9 พ.ย.2567 - นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าเทวดาที่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวใกล้จะตกสวรรค์แล้ว คณะกรรมาธิการความมั่นคงของสภาผู้แทน ได้ตรวจสอบแล้วแถลงเมื่อวานนี้ว่า
1. แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีใครยอมรับแม้แต่คนเดียวว่าได้ตรวจสุขภาพนักโทษ จึงมีการอ้างว่า พยาบาลเป็นผู้ให้ความเห็นส่งตัวนักโทษไปรักษาข้างนอก ซึ่งไม่มีพยาบาลคนไหนยอมรับด้วย
และความจริงนั้นพยาบาลก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะ รายงานอาการของผู้ป่วย หรือตรวจอาการของผู้ป่วย และไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นทางการแพทย์ว่าป่วยหนักใกล้เสียชีวิตจนต้องส่งตัวไปรักษาข้างนอก
2. ประธานกรรมาธิการแถลงว่า ระยะเวลาตั้งแต่อ้างว่า มีอาการป่วย จนถึงเวลาส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจนั้น ใช้เวลาแค่ 4 นาที ซึ่งบอกความนัยว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการตรวจอาการป่วย จึงส่อว่าเป็นการป่วยทิพย์
3.การรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็แบบเดียวกัน คือไม่มีแพทย์แม้แต่คนเดียวที่ยอมรับว่าได้ตรวจรักษานักโทษ
จึงเท่ากับว่าที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นไม่มีแพทย์ดูแลรักษานักโทษเลยแม้แต่คนเดียว และไม่มีข้อเท็จจริงว่ามีพยาบาลดูแลรักษาด้วย
4. หลักฐานสำคัญคือเวชระเบียน ซึ่งไม่ยอมส่งให้แก่ป.ป.ช. นั้นล่าสุด ทำท่าว่าจะถูกป.ป.ชดำเนินคดีอาญากับผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง และคาดหมายว่าในที่สุด ก็ไม่มีเวชระเบียน เพราะเมื่อไม่มีการรักษา โดยแพทย์แม้แต่คนเดียวแล้ว จะมีการลงบันทึกในเวชระเบียนไม่ได้ เพราะแพทย์เป็นผู้บันทึก ข้อมูลในเวชระเบียน
จากการแถลงทั้งหมดนั้น ทำให้ข้อเท็จจริง ฟังได้ ตามที อดีตผู้บัญชาการตำรวจเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช แถลงไว้คือไม่ได้ป่วยจริง
ถ้าไม่ป่วยจริง การนำตัวออกจากเรือนจำโดยไม่ขออนุญาตศาล ก็เป็นการฝ่าฝืนขัดหมายขังของศาล ฝ่าฝืนพระบรมราชโองการ และไม่ถือว่าถูกจำคุก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 246 จึงไม่ได้รับผล ให้มีการพักโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ 2567
น่าห่วงว่าจะต้องถูกศาลออกหมายขังอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษา และพระบรมราชโองการที่ให้จำคุกอีก 1 ปี
และข่าวคราวที่ดังสนั่นหวั่นไหวในเรื่องนี้ จะถือว่าศาล "ทราบ" ได้หรือยัง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 246
เพราะถ้าถือว่าศาลทราบแล้ว ศาลก็มีหน้าที่ต้องทำการไต่สวน ตามที่กฎหมายได้บัญญัติไว้
ซึ่งศาลสามารถออกหมายเรียก ไปทำการไต่สวนได้เองโดยไม่ต้องมีใครร้อง ว่ามีการนำตัวผู้ต้องขังออกนอกเรือนจำโดยไม่ได้ขออนุญาตศาลจริงหรือไม่
ถ้าจริงศาลก็ต้องออกหมายขัง และหมายจับไปขัง ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลและพระบรมราชโองการที่ให้จำคุก 1 ปีต่อไป
จึงต้องจับตาดูกันว่า นายทักษิณ ชินวัตรบิดาของนายกอุ๊งอิ๊ง จะต้องกลับเรือนจำอีกครั้งหรือไม่ อีกไม่นานเท่าไหร่แล้วก็คงทราบผลเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
เด้งจนท.สรรพากรรีดเงิน1แสน
สรรพากรเด้งเจ้าหน้าที่เอี่ยวรีดเงินผู้ประกอบการ 1 แสน
แจงยิบสางผบ.คุกฉาว 28พ.ย.สรุปชงรมว.ยธ.
โฆษกกรมราชทัณฑ์เผยคืบหน้าปมตรวจสอบ "คุก VIP เทา" แย้มไล่กวดเอกสารลาพักร้อน “มานพ” อดีต ผบ.คุก-เอกสารการเงินปรับปรุงห้องลับใต้บันได
รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ
รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน


