'โรม' ชำแหละเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ข้องใจ 'นายใหญ่' ได้กี่เปอร์เซ็นต์

รังสิมันต์ โรม14 ก.ย.2567 - เมื่อเวลา 22.50 น. ที่ผ่านมาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นวันที่สองวาระการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ว่า รัฐบาลเลือกที่จะไม่ใช้การเอ่ยถึงคำว่ากาสิโนแม้แต่น้อย จึงไม่มั่นใจถึงแรงจูงใจในการที่จะเลี่ยงกาสิโนว่าหมายถึงอะไร และกังวลถึงความไม่โปร่งใสต่อนโยบายนี้ ซึ่งเราคิดคล้ายกันที่จะดึงธุรกิจที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินเพื่อให้รัฐสามารถเก็บภาษี และออกกฏหมายควบคุมธุรกิจเหล่านี้ได้

นายรังสิมันต์ อ้างถึงกรณีที่นายกฯ คนที่แล้ว ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าสถานบันเทิงครบวงจร จะสามารถแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมายได้ แต่ต้นคิดว่าการทำเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เป็นคนละเรื่องกับการแก้ไขบ่อนการพนันผิดกฎหมายตามชุมชนหรือหัวเมืองต่างๆ

ดังนั้น ถ้านายกฯ อยากจะเอาจริงเอาจังกับเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และมาแก้ปัญหาบ่อนการพนันจริงๆ สิ่งแรกคือเรื่องค่าเข้าเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ไม่น่าจะทำให้รายย่อย ที่เข้าบ่อนผิดกฎหมายอยู่แล้ว ตัดสินใจเลือกเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งท่านจะต้องวางนโยบายให้ชัดว่าต้องการอะไร หากต้องการแก้ปัญหาบ่อนการพนันที่ผิดกฎหมาย วิธีการนี้จะไม่มีทางสำเร็จเด็ดขาด ก็ขอให้รัฐบาลคิดให้ขาดก่อนจะดำเนินนโยบายนี้อย่าคิดไป ทำไปเด็ดขาด

”ผมอดตั้งคำถามถึงศักยภาพของรัฐบาลไม่ได้ว่าหากเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ มีธุรกิจสีดำแอบแฝงเข้ามาจริงๆ รัฐบาลนี้จะมีศักยภาพแค่ไหนในการขจัดภัยคุกคามนี้“ นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่าตนหวังว่าข้อมูลที่ได้ยินมาจะไม่เป็นความจริง เรื่องการสมคบกันระหว่างนายใหญ่ นายทุน และนายหน้า ขอให้มันเป็นเพียงแค่ข่าวโคมลอย หวังว่านายกรัฐมนตรีจะพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยความโปร่งใส การที่ตนอภิปรายเรื่องยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ว่าทั้งสามเรื่องนี้เกี่ยวกัน และสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด หากเราไม่ระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดีก็ไม่ต่างอะไรกับการยกประเทศชาติให้กับทุนเทาดำ ที่พัวพันกับยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ และเปลี่ยนประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางที่ผิดกฎหมาย

”ปัญหาต่างๆ ของประเทศชาติ เราต้องการความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาของประเทศไทย ประชาชนคนไทยเจ็บปวดมามากพอแล้วกับปัญหา ซิมม้า บัญชีม้า อย่าถึงขนาดให้แม้แต่ตำแหน่งนายกฯ และรัฐมนตรีต่างๆ ต้องกลายเป็นม้าให้กับนายใหญ่ ให้กับพี่ชาย ให้กับครอบครัว ให้กับเพื่อนควบคุมเลย

1 ปีที่ผ่านมา ได้สูญเปล่าอย่างสิ้นเชิงไปแล้วด้วยการมีนายกฯ สองคน อย่าทำให้สามปีต่อจากนี้กลายเป็นความเจ๊งของคนไทย เพราะเรามีนายกฯ ม้า ที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ต้องรอคำสั่งจากนายใหญ่ นายกตัวจริง ที่แอบอยู่หลังแสงจันทร์ ประเทศชาติไม่ใช่เรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งแต่เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน“ นายรังสิมันต์ กล่าว

จากนั้น เวลา 23.33 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลุกขึ้นชี้แจงว่า เมื่อได้ฟังสมาชิกอภิปราย ก็คิดว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วยซ้ำ ผิดหวังที่ได้พูดพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นอีกหลายๆ คน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย และไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เพราะสิ่งเหล่านี้ที่ท่านพูดในสภา ต้องแสดงความรับผิดชอบ ตนเข้าใจในความหวังดีอยากเห็นปัญหานี้หมดไป ขอบคุณในคำแนะนำหลายๆ เรื่อง แต่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กมธ.วุฒิสภา' ขู่คว่ำกม.กาสิโน หาก สส.ดันทุรังนำเข้าสภาโดยไม่ปรับแก้

นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.ในฐานะผู้เสนอญัตติขอให้ตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภา เปิดเผยว่า กมธ.วิสามัญฯ จะนัดประชุมนัดแรกในวันที่ 23 เม.ย.นี้

'เท้ง' ชี้กาสิโนจะเดินหน้าได้ ต้องชัดเจนเรื่องมาตรการป้องกันฟอกเงิน-ทุจริต

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วุฒิสภาตั้งคณะทำงานศึกษาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)

'วิโรจน์' ซัดรัฐบาลดักดานไม่รู้จักจำบทเรียนนิรโทษเหมาเข่ง

'วิโรจน์' อัด 'รัฐบาล' ดักดาน! ไม่นำพาบทเรียนนิรโทษเหมาเข่ง แนะเปิดพื้นที่วิจารณ์เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เตือนอย่ามองคิดต่างเป็นศัตรู