ปตท.เชิญชมนิทรรศการ “ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ” รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ณ “วันนวมินทรมหาราช”

เนื่องด้วยในวันที่ 13 ต.ค. ปี 2566 นี้ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเป็น “วันนวมินทรมหาราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถและพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ส่งผลให้ประเทศชาติได้รับคุณประโยชน์หลากหลายด้าน แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้วหลายสิบปีแต่ทุกแนวคิด หรือทุกโครงการยังสร้างคุณค่าและพัฒนาชีวิตให้กับคนไทยมาโดยตลอด

และความต้องการที่จะน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ พร้อมกับแนวคิดความต้องการที่จะสนับสนุนงานศิลปะ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) จึงได้นำผลงานศิลปะจากการประกวด ศิลปกรรม ปตท. ที่ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ได้รับรางวัลมาจัดแสดงนิทรรศการ “ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ”

โดยขอเชิญชวนประชาชนร่วมเข้าชมนิทรรศการระหว่างวันที่ 11 – 31 ต.ค. 2566 โดยจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษทุกสัปดาห์  อาทิ workshop วาดภาพสีน้ำรัชกาลที่ 9 การเพ้นท์ถุงผ้าใส่ยาเพื่อนำไปมอบให้กับผู้ป่วยเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และยังมีการแสดงดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ อีกทั้งทุกท่านสามารถร่วมบอกเล่าแรงบันดาลใจเรื่องราวรัชกาลที่ 9 บนโซเชียลมีเดียเพื่อรับโปสการ์ดศิลปะ Limited Edition จากศิลปินไทยชื่อดัง

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในฐานะเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ “ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติวันนวมินทรมหาราชและงานมอบรางวัลศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 38 พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงานและคณะผู้บริหาร ปตท. ว่า ปี 2566 นี้ นับเป็นปีแรกที่มีการประกาศให้ทุกวันที่ 13 ต.ค.ของทุกปีเป็น “วันนวมินทรมหาราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

โดยเฉพาะเรื่องราวของ “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ซึ่งกระทรวงพลังงาน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริสู่การพัฒนาพลังงานมาจนถึงปัจจุบัน จึงเชื่อมั่นว่า ผู้ที่ได้เข้าชมผลงานในนิทรรศการ “ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ” จะได้ร่วมน้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้รับแรงบันดาลใจผ่านผลงานศิลปะทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกผลงานชิ้นเอกของศิลปินแห่งชาติมาร่วมจัดแสดง ผลงานจากเยาวชนจากโครงการรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนผ่านงานศิลปะ หัวข้อ “Energy For All” กระทรวงพลังงาน และผลงานจากโครงการศิลปกรรม ปตท. ที่ผ่านมา

“ด้วยพระอัจฉริยะภาพทางศิลปกรรมประกอบด้วย จิตรกรรม ประติมากรรม การถ่ายภาพ หัตถกรรม และดนตรี รวมทั้งยังเป็นนักคิดนักพัฒนาจึงทำให้สามารถเป็นไอเดียให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ๆ นำมาต่อยอดเพื่อสะท้อนแนวคิดไปยังงานศิลปะของตนเองได้เต็มที่”

ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า ปตท. จัดให้มีการประกวดศิลปกรรม ปตท. ในปี 2566 นี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 38 ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดปีแรกในปี 2529 โดยจัดประกวดภายในหัวข้อ “ในหลวงของเรา” ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อในหลวงรัชการที่ 9 ซึ่ง

เป็นปีเดียวกับที่คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา “อัครศลิปิน” แด่พระองค์ท่านเพื่อเทิดพระเกียรติในพระปรีชาในศิลปกรรมทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นดนตรี จิตรกรรม ประติมากรรม และงานประพันธ์ ซึ่ง ปตท. มีการดำเนินงานและมีการกำหนดหัวข้อการประกวดเกี่ยวกับรัชกาลที่ 9 อย่างต่อเนื่อง อาทิ เศรษฐกิจแบบพอเพียง, 84 พรรษามหาราชาภูมิพล, พอเพียง เพียงพอชีวิตที่ยั่งยืนบนแผ่นดินไทย, ก้าวตามรอยพระราชา สานต่อที่พ่อทำ, ของขวัญแด่พระราชา, พลังงานกับชีวิตไทย เป็นต้น

