ชำแหละ 'ปรากฏกรรมอำพราง' กรณี พปชร.-ก๊วนธรรมนัส

22 ม.ค.2565 - นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นเรื่อง "ปรากฏกรรมอำพราง" กรณีพรรคพลังประชารัฐมีมติให้ 21 ส.ส.ออกจากสมาชิกพรรค มีรายละเอียดดังนี้

กรณี 21 สส.ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อค่ำ 19 มค.นี้

ไม่ใช่เพราะอึดอัดใจ ไม่ใช่เพราะขัดแย้งในแนวทางหรือนโยบายใดๆ

ไม่ใช่เพราะแพ้เลือกตั้งซ่อม สส.ที่ชุมพร สงขลา ไม่ใช่เพราะแชทไลน์หลุด กรณี กลุ่มไลน์ 8 คน ที่คุยกันเรื่อง "เสนอทำโพล แพ้เลือกตั้งเพราะใคร"

แต่ดำเนินการทั้งหมดเป็นการรู้เห็นเป็นใจร่วมกัน

1.จะขับ ส.ส.ออกจากพรรคได้ ต้องใช้เสียงถึง 3 ใน 4 จำนวนมากขนาดนี้ หากไม่สั่งการ จะทำได้ละหรือ

2.ในอดีตการย้ายพรรค มีแต่พรรคขับออกเอง หรือเจ้าตัวขอย้ายเอง เช่น "กลุ่ม 10 มกรา” ที่ย้ายออกจาก ปชป.เมื่อ 48 ปีก่อน

แต่กรณีนี้กลับเป็นคนถูกขับ ร้องขอให้พรรคลงมติขับออก

3.พรรคเศรษฐกิจไทย เป็นพรรคการเมืองแตกแบงค์พันที่เตรียมพร้อมสรรพไว้แล้วเพื่อรองรับ 21 ส.ส.

ปรากฏการณ์นี้จึงไม่ใช่ความเป็นไปตามธรรมชาติ แต่เป็นการบริหารจัดการที่วางไว้ล่วงหน้าเป็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งของพวกเดียวกันเอง

ความพยายามระดมเสียง สส. เพื่อคว่ำนายกประยุทธ์ เมื่อต้น ก.ย.64 เป็นรอยร้าวลึกที่ยากจะสมานแผล เกือบหกเดือนผ่านไปนายกยังปล่อยให้ตำแหน่งที่ปลดไปยังว่างอยู่ ไม่ยอมตั้งใครแทน

หากไปตั้งคนที่ถูกปลดก็เท่ากับกลืนเลือดตนเอง โอกาสของคนที่ถูกปลดจะคืนสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีในฐานะ พปชร.นั้น จึงเป็นประตูที่ปิดตาย

การย้ายไปอยู่บ้านใหม่ที่เจ้าของบ้านเป็นคนเดียวกันกับบ้านเดิมจึงเป็นทางออก เจ้าของบ้านก็พอใจ คนย้ายมีโอกาสเป็นรมต.ในนามพรรคอื่น นายกจำต้องรับสภาพความเป็นจริง

21 สส.ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ จึงมีอำนาจต่อรอง อย่างน้อยมีตำแหน่ง 2 รมต.รออยู่

หาก 21 เสียงขาดหายไป จะทำให้เสียงฝั่งรัฐบาลเจียนอยู่เจียนไป เพราะองค์ประชุมครึ่งหนึ่งคือ 237 คน ถ้า 21 เสียงไปบวกฝ่ายค้าน 208 เสียง จะเป็น 229 เสียง แปลว่ารัฐบาลมีเสียงเข้าประชุมประเภท ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามป่วย ห้ามเข้าห้องน้ำ เกินครึ่งคือ 237-229 คือ 8 เสียงเท่านั้น

21 เสียงนี้จึงสามารถออกฤทธิ์เมื่อไรขึ้นมาก็ได้ จึงเป็นอำนาจต่อรองสำคัญยิ่งจะให้หรือไม่ให้เป็นรัฐมนตรี

ถ้าให้เป็น ก็ยกมือหนุนกันไป ถ้าไม่ให้เป็นก็พร้อมจะอาละวาด นำไปสู่การล้มกระดาน ยุบสภาเลือกตั้งใหม่

แต่ พรบ.ประกอบ รธน.คือ กม.เลือกตั้ง และ กม.พรรคการเมือง ยังไม่เข้าสภาต้องรอเวลาอีก 3-6 เดือนกว่าจะผ่านสภาได้ ถ้ายุบสภาช่วงนี้ก็ต้องไปใช้กติกาตามกฏหมายเก่า คือใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว

รัฐบาล จะปรับครม. จะลากถูลู่ถูกังอยู่ไปจนครบวาระ จะยุบสภา หรือจะรอ พรป.รธน.ผ่านสภาแล้วค่อยยุบสภา แต่ไม่ว่าวิธีไหน รัฐบาลเจ็บตัวทั้งนั้น โ

ดยเฉพาะนายกที่รับแรงเสียดทานกระหน่ำจากทุกทิศทางหนักหนาสาหัสกว่าครั้งใดๆที่ผ่านมา นายกจะผ่าทางตันอย่างไรให้ลงตัว เป็นปัญหาที่รออยู่อย่างลุ้นระทึก

แต่ใช่หรือไม่ว่า ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่นิติกรรมอำพราง แต่เป็นปรากฏกรรมอำพราง ที่รอบล้อมสิ่งที่เรียกว่า "ผลประโยชน์" เท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นที่นอกเหนือไปจากนี้.

ประสาร มฤคพิทักษ์

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ลุงป้อม’ ส่งขุนศึกเหนือ ‘สุรเดช’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่

'ลุงป้อม'ลั่นกลองรบ ส่งขุนศึกทัพเหนือ 'สุรเดช ยะสวัสดิ์' เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่ เผยเป็นอดีตสส. 9 สมัย-อดีตข้าราชการผู้ใหญ่ประสบการณ์เพียบ ทำคุณประโยชน์ให้ชาวเชียงใหม่มากมาย

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้

ลูกพรรครอเก้อ! 'ทวี' ชิ่งประชุมสรรหาผู้สมัคร สส. พบโผล่หาดใหญ่กับคณะเพื่อไทย

พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน  3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 ส.ส. ในนามพรรคยังคงเป็นผู้สมัครในนามพรรค และรายชื่อทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