายคนเตรียมปาดเหงื่อทั้งจากอากาศที่ร้อนจัด