
25 ก.ค. 2566- ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และอาจารย์ผู้บรรยายวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความและกฎหมายพยานหลักฐาน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,มหาวิทยาลัยรามคำแหง,สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ให้ความเห็นทางกฎหมายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าประเด็นในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเหตุตามกฎหมายในการสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรี
ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย โดยผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า การกระทำของรัฐสภาที่ลงมติวินิจฉัยว่า การเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นญัตติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 นั้น เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญและเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้ร้องเรียน ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาและประชาชน และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในเรื่องนี้
ตามคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าว น่าจะมีประเด็นต่าง ๆ ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาและวินิจฉัย ดังนี้
- การกระทำของรัฐสภาในการลงมติดังกล่าว ต้องไม่ใช่กรณีที่ต้องห้ามใช้สิทธิยื่นคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47
- คำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าว เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัยหรือไม่ ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 46 วรรค 3
- ผู้ร้องเรียนเป็นผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครองหรือไม่
- การกระทำของรัฐสภาในการลงมติดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง หรือไม่
- มีเหตุที่จะต้องกำหนดมาตรการชั่วคราวก่อนมีคำวินิจฉัย ด้วยการมีคำสั่งให้รัฐสภายุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หรือไม่
ซึ่งในการพิจารณาว่ามีเหตุที่จะต้องกำหนดมาตรการชั่วคราวดังกล่าวก่อนมีคำวินิจฉัยหรือไม่ ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 71 กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาดังนี้
- มีเหตุที่จะต้องป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง หรือเพื่อป้องกันความรุนแรงอันใกล้จะถึง หรือไม่ และ
- คําร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินมีเหตุอันมีน้ำหนักที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้เป็นไปตามคําร้อง หรือไม่
นอกจากนี้ มีข้อสังเกตว่า หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งกำหนดมาตรการชั่วคราว มาตรการนี้จะมีผลใช้บังคับได้เพียงไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่ศาลกำหนดมาตรการชั่วคราวเท่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ‘สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต’ เป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ตีตก 2 คำร้อง! ศาล รธน. ไม่วินิจฉัย MOA ตั้งรัฐบาลอนุทิน เหตุไม่มีหลักฐานชัดล้มล้างการปกครอง
ศาล รธน.ตีตกปม MOA "ณัฐพงษ์-อนุทิน" ให้ สส.ปชน-ภท. โหวตนายกฯ เหตุไม่มีหลักฐานชี้ชัดใช้สิทธิล้มล้างปกครอง เป็นการประกาศเจตจำนงร่วมทางการเมือง
'ราชทัณฑ์' พร้อมส่งตัว 'แส จิ้นเจียง' เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี
“ราชทัณฑ์” พร้อมส่งตัว “แส จิ้นเจียง“ ผู้ต้องหาชาวจีน เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี หลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัย “พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน” ไม่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ระบุ อยู่ระหว่างรับประสานงาน “อัยการ-ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ“ ยืนยัน ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง ต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ป้องกันชิงตัวผู้ต้องหา


