'หมอวรงค์' เปิดเอกสารลับ 'นักโทษชั้น 14'

8 เม.ย. 2567 – นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เปิดเอกสารลับนักโทษชั้น 14

นี่คือรายงานลับที่ผมสรุปมา เกี่ยวกับปัญหาของนักโทษชั้น 14 ที่พวกเราได้ร้องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน และทางผู้ตรวจการฯ ได้แสวงหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานต่างๆ

1.การส่งตัวนายทักษิณ ผู้ต้องขัง ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และการปกปิดข้อมูลทางการแพทย์ และขั้นตอนการดำเนินการ ไม่โปร่งใส เลือกปฏิบัติเฉพาะราย เป็นการไม่บังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด

กรมราชทัณฑ์ชี้แจงสรุปได้ว่า

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ประสานทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้จัดส่งแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อมาตรวจร่างกาย นายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ ร่วมกับพยาบาลของเรือนจำตามระเบียบ

ส่วนการอนุญาตให้ไปรักษานอกเรือนจำ

หลังจากทำทะเบียนประวัติ ตรวจร่างกายแล้ว พบว่าผู้ต้องขัง มีอายุ 74 ปี มีโรคประจำตัวหลายโรค ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษา และติดตามอาการ โดยแพทย์ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ผู้ทำการตรวจ ได้มีความเห็น ให้ทางเรือนจำตรวจติดตาม เฝ้าระวังผู้ต้องขัง ทุก 3 – 4 ชั่งโมง เพื่อประเมินอาการ ต่อมาพยาบาลเรือนจำ ได้ตรวจติดตามเฝ้าระวังผู้ต้องขัง ตามระยะเวลาที่แพทย์สั่งเรื่อยมา

เมื่อเวลาดึก คืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ระหว่างตรวจติดตาม เฝ้าระวังผู้ต้องขัง ประกอบการพิจารณาประวัติ การรักษาของผู้ต้องขัง จากโรงพยาบาลต่างประเทศ และพิจารณาความพร้อมในการรักษา โรคเฉพาะทางของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงได้มีความเห็นว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งมีผลต่อชีวิตผู้ต้องขัง เห็นควรให้ส่งตัวผู้ต้องขัง ไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีความพร้อมด้านเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อรักษาชีวิตของผู้ต้องขัง และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับตัวผู้ต้องขังไว้เป็นผู้ป่วยในความดูแล เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2566 อาศัยอำนาจตามข้อ 2 ของกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563

คำถามที่ต้องถาม จะพบว่าการส่งตัวของกรมราชทัณฑ์จากข้อเท็จจริง เหตุผลนี้มาจาก “เพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งมีผลต่อชีวิตผู้ต้องขัง” แสดงว่าเป็นการส่งตัวผู้ต้องขังไป ร.พ.ตำรวจ “เพื่อป้องกันความเสี่ยง” ไม่ใช่เป็นการเจ็บป่วยจริง ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อ 2 ของกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ

2.กรณีรับตัวผู้ต้องขังเข้าพักรักษาตัว ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลตำรวจ แยกจากผู้ป่วยทั่วไป

โรงพยาบาลตำรวจชี้แจงสรุปได้ว่า

โรงพยาบาลตำรวจได้รับข้อมูลมาว่า ผู้ต้องขังรายนี้ มีอาการวิกฤตฉุกเฉิน เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ซึ่งควรได้รับการรักษาใน ICU (จะพบว่าข้อมูลนี้ขัดแย้งกับ ข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ที่รายงานว่า ส่งมาเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งแสดงว่ายังไม่ได้ป่วยจริง แต่มาถึงโรงพยาบาลตำรวจกลับอ้างข้อมูลว่าผู้ต้องขัง มีอาการวิกฤติฉุกเฉิน)

พบว่าห้อง ICU และห้องสามัญเต็มตลอด ห้องพิเศษจะหาได้ง่ายกว่า ถ้าไปรักษา ward สามัญ ก็ต้องให้คนไข้ปกติย้ายออก ซึ่งจะไปกระทบสิทธิ์ผู้ป่วยรายอื่น

