เอาตาย! ธีรยุทธเตรียมยื่น ป.ป.ช.ฟัน 44 อดีต สส.ก้าวไกลชงแก้มาตรา 112

รุกฆาต เร่ง ป.ป.ช.ฟาดดาบสองฟันก้าวไกล ส่งศาลฎีกา เอาผิด 44 สส.ส้มเสนอแก้ 112 'ศิริกัญญา'เต็งหนึ่งหัวหน้าพรรคใหม่-แคนดิเดตนายกฯ อาจไปไม่ถึงดวงดาว

08 ส.ค.2567 - นายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ทนายความอิสระในฐานะผู้ร้องคดีล้มล้างการปกครองฯ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ที่ทำให้เกิดคดียุบพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า หลังจากนี้ตนเองและทีมงานจะมีการแกะเทปคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคก้าวไกลโดยละเอียด เพื่อที่ในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นเอกสารการแกะเทปคำวินิจฉัยกลางดังกล่าว ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ในช่วงที่กำลังรอคำวินิจฉัยที่จะเผยแพร่อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนเอาผิดอดีต สส.ก้าวไกล 44 คนสมัยที่ผ่านมาที่ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 เข้าสภา หลังจากเคยไปยื่นคำร้องไว้ที่ ป.ป.ช.เมื่อเดือน ก.พ. เพื่อให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนเอาผิดข้อหาฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมฯ แต่คดียังไม่คืบหน้า

นายธีรยุทธกล่าวว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคก้าวไกล จะพบได้ว่ามีการอ้างอิงถึงกรณีสส.ก้าวไกล 44 คนร่วมกันเสนอแก้มาตรา 112 โดยอิงคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองฯ ที่หลักฐานจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 2 คดี บ่งชี้ว่า สส.ก้าวไกลที่ร่วมกันเสนอแก้มาตรา 112 ดังกล่าว เป็นพฤติการณ์เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันฯ เป็นการลดทอนคุณค่าฯ แม้ว่าร่างดังกล่าวจะไม่ได้ถูกเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรจนศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าถือเป็นความปราณี จึงได้ลงโทษตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ซึ่งหากเสนอเข้าสภา โทษอาจหนักกว่า 10 ก็ได้

“เท่ากับว่าตอนนี้มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถึง 2 คดี คือคดีล้มล้างการปกครอง และคดียุบพรรคก้าวไกล ที่เป็นหลักฐานสำคัญอันควรเชื่อได้ว่า การเสนอแก้มาตรา 112 ดังกล่าวของ สส.ก้าวไกลสมัยที่แล้ว แม้ร่างนั้น จะไม่ได้ถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภา แต่ก็แสดงให้เห็นถึงเจตนาและพฤติการณ์ว่าเซาะกร่อนบ่อนทำลายฯ และมีการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองฯ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรธน.มีผลผูกพันกับทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหาก ป.ป.ช.ชี้มูลทั้ง 44 คน ก็จะต้องส่งคำร้องไปยังศาลฎีกา”นายธีรยุทธระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายธีรยุทธไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ไว้แล้วตั้งแต่เดือน ก.พ. แต่ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ขยับอะไรเพราะต้องการรอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคก้าวไกลออกมาก่อน โดย สส.ก้าวไกล 44 คนสมัยที่ผ่านมา ประกอบด้วย (สถานะ สส.ตอนหลังเลือกตั้งปี 2562) 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 2.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
4.น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี 5.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 6.นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 7.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 8.พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 9.นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 10.นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.

11.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. 12.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 13.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก 14.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 15.นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 16.นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ 18.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. 19.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 20.น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม

21.นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 22.นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 23.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. 24.นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.สมุทรสาคร25.นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา
26.นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี 27.นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 28.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 29.นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 30.นายองค์การ ชัยบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

31.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 32.นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 33.นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด 34.นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 35.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
36.น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 37.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 38.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิส.ส.บัญชีรายชื่อ 39.นายทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 40.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 41.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุลส.ส.บัญชีรายชื่อ 42.นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ 43.นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 44.นายสุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

โดยพบว่า ในจำนวน 44 คนดังกล่าว การเลือกตั้งที่ผ่านมาปี 2566 เข้ามาเป็น สส. 30 คน โดยบางคนก็ไม่ได้ลงเลือกตั้งปี 2566 เช่น พล.ต.ต.สุพิศาล, น.ส.สุทธวรรณ และ นายพิจารณ์ เป็นต้น ขณะที่บางคน ก็เป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่โดนตัดสิทธิการเลือกตั้งสิบปีตามคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ไปแล้วเช่นนายพิธา, นางอมรัตน์, นายปดิพัทธ์ ส่วนนายชัยธวัชสมัยที่แล้วไม่ได้เป็น สส. จึงไม่ได้ร่วมลงชื่อ เช่นเดียวกับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ที่ไม่ได้ร่วมลงชื่อด้วย เพราะตอนออกจากประชาธิปัตย์ย้ายเข้าพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นสส.

ทั้งนี้พบว่าใน 44 คนดังกล่าวมีชื่อ น.ส.ศิริกัญญาที่มีข่าวว่าจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในพรรคการเมืองที่จะขึ้นมาแทนก้าวไกลและจะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้งรอบหน้า รวมถึงนายณัฐพงษ์ที่มีข่าวว่าอาจจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่หรือเลขาธิการพรรคก็มีชื่อด้วยเช่นกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์

ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี

ตีตก 2 คำร้อง! ศาล รธน. ไม่วินิจฉัย MOA ตั้งรัฐบาลอนุทิน เหตุไม่มีหลักฐานชัดล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.ตีตกปม MOA "ณัฐพงษ์-อนุทิน" ให้ สส.ปชน-ภท. โหวตนายกฯ เหตุไม่มีหลักฐานชี้ชัดใช้สิทธิล้มล้างปกครอง เป็นการประกาศเจตจำนงร่วมทางการเมือง

'ราชทัณฑ์' พร้อมส่งตัว 'แส จิ้นเจียง' เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี

“ราชทัณฑ์” พร้อมส่งตัว “แส จิ้นเจียง“ ผู้ต้องหาชาวจีน เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี หลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัย “พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน” ไม่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ระบุ อยู่ระหว่างรับประสานงาน “อัยการ-ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ“ ยืนยัน ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง ต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ป้องกันชิงตัวผู้ต้องหา