กฟผ. ชวนคนไทยชมนิทรรศการ “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9

วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ซึ่งในปี 2566 นี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเป็น “วันนวมินทรมหาราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย

ที่ผ่านมาด้วยพระอัจฉริยภาพทางด้านต่าง ๆ ของพระองค์ ก่อให้เกิดคุณอนันต์ต่อประเทศไทย ซึ่งพวกเราชาวไทยได้น้อมนำคำสอนต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิต ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นำไปสู่การต่อยอดพัฒนาประเทศในวงกว้าง โดยเฉพาะในด้านพลังงาน ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล ก่อกำเนิดเป็นโครงการพระราชดำริในด้านพลังงานต่าง ๆ มากมาย ช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาสู่ความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้น

เนื่องในโอกาสวันนวมินทรมหาราชนี้ กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงร่วมสืบสานพระราชกรณียกิจ เผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านพลังงาน ผ่านการจัดงานน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติวันนวมินทรมหาราช “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค. 2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 สยามสเคป กรุงเทพฯ

ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ดร.จิราพร ศิริคำ รักษาการผู้ว่าการ กฟผ. พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน กฟผ. และประชาชน เข้าร่วม

พลอากาศเอก ชลิต กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 เปรียบดั่ง “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” หลากหลายโครงการที่ทรงริเริ่ม เป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยพระปรีชาสามารถ โครงการตามพระราชดำริอันหลากหลาย และโครงการด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทน ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ และเป็นแนวทางในการวางนโยบายด้านพลังงานของประเทศจวบจนถึงปัจจุบัน

พระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นที่ประจักษ์ และน้อมนำมาสืบสานพระราชปณิธาน ด้วยการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ และคำสอนของพระองค์บนหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ได้พระราชทานแก่พสกนิกรด้วย

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเรื่องพลังงานหลายเรื่อง ประเทศไทยริเริ่มดำเนินงานจากวิสัยทัศน์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 การจัดงานดังกล่าวจึงเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน และทำให้เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ทอดทิ้งประชาชน ซึ่งคำสอนที่ผมเองมีความประทับใจและอยู่ในความทรงจำมากที่สุด คือเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาด้านพลังงาน ซึ่งล้วนสร้างคุณอนันต์ให้กับประเทศไทย

สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการโครงการตามแนวพระราชดำริอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการพลังงาน ซึ่งประกอบด้วย 5 โครงการ ได้แก่

1. พลังน้ำ พลังแห่งน้ำพระราชหฤทัย นำเสนอแนวพระราชดำริในการพัฒนาแหล่งน้ำ การจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงรอบรู้และทรงพระราชทานแนวทางในการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ และทรงมีพระกรุณาธิคุณพระราชทานชื่อเขื่อนพระนามอันเป็นสิริมงคลแก่เขื่อนอเนกประสงค์ในความรับผิดชอบของ กฟผ. ทั้ง 7 เขื่อน เพื่อทำหน้าที่หลักในการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร และผลิตไฟฟ้าเป็นผลพลอยได้จวบจนทุกวันนี้

2. พลังชีวภาพ…พลังแห่งพระปรีชาญาณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระราชดำริให้โครงการส่วนพระองค์ ศึกษาวิจัยการนำพืชมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้คนไทยมีทางเลือกในการใช้พลังงานทดแทนที่สามารถผลิตได้เอง เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตพลังงาน

3. พลังงานทดแทน…พลังแห่งพระอัจฉริยภาพ นำเสนอวิสัยทัศน์ด้านพลังงานทดแทนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงศึกษาทดลองเพื่อหาแหล่งพลังงานจากธรรมชาติมาใช้แทนน้ำมันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการใช้พลังงานทดแทนที่หาได้ในประเทศ ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้น

4. พลังทรัพย์ในดิน...พลังแห่งสายพระเนตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินถึงหน่วยสำรวจน้ำมันฝาง และทอดพระเนตรกิจการของหน่วยสำรวจน้ำมันฝาง ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ระหว่างดำเนินกิจการในระยะเริ่มแรก นำมาสู่การพัฒนาด้านการปิโตรเลียมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา

5. โคก หนอง นา โมเดล นำเสนอแนวคิดการออกแบบพื้นที่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเป็นการทำการเกษตรในพื้นที่จำกัด กักเก็บน้ำไว้ทั้งบนดินและใต้ดิน สร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นอย่างเห็นผล ซึ่ง กฟผ. ได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ เปลี่ยนแนวคิดสู่การทำเกษตรอินทรีย์ไร้สารเคมี และสร้างความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลางด้วย

ขอเชิญชวนประชาชนร่วมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านพลังงานผ่านการจัดแสดงนิทรรศการ พร้อมร่วมลงนามถวายพระพรฯ และเพลิดเพลินไปกับการบรรเลงบทเพลงในพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่จัดขึ้นตลอดทั้ง 3 วัน