ฝ่ายค้านจ่อยื่นซักฟอกรัฐบาลปลายก.พ.-ต้นมี.ค. โวมีเซอร์ไพรส์ ไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน

7 ม.ค. 2568-ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าอยู่ในกรอบที่จะยื่นช่วงเดือนก.พ. ส่วนการอภิปรายที่จะเกิดขึ้นจริงหลังการยื่นต้องไปเจรจากับวิปร่วม เพื่อกำหนดวันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ล็อควันที่จะมาชี้แจง ซึ่งกรอบกว้างๆน่าจะอยู่ที่ราวปลายก.พ. ต้นมี.ค. หรืออาจจะขยับไปสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมี.ค.โดยจะไม่ช้าไปกว่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นในการอภิปรายจะเป็นเชิงนโยบายหรือพฤติกรรมของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงอย่างไรบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะมีหลายเรื่องทั้งระดับนโยบายหรือการบริหารราชการที่ล้มเหลว รวมไปถึงกรณีต่อการทุจริตคอรัปชั่น คิดว่าหลายเรื่องเคยรับฟังและเห็นจากข่าวว่าพรรคประชาชนได้ตรวจสอบมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเอื้อกลุ่มทุนผูกขาด การเอื้อตัวบุคคลบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เรื่องนโยบายที่ล้มเหลวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งทุกเรื่องเราก็ตรวจสอบต่อเนื่องตลอดเวลาให้ได้เห็นอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางเรื่องที่ยังไม่เคยพูดและมีข้อมูลที่ได้มาจากทางหลังบ้านที่จะเห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้

เมื่อถามถึงไม้เด็ดในการอภิปรายที่จะน็อครัฐบาลได้ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในทุกครั้งก็จะมีเรื่องที่สื่อให้ความสนใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว ทุกครั้งคงจะพอทราบอยู่ว่า ตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล มาจนถึงพรรคประชาชน จะมีไม้เด็ดที่เราไม่เปิดเผยก่อน บางครั้งก็ไม่ได้เปิดเผยกับคนในพรรคเสียด้วยซ้ำ มีเซอร์ไพรส