วัดใจคณะกรรมการกฤษฎีกา 'กู้มาแจก' ขัดกฎหมายหรือไม่


11 พ.ย.2566 - นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ เฟซบุ๊กหัวข้อ ‘กู้มาแจก’ ขัดกม.หรือไม่? มีรายละเอียดดังนี้

การตราพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านมาแจกคนละหมื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ผมเห็นว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 140 หากพระราชบัญญัตินั้นเป็นไปตามเงื่อนไขพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 53

ประเด็นคือการตรากฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินตามมาตรา 53 ของกฎหมายดังกล่าว ไม่ใช่ทำได้ทุกกรณี แต่มีเงื่อนไขกำกับไว้ให้ทำได้เฉพาะกรณีเท่านั้น

“เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน และอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน”

ขอแตกออกเป็น 4 ประการ

“เร่งด่วน”

“ต่อเนื่อง”

“แก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ”

“ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน”

ต้องบอกด้วยความเคารพว่าแทบจะไม่เข้าสักประการ

หนึ่ง - ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนจริงทำไมไม่ตราเป็นพระราชกำหนดให้มีผลบังคับใช้ทันที การตราเป็นพระราชบัญญัติต้องผ่าน 2 สภา สภาละ 3 วาระ และอาจมีขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญอีก

สอง – โครงการนี้ไม่ได้ต้องการใช้เงินต่อเนื่อง แต่ใช้ครั้งเดียวทั้ง 5 แสนล้านบาทแจกเข้าบัญชีประชาชน 50 ล้านคน

สาม - วันนี้ประเทศไม่ได้ประสบปัญหาวิกฤต อย่างน้อยหากเปรียบเทียบกับยุคโควิด 19

สี่ - ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเลย โดยเงื่อนเวลาสามารถปรับยอดการใช้จ่ายโครงการนี้เข้าไปได้ ซึ่งก็จะตรงกับที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการนี้ไว้กับกกต. เมื่อปลายเดือนเมษายน 2566

ทั้ง 4 ประการนี้มีเพียงประการที่ 3 ว่าด้วย “วิกฤต” เท่านั้นที่พอเถียงกันได้ โดยรัฐบาลอาจมองได้ว่าการที่ GDP ของประเทศโตในระดับต่ำถือเป็นวิกฤตที่จะต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน

ถามว่าใน 4 ประการนี้มีประการไหนสำคัญสุดหรือไม่

น่าจะเป็นประการที่ 4

เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายมาตรานี้มีขึ้นเพื่อป้องกันการออกกฎหมายพิเศษกู้เงินและใช้เงินกู้นั้นไปนอกงบประมาณแผ่นดินทันทีโดยปราศจากเงื่อนไข จึงเพิ่มเงื่อนไขไว้ 4 ประการด้วยกัน โดยประการสุดท้ายที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้กำหนดว่าต้องอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่อาจตั้งงบประมาณการใช้จ่ายไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้การใช้จ่ายเงินแผ่นดินอยู่ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังคาอยู่ ปรับแก้ได้ทัน จะมาออกพระราชบัญญัติกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท ดูอย่างเอาใจช่วยอย่างไรก็ไม่น่าชอบด้วยมาตรา 53

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นเบื้องต้นโดยสุจริตของคน ๆ หนึ่งที่อยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติมาหลายปี ผ่านการถกเถียงประเด็นการออกกฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินนอกงบประมาณมาพอสมควร ทั้งในช่วงปี 2552 และ 2554 - 2556 และเคยเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐเมื่อปี 2560 ในฐานะผู้แทนของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย โดยเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่สงวนความเห็นในมาตรา 53 ไว้

ถูกผิดประการใดโปรดพิจารณา

จากนี้ไปก็รอความเห็นอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการกฤษฎีกา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เห็นทีจะลำบาก! อดีตบิ๊กเพื่อไทย ซัดนโยบายรัฐบาล ยังไม่เห็นมีอะไรทำบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า

นโยบายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผ่านเฟซบุ๊กว่าติดตามนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ยังไม่เห็นมีอะไรที่จะทำให้บ้าน

'เผ่าภูมิ' เผย 'แจกเงินหมื่น' เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ ยังไม่เข้า ครม.

นายเผ่าภูมิ​ โร​จน​สกุล​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวงการคลัง​ กล่าวภายหลังประชุมครม.ว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้มีการนำเรื่อง การแจกเงิน​ 10,000 บาท​ กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุเข้าสู่ที่ประชุม​ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องรายละเอียดการดำเนินการ​

รัฐบาล ยกโพลสนง.สถิติแห่งชาติ ชี้ประชาชนร้อยละ 87 พอใจ 'แจกเงินหมื่น'

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 4 – 22 พ.ย.67 ดังนี้ 1.การสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2568

'เผ่าภูมิ' ชง 'ครม.' เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ วงเงิน 3 หมื่นล้าน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเสนอคณะรัฐมนตรีวันนี้ จะมีการเสนอให้พิจารณ

นักการเมืองไทยอย่าทะลึ่ง! ยก 4 เคส บัวแก้วเคยประท้วงกัมพูชา อ้างสิทธิ 'เกาะกูด'

นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คนกัมพูชาจำนวนไม่น้อยเคยเชื่อหรือยังเชื่อว่าเกาะกูดเป็นของเขา ไม่ทั้งหมดก็อย่างน้อยกึ่งหนึ่ง!