ตลอดระยะเวลา 38 ปีของโครงการประกวดศิลปกรรม ปตท. มีเยาวชนหลายคนที่ได้ใช้เวทีนี้เป็นบันไดก้าวแรกไปสู่ความสำเร็จแห่งวิถีของศิลปินอาชีพ เป็นเวทที่จุดประกายให้เยาวชน มีใจรักในการร่วมสร้างสรรคผลงานศิลปะเพื่อร่วมส่งเสริมเส้นทางให้กับศิลปินของประเทศไทย โครงการประกวดศลิปกรรม ปตท. นับเป็นหนึ่งในโครงการที่สนับสนุนงานด้านศิลปกรรมมาอย่างมั่นคงและยาวนานที่สุดในประเทศไทย กว่า 3 ทศวรรษ ระยะเวลา 38 ปี มีศิลปินผู้ส่งประกวดรวมกว่า 29,000 คน ผลงานศิลปกรรมกว่า 35,000 ชิ้น โดยมีผลงาน ที่ได้รับรางวัลกว่า 900 ชิ้น

ปัจจุบันครั้งที่ 38 นี้ ด้วยความมุ่งหวังในการสืบทอดความงามของศิลปะผ่านการประกวด ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power ผ่านทัศนะและการตัดสินจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของวงการศิลปะไทย ทั้งยังได้ร่วมพัฒนาวงการศิลปกรรมร่วมสมัยของประเทศ ด้วยการเผยแพร่ผลงานการประกวดต่อสาธารณชน เพื่อกระตุ้น โน้มน้าวให้เกิดความตระหนัก เข้าใจถึงความสำคัญในการร่วมสืบสาน และจรรโลงสังคมไทยให้มีวัฒนธรรมที่ดีงามยั่งยืน ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ประการหนึ่ง ในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อก้าวเป็นพลังไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณค่าต่อสังคม

จึงได้ดำเนินโครงการประกวดศิลปกรรม ปตท. อีกครั้งซึ่งจะสามารถสะท้อนภาพของสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และบริบทที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น จึงเปรียบเสมือนเป็นจดหมายเหตุของประเทศในรูปแบบของงานศิลปะและส่งเสริมวงการศิลปะร่วมสมัยของไทยอีกด้วย โดยได้รับเสียงตอบรับจากศิลปินมากมาย มีผลงานที่ได้รับรางวัลรวม 24 ผลงาน จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 831 ผลงาน ซึ่งในปีนี้จัดประกวดภายใต้หัวข้อ “จุดประกายความหวัง จุดพลังชีวิต” เป็นการต่อยอดจากโอกาสพิเศษที่ ปตท. ก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 และได้มีการมอบรางวัลให้กับศิลปินผู้ชนะการประกวดศิลปกรรม ปตท. ประจำปี  2566 ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงรุ่นประชาชนทั่วไป

“งานศิลปะของปีนี้มีการจัดแสดงที่หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ซึ่งเป็นหนึ่งพื้นที่ที่ ปตท. ได้เข้าพัฒนาให้เป็นสถานที่ดำเนินงานเพื่อสังคมมาตั้งแต่ปี 2561 โดยจัดให้เป็น PTT Art Gallery พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะสำหรับทุกคน ทั้งงานจากโครงการศิลปกรรม ปตท. ผลงานศิลปินที่มีชื่อเสียง ผลงานจากศิลปินรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา และจัดกิจกรรมเวิร์กชอปด้านศิลปะ รวมถึงยังเปิดดำเนินการ Café Amazon for chance ร้านกาแฟที่เปิดโอกาสให้ผู้บกพร่องทางการได้ยินมีส่วนร่วมในการบริการ โดยอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจงานศิลปะเข้าชมได้โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2566 นี้”