ทั้งนี้ห้องผู้ป่วยพิเศษแบบชั้น 14 นี้ รองรับผู้ป่วยทั่วไปทุกระดับชั้น ปัจจุบันชั้นนี้ ยังมีผู้ป่วยภายนอก เข้ามาพักรักษาตัวตามปกติ ไม่ได้มีการปิดกั้นเฉพาะชั้นแต่อย่างใด (เป็นการไม่ปฏิบัติตามกฏกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ข้อ 4 (2) ที่ห้ามผู้ต้องขังพักห้องพิเศษ ที่สำคัญ ในระยะเวลา 180 วัน จะไม่มีเตียงสามัญ หรือไอซียู ว่างเลยหรือ ที่จะต้องย้ายผู้ต้องขังลงไป เพื่อให้เป็นไปตามกฏกระทรวง)

ชั้น 14 แบ่งเป็นซ้ายขวา บริเวณฝั่งปีกขวา เป็นห้องพักฟื้นผู้ป่วยโควิด ปัจจุบันยังไม่เปิดใช้งาน เนื่องจากมีน้ำรั่ว ฝั่งซ้ายเป็นห้องพักฟื้นผู้ป่วย โดยมีประตูกั้นการเข้าออกพื้นที่ กั้นเป็นเขตหวงห้าม มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ปทุมวัน 2 นาย มีการจัดโต๊ะควบคุมพื้นที่เข้าออกดังกล่าว

ต้องรายงานผู้บังคับบัญชา ทุก 2 ชม. โดยการถ่ายภาพห้องที่ผู้ป่วยพัก ส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์ (การกั้นเป็นเขตหวงห้ามก็ย้อนแย้งกับรายงานที่แจ้งว่า มีผู้ป่วยภายนอกเข้าพักในชั้นนี้)

กล้องวงจรปิดได้รับการชี้แจงว่า ชั้นนี้เสีย และกล้องวงจรปิดเสียทั้งอาคาร เนื่องจากงบประมาณได้รับไม่เพียงพอ (ปกติทุกโรงพยาบาลจะมีเงินบำรุง ที่ผู้อำนวยการสามารถใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมได้ มีเจตนาพิเศษแอบแฝงหรือไม่ ที่ไม่มีการซ่อมแซม)

ประเด็นเรื่องห้องวีไอพี จากการแสวงหาข้อเท็จจริง พบว่า ป้ายหน้าลิฟท์ชั้น 14 ปรากฏข้อความสั้นๆ เพียงว่า หอผู้ป่วยพิเศษเท่านั้น (ก็เป็นการยืนยันว่า ผู้ต้องขังพักที่ห้องพิเศษจริง ซึ่งขัดกับกฏกระทรวง ที่ห้ามพักห้องพิเศษ)

เคยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตอบกระทู้ในสภา เรื่องการที่ผู้คุมขังไปพักห้องพิเศษชั้น 14 เพราะเกรงความปลอดภัย โดยอ้างคาร์บอมบ์ในอดีตร่วม 20 ปีที่แล้ว แต่กฏกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ข้อ 7 วรรคท้าย ถ้ามีเรื่องความปลอดภัยของผู้ต้องขังให้ย้ายกลับโรงพยาบาลสังกัดราชทัณฑ์หรือสถานพยาบาลอื่น ไม่มีสิทธิ์อยู่ห้องพิเศษ

3.ผู้ต้องขังยังไว้ผมยาว

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครชี้แจงสรุปว่า

ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการตัดผมผู้ต้องขัง พ.ศ. 2565 ความในหมวดที่ 1 การตัดผมและการย้อมผม ข้อ 6 ได้กำหนดว่า เมื่อผู้ต้องขังเข้ามาในเรือนจำ จัดให้มีการตัดผมหรือไว้ผม ให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รับตัว โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะจัดให้ผู้ต้องขังใหม่ ตัดผมในเวลาที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่รับตัว

