ปชป.คึกทำไวทำได้จริง 'จุรินทร์' ลั่นโกยเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า 'มาร์ค' ช่วยศึกชิงผู้ว่าฯกทม.


'จุรินทร์' เปรียบประชาธิปัตย์เป็นเครื่องบินที่มีเสถียรภาพ ย้อนอดีตมติ 61 ต่อ 16 เสียง พรรคตัดสินใจร่วมรัฐบาล เผยส่ง 'เฉลิมชัย-นิพนธ์' เจรจาขอ 3 กระทรวง ลั่นทำครบ 3 เงื่อนไขและทำต่อไป ประกาศ 'อภิสิทธิ์' ช่วยหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

18 ธ.ค.2564 - เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถ.แจ้งวัฒนะ พรรคประชาธิปัตย์จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ และรักษาการณ์ดูแลภาคใต้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยส.ส. อดีตส.ส. เป็นต้น

จากนั้นเวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ขึ้นเวทีกล่าวกับสมาชิกพรรคว่า ตลอดระยะเวลาร่วมรัฐบาล 2 ปีเศษของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคต้องเผชิญกับความท้าทายหลายเรื่อง ถ้าเปรียบพรรคเป็นเครื่องบิน ก็เหมือนว่าที่ผ่านมาเครื่องบินนี้เปลี่ยนกัปตันคนใหม่ กว่าจะนำเครื่องขึ้นได้ ก็ใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง วันนี้สถานการณ์นิ่งขึ้น เครื่องบินประชาธิปัตย์มีเสถียรภาพมากขึ้น แม้จะมีตกหลุมอากาศบ้างชั่วคราว เชื่อว่าพวกเราได้สัมผัสถึงคำปรามาส เรื่องประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ แม้ยังมีเลือดไหลออกอยู่บ้าง แต่มีเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับทดแทน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์อยู่มาก ที่เห็นเป็นรูปธรรมเลือดใหม่คุณภาพ คือ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือดร.เอ้ ยังไม่นับรวมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) อีก ที่เป็นคนเก่าของพรรค 13 คน ที่เหลือเป็นเลือดใหม่ของพรรค 37 คน และยังไม่นับรวมผู้สมัครส.ส. นอกจากนี้ ยังมีนักวิชาการเลือดใหม่รุ่นใหม่เข้าร่วมอีกด้วย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภายหลังการเลือกตั้งใหญ่ทั่วไป เมื่อปี 62 พรรคกลายเป็นพรรคขนาดกลาง ได้รับเสียงจากประชาชนเหลือเพียง 52 เสียง ในตอนนั้นทำให้พรรคมีทางเลือกเพียง 2 ทาง คือ ฝ่ายค้าน กับฝ่ายรัฐบาล แต่ไม่ว่าจะเลือกทางใด ก็ไม่สามารถทำงานได้เหมือนกับตอนเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ไม่สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล หรือจะเป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แต่สุดท้ายเราก็ต้องตัดสินใจตามวิถีประชาธิปไตยภายในพรรคผลออกมา 61 ต่อ 16 เสียง ให้พรรคเข้าร่วมรัฐบาล

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า เราไม่ได้สักแต่ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อเอาตำแหน่ง ตนได้มอบหมายให้นายนิพนธ์ และนายเฉลิมชัย ไปเจรจา ขอ 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะเราตั้งมั่นเล็งเห็นแล้วว่าได้ 3 กระทรวงนี้ จะมีโอกาสดูแลประชาชนในทุกสาขาอาชีพให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริง ภายใต้วิสัยทัศน์ เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ผู้ด้อยโอกาสต้องได้รับการดูแล นี่คือสาเหตุที่เราเลือก 3 กระทรวงดังกล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล 3 ข้อ ประกอบด้วย ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องดำเนินนโยบายประกันราคา และต้องบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ขณะนี้ไม่มีข้อใดที่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ทำ และไม่มีข้อใดที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไม่ได้ เราทำแล้วครบทุกข้อ

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า มีข่าวสะเทือนใจหลายคน คือ การลดโทษให้กับนักโทษในคดีทุจริตจำนำข้าว เหลือไม่ถึง 10 ปี ได้สร้างกระแสไม่ยอมรับในสังคม ที่การลดโทษเป็นอำนาจของกรมราชฑัณฑ์ ที่มีอธิบดีติดสินใจเพียงคนเดียว และในกฏหมายกรมราชฑัณฑ์ ก็มีช่องโหว่ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงขอเสนอแก้ไขกฏหมายฉบับนี้ เพื่อให้การลดโทษในคดีทุจริต เป็นอำนาจของศาล ไม่ใช่อำนาจของกรมราชฑัณฑ์เพียงอย่างเดียว ถือเป็นการตอกย้ำอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยืดความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ตั้ง

"แม้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคใหญ่ที่สุด แต่เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในพรรค ที่ประชาชนตั้งความหวังไว้มากที่สุด เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของประชาชน ต้องไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังรกิจ 2 ปีเศษที่ผ่านมาต้องพิสูจน์ว่าอะไรที่พรรคพูดกับประชาชน เราทำได้และขึ้นปีที่ 3 เราต้องเดินหน้าต่อไป ทำได้ไว ทำได้จริง และจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไป"

ช่วงท้ายหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนพรรคมาโดยตลอด ตั้งแต่ประชาชน สมาชิกพรรค รวมถึงนายชวน นายบัญญัติ และขอบคุณนายอภิสิทธิ์ ที่มีความตั้งใจจะเข้าไปช่วยรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อนำชัยมาสู่พรรคอีกด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง