แก๊งยาเสพติดหนาว! นายกฯ ตั้งเป้ายึดทรัพย์จากเครือข่าย 1 หมื่นล้านในปีหน้า แบ่งให้ผู้แจ้งเบาะแส 500 ล้าน

ในปีงบประมาณ 2565 รัฐบาล โดยกระทรวงยุติธรรมคาดการณ์เป้าหมายทรัพย์จากเครือข่ายค้ายาเสพติดที่จะถูกยึดมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยจะนำมาเป็นเงินสินบนต่อผู้แจ้งเบาะแส 5% หรือ 500 ล้านบาท สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติติงานจะได้รับเงินรางวัล 25% หรือ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย

21 ธ.ค.2564- นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งมั่นอยากให้ยาเสพติดลดน้อยหมดไปจากประเทศ ผลักดันกระทรวงยุติธรรมแก้ปัญหายาเสพติดเชิงรุก บูรณาการการทำงาน มุ่งตัดวงจรการลักลอบค้ายาเสพติด โดย ได้มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับปรุงกฎหมายยาเสพติดรวม 24 ฉบับ ให้เป็นฉบับเดียว มุ่งเน้นการจับและขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์และดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.มาตรการสมคบ กฎหมายฟอกเงิน และกฎหมายรัษฎากร เป็นหลัก แทนแนวทางเดิมที่เน้นการปราบปรามและการจับกุมเพียงอย่างเดียว โดยเชื่อว่า จะนำไปสู่การป้องกัน ปราบปรามยาเสพติดอย่างเป็นระบบ มุ่งทำลายโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติด รวมถึงการวางกรอบลงโทษผู้กระทำความผิดที่เหมาะสมและยุติธรรม

โฆษกรัฐบาลกล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงประมวลยาเสพติดฉบับใหม่ เป็นการปรับกรอบแนวคิดและสร้างการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม อาทิ การริบทรัพย์สินไม่ผูกพันกับผลของคดีอาญา การริบทรัพย์สินตามมูลค่า การให้เครื่องมือทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินในกรณีเร่งด่วน ก่อนมีคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สิน ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้ ทำให้การดำเนินการริบทรัพย์สินทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมและสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังป้องกันกันยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน

ในปีงบประมาณ 2565 รัฐบาล โดยกระทรวงยุติธรรมคาดการณ์เป้าหมายทรัพย์จากเครือข่ายค้ายาเสพติดที่จะถูกยึดมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยจะนำมาเป็นเงินสินบนต่อผู้แจ้งเบาะแส 5% หรือ 500 ล้านบาท สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติติงานจะได้รับเงินรางวัล 25% หรือ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย

“นายกฯ เน้นย้ำและมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหายาเสพติด เน้นบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ขณะเดียวกันก็เร่งทำงานคู่ขนาน ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ทั้งผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั่วไปด้วย ในดำเนินมาตรการภายใต้กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นั้น โดยมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์สูงสุด คือ การแก้ปัญหายาเสพติดที่มีมายาวนานและเรื้อรังในประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' สั่ง 'ชลน่าน' แล้วให้จับตาโรคแอนแทรกซ์อย่างใกล้ชิด

นายกฯ สั่งการติดตามสถานการณ์เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ ดูแลประชาชน ย้ำหากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่

กลัวอายเพื่อนบ้าน! ชัยบอกสาเหตุต้องดันแจกเงินดิจิทัลฯ

นายกฯ เน้นย้ำแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พิจารณาแนวโน้มการเติบโต ยันไทยต้องฟื้นตัวไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้าน ชี้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นหนึ่งในมาตรการเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบ

รัฐบาลฟุ้งสิ้นปีไทยอาจส่งออกข้าว 8 ล้านตัน!

โฆษกรัฐบาลเผยข้าวไทยตีตลาดต่างประเทศทะลุเป้าไตรมาสแรก 2567 ส่งออกแล้ว 2.5 ล้านตัน เชื่อมั่นนายกฯ จะผลักดันให้เกษตรกรไทยทุกสาขามีรายได้ที่ดีขึ้น

'ธนกร' หนุนสภาดัน 'ร่างสถานบันเทิงครบวงจร -ร่างกาสิโนถูกกม.' เก็บภาษีเข้ารัฐ

“ธนกร” หนุนสภาดัน “ร่างสถานบันเทิงครบวงจร -ร่างกาสิโนถูกกม.“ ให้แล้วเสร็จ จัดระเบียบใหม่-เก็บภาษี นำรายได้เข้ารัฐบริหารปท. ขอบคุณมท.1 เร่งล้างบางปราบบ่อนเถื่อนไม่ไว้หน้า หลังลุยเองคุมนักพนันกว่า 300 คนคาบ่อนยักษ์ย่านบางใหญ่ ชี้ โยงถึงใครว่าไปตามกม.

'ชัย' สบช่อง! อวยผลสำเร็จรัฐบาลทำไทยรั้งอันดับ 2 ประเทศกำลังพัฒนาที่น่าลงทุน

โฆษกรัฐบาล เผยไทยอันดับ 2 กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียที่น่าลงทุนที่สุดจากสถาบัน Milken เชื่อมั่นผลการทำงานรัฐบาลเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม พร้อมผลักดันให้ไทยอยู่ในเรดาร์น่าลงทุนในโลก