เสื้อแดงอีสานพรึ่บ! ทำบุญ 75 ปี นายกฯ ในดวงใจ จุดบั้งไฟ 90 นัด เสริมมงคล

‘เสื้อแดงอีสาน’ พร้อมใจทำบุญครบ 75 ปี ‘ทักษิณ’ พร้อมจุดบั้งไฟถวายองค์พระธาตุขามแก่น 90 นัด เสริมสิริมงคลให้กับครอบครัวชินวัตร และพรรคเพื่อไทย

26 ก.ค. 2567 – เมื่อเวลา 11.30 น. ที่วัดเจติยภูมิ (วัดพระธาตุขามแก่น) อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผศ.ดร.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดง และแนวร่วม นปช.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายวิฑิต ทองโสภิต อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ นายนพพร ปิติสุวรรณรัตน์ ส.อบจ.อ.น้ำพอง เขต 2 นำแกนนำคนเสื้อในหลายจังหวัดของภาคอีสานร่วมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยการถวายจัตตุปัจจัยไทยทาน ถวายภัตราหารเพล ถวายน้ำดื่ม และถวายบั้งไฟ 90 นัด แด่พระครูสุตธรรมภาณี, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดเจติยภูมิ โดยมีการนำภาพของนายทักษิณ นายกฯ ในดวงใจ มาวางไว้ในพื้นที่สำหรับการประกอบพิธีสงฆ์ดังกล่าวด้วย

ซึ่งหลังจากการถวายภัตราหารเพลและประกอบพิธีทางสงฆ์แล้วเสร็จ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้พร้อมใจกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ และอวยพรให้นายทักษิณ มีความสุข อายุยืนนาน เป็นกำลังหลักในการทวงคืนประชาธิปไตยและแก้ไขปัญหาประเทศ โดยเฉพาะภาพรวมทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ก่อนที่คนเสื้อแดงนำบั้งไฟที่ถวายแด่พระสงฆ์แล้วนำมาจุดบูชาองค์พระธาตุขามแก่น ตามความเชื่อของคนในชุมชน ที่จะสื่อถึงความรุ่งโรจน์ ความโชติช่วงชัชวาลย์ พ้นบ่วงและเคราะห์กรรมต่างๆที่เกิดขึ้นจนนำมาสู่ความผาสุขและงดงามดังเช่นองค์พระธาตุที่แก่นไม้ที่ได้งอกเงยกลับมาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรและเป็นที่ศรัทธาของประชาชน

ผศ.ดร.พรรณวดี กล่าวว่า นอกจากแกนนำคนเสื้อแดงและคนที่รักในตัวอดีตนายกทักษิณ จะมาร่วมกันทำบุญและทำกิจกรรมให้กับนายกรัฐมนตรีในดวงใจที่วัดพระธาตุขามแก่นแห่งนี้แล้วนั้น ยังคงมีกิจกรรมร่วมกันในอีกหลายจังหวัดทั้งที่มุกดาหาร, อุบลราชธานี, อุดรธานี, ชัยภุมิ และนครราชสีมา และในทุกจังหวัด ทั้งการทำบุญในช่วงเช้า หรือแม้กระทั่งการร่วมสังสรรค์และรับประทานอาหารร่วมกันของคนที่มีใจเดียวกันที่รักและเคารพในตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะนัดมาพบปะพูดคุยสังสรรค์กันในช่วงค่ำของวันนี้ ซึ่งนอกจากการร่วมถวายจัตุปัจจัยไทยทาน น้ำดื่มและถวายภัตราหารเพลแล้วยังคงมีการถวายบั้งไฟเล็กเพื่อเป็นพุทธบูชาตามความเชื่อของคนในชุมชนซึ่งใจจริงอยากจุดเป็นร้อยนัด แต่ 90 นัด ก็สมมาพาควรและเหมาะสมแล้ว

“เราทุกคนรักและเคารพในอดีตนายกรัฐมนตรี ครอบครัวชินวัตรและการทำงานของพรรคเพื่อไทยเพราะหัวใจคือประชาชนคิดใหญ่และทำใหญ่ แม้จะมีการวิจารณ์ในบางเรื่องแต่ถ้าดูในภาพรวมและเจตนาในการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลแล้วนั้นทุกคนและทุกพรรคทำงานเต็มที่ เพราะภาคประชาชนนั้นให้กำลังใจและติดตามการทำงานของพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.พื้นที่มาตลอด ดังนั้นวันนี้นายกรัฐมนตรีในดวงใจอายุ ครบ 75 ปี ทุกคนจึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมส่งความสุข ส่งความปราถนาดี และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และร่วมยินดีที่จะได้คนเก่ง คนดี คนที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง กลับมาทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่อีกครั้ง” ผศ.ดร.พรรณวดี ระบุ

ขณะที่ พระครูสุตธรรมภาณี ผศ. เจ้าอาวาสวัดเจติยภูมิ กล่าวว่า แม้ทุกคนจะอยู่ต่างพื้นที่ ต่างภูมิภาค หรือคิดต่างกัน แต่มีใจตรงกัน มีหัวใจเดียวกันจะทำบุญที่ใดก็ทำได้ วันนี้ทุกคนมารวมตัวกันทำบุญและส่งผลบุญให้กับคนที่ตนเองรัก ถือเป็นสิ่งที่ดีดังนั้นจึงขออวยพรให้เสื้อตัวที่ 5 ได้กลับประเทศไทยและขอให้เงินดิจิตอลตามที่รัฐบาลประกาศไว้นั้นประสบผลสำเร็จในเดือน ส.ค. เพื่อให้ภาพรวมเศนรษฐกิจนั้นดีขึ้น จากการจับจ่ายใช้สอยตามนโยบายที่กำหนดไว้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา

"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"

รัฐบาลลุยขายฝันหนีบ่วงการเมือง แกนนำม็อบขยับจัดทัพเดินหน้าไล่

การแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือนของ อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่สตูดิโอ 4 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)

'อนุทิน' ยันไม่ใส่ใจคำพูด 'ทักษิณ' โชว์ห้าวตะเพิดพรรคร่วมฯ ขอฟังแค่นายกฯอิ๊งค์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการข่าวเที่ยง ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อ

'ทักษิณ' ลั่นมีแต่ควายเท่านั้น ยกประเทศให้เพื่อนบ้าน บอกกัมพูชาลากเส้นไม่ถูก

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะวิทยากรพิเศษ บรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัว โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนไม่ได้ครอบงำนายกรัฐมนตรี