'โรม' เชื่อ 'เศรษฐา' หลุดแฉตัวเองปมตั๋วผู้กำกับ

'โรม' จี้ 'เศรษฐา' ต้องรับผิดชอบคำพูด ปม สส.เพื่อไทยขอฝากผู้กำกับ เชื่อ รู้เห็น-สส.เกี่ยวข้อง จ่อเอาผิด จริยธรรม-กฎหมายตำรวจ-รธน.มาตรา 185

22 พ.ย. 2566 - นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ในการขอตำแหน่งผู้กำกับเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ว่า ชัดเจนในเรื่องตั๋วยังมีอยู่และเรื่องนี้มีปัญหาจริง ปกติตั๋วจะไม่มีใบเสร็จหรือหลักฐานที่เป็นเอกสารราชการในการยืนยันสิ่งเหล่านี้ เพราะส่วนมากจะเป็นเป็นการโทรฝากกัน แต่คนที่เป็นระดับนายกฯ พูดในที่ประชุม สส. ไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้ว่ามี สส.ของพรรคเพื่อไทยมาขอนายเศรษฐา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน และไม่ใช่ผิดกฎหมายอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนถึงระบบอุปถัมภ์ที่อยู่ภายใต้รัฐบาลนายเศรษฐา ตอนหาเสียงประกาศว่าจะไม่ยอมรับ รวมถึงจัดการระบบเส้นสาย แต่กลับพูดออกมาได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ว่ามีผู้กำกับบางคนที่ผิดหวัง บางคนก็สมหวัง ซึ่งฟังได้ว่ามี สส.ฝากมา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายของตำรวจชั้นผู้น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหากไม่มีเส้นสาย ก็จะไม่สามารถเติบโตได้ ซึ่งกังวลว่า ในประเด็นดังกล่าวอาจจะขยายผลไปถึงการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการในระดับอื่นๆ ด้วย

“จากการฟังคำพูดของนายกฯ ฟังเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นคำสัญญาที่นายตำรวจพูดกับผมตอนที่ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งยืนยันว่าว่าไม่มีตั๋ว แต่สิ่งที่นายกฯ พูดนั้นชัดเจน ไม่ต้องบิดเป็นคำพูดอื่น เพราะชัดเจนว่านายเศรษฐา เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายจริง บางคนอาจถามว่า มีหลักฐานเพื่อเอาผิดนายกฯ ผมขอบอกว่าการฝากแต่งตั้งนายตำรวจไม่สามารถหาเอกสารทางราชการได้ เพราะใช้การสนทนาทางโทรศัพท์ต่อสายเพื่อฝากได้ ดังนั้น คำพูดของนายกฯ ที่ผมเชื่อว่าเป็นการแฉตัวเอง หรือการหลุด ชัดเจนว่าจะฟังได้ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นในขณะนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่าการพูดของนายกฯไม่ได้มีเจตนา แต่พูดดักทางไว้ก่อน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่มองเช่นนั้น เพราะท่าทีของนายกฯ ไม่ต้องการห้ามปราบ และจากที่ฟังคำพูดของนายกฯ หลายรอบ ว่ามีการขอมาเยอะ ชัดเจนอย่างยิ่ง ว่าคือการขอมาโดย สส.เพื่อไทย เพราะพูดต่อที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าต้องมีตั๋วเพื่อไทยหรือไม่ เพื่อได้เป็นตำรวจในระดับที่สูงขึ้น ได้ตำแหน่งการงานที่ดีขึ้น

“ผมฟังคำชี้แจงของนายกฯ ที่อธิบายในวันที่ 22 พ.ย. แล้ว แต่ไม่ได้ตอบตรงประเด็น และผมฟังแล้วเหมือนกับเป็นนายกฯ คนละคน เพราะหักล้างในสิ่งที่พูดไว้เมื่อ 21 พ.ย. ทั้งนี้ความจริงของนายกฯ ชัดเจนว่ามีเรื่องตั๋วจริงและนายกฯ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อีกทั้งผมมองว่าสิ่งที่นายกฯ พูดนั้นทำลายศรัทธาของระบบราชการ และไม่คิดว่าจะเป็นการพูดที่ปกติหรือเป็นธรรมชาติ” นายรังสิมันต์ กล่าว

ถามว่าจะมีการตรวจสอบเพื่อยื่นเอาผิดทางกฎหมายใดหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงประกอบด้วย เบื้องต้นพบว่าคำพูดของนายกฯ นั้นเข้าข่ายผิดจริยธรรม, พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ และรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ซึ่งขณะนี้พยายามรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยมีผู้เชี่ยวชาญทุกส่วนช่วยตรวจสอบและพยายามให้สายลับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำข้อมูลความจริงเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ คนเดียว เพราะนายกฯพูดเองว่าขอเยอะ ดังนั้นตามกระบวนการเชื่อว่ามี สส.เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดีกรณีดังกล่าวยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนำไปสู่ประเด็นที่จะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการการตำรวจ ของสภาฯ จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจะร่วมเข้าไปตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ย. เพราะการตรวจสอบใดๆต้องเป็นเรื่องที่กมธ.ต้องพิจารณาร่วมกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเตรียมส่งสภาฯ ถกงบฯ 68 ต้น มิ.ย. สมัยวิสามัญ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รัฐบาลมีความพร้อมใช่หรือไม่ ว่า

นายกฯรับไม่ทราบขั้นตอน 'กฤษฎีกา' ให้ศาลรธน.ชี้ขาดคุนสมบัติ 'พิชิต' ยันทุกอย่างเป็นไปตามกม.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมกิจกรรม "10 เดือนที่ไม่ต้องรอ ทำต่อให้เต็ม 10" ซึ่งจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย

'เศรษฐา' จ่อจัดรายการ 'นายกฯพบประชาชน' อยากสื่อสารกับปชช.สม่ำเสมอ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมจัดรายการนายกฯพบประชาชน ว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะใช้ชื่อรายการว่าอะไร

นายกฯซวยแล้ว! ภาคปชช.อ้างคำวินิจฉัยกฤษฎีกาคุณสมบัติ 'ทนายถุงขนม' ยื่นป.ป.ช.เอาผิด

สืบเนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี เฉพาะตามมาตรา 160(6) ประกอบกับมาตรา 98 (7) และมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญ

'ก้าวไกล' รุมจวก 'เศรษฐา' เก่งแต่ใช้ปากต่อว่าคนอื่นแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง

'ชุติพงษ์' ฟาด 'เศรษฐา' แก้ปัญหาสารเคมี ถ้าใช้ปากทำงานมาเป็นฝ่ายค้านดีกว่า ไม่ต้องเป็นรัฐบาล ชี้มีอำนาจแต่สั่งการไม่ได้ผลสักอย่าง 'ทวิวงศ์' เผยเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่อยุธยา