ต่อมา ผู้ต้องขัง ไปรักษาอาการป่วยยังโรงพยาบาลตำรวจ ตามความเห็นของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 ด้วยเหตุนี้ จึงยังไม่ได้ตัดผม หากโรงพยาบาลตำรวจอนุญาตให้รับตัวกลับมาคุมขังยังเรือนจำเมื่อใด ทางเรือนจำจะดำเนินการตามระเบียบต่อไป (แม้ผู้ต้องขังจะอยู่โรงพยาบาล ยังถือเป็นผู้ต้องขัง ยังไม่พ้นจากการคุมขัง ตามพรบ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 วรรคท้าย กฏระเบียบต่างๆ ต้องมีผลบังคับ รวมทั้งการตัดผมด้วย)

4.แพทยสภาชี้แจงว่า

แพทยสภาเคยได้รับเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ปฏิบัติตัวกับผู้ต้องขัง ในลักษณะเอื้อประโยชน์ เลือกปฎิบัติ ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนจริยธรรม อยู่ระหว่างการ พิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

รายงานของแพทยสภา โดยเฉพาะการลงความเห็นในใบรับรองแพทย์ ในช่วงเวลาต่างๆ จะมีความสำคัญมากกว่าการส่งตัวไป รพ.ตำรวจ รวมทั้งการให้พักที่ รพ.ตำรวจ ต่อเนื่องในช่วงเวลา 30 วัน 60 วัน และ 120 วัน ว่าเป็นความรับผิดชอบของใคร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' ปัดปฏิญญาเขาใหญ่ บอกได้พบปะกินข้าวกันก็จะสามัคคีมากขึ้น ไม่มีเรื่องเข้าใจผิด

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์สื่อกรณีหลังจากวันที่ 22 ส.ค.หากพ้นมลทินแล้ว จะวางบทบาทตัวเองอย่างไรว่า ไม่มีอะไร ตนห่วงบ้านเมือง คนเคยเป็นอดีตนายกฯ มา

'ทักษิณ' เมิน 'เฉลิม' ท้าดีเบต บอกสงสารเขาอายุเยอะแล้ว อย่าไปพูดถึงเลย

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงข่าวโดยท้าดีเบตด้วย ได้ติดตามหรือไม่ ว่า "อย่าไปพูดถึงเขาเลย

'ทักษิณ' เปิดใจมีความสุขมาก จัดงานวันเกิดในไทยครั้งแรกในช่วงเวลา 17 ปี

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเปิดใจการจัดงานวันเกิดในประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 17 ปี ว่า ทุกคนอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุขเท่าอยู่บ้าน อยู่บ้านมีครอบครัว มี

'ทักษิณ' เป่าเค้กวันเกิด บอกคนที่มาวันนี้ไม่เคยทอดทิ้งกัน ปัญหาบ้านเมืองต้องให้เพื่อไทยแก้ไข

นายทักษิณ​ ได้เป่าเค้กวันเกิดพร้อมกับคนในครอบครัว​และบรรดารัฐมนตรี​ รวมถึงผู้ร่วมงาน​อย่างชื่นมื่น โดยในเวลาดังกล่าว ​นางมนพร​ เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่ได้ร่วมติดตามนายเศรษฐา​

เสื้อแดงอีสานพรึ่บ! ทำบุญ 75 ปี นายกฯ ในดวงใจ จุดบั้งไฟ 90 นัด เสริมมงคล

'เสื้อแดงอีสาน' พร้อมใจทำบุญครบ 75 ปี 'ทักษิณ' พร้อมจุดบั้งไฟถวายองค์พระธาตุขามแก่น 90 นัด เสริมสิริมงคลให้กับครอบครัวชินวัตร และพรรคเพื่อไทย

'เซลล์แมนสแตนด์ชิน' ภารกิจเต็มวัน ไม่ได้เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ยกหูเบิร์ดเดย์ 'ทักษิณ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงวันคล้ายวันเกิดครบ 75 ปี ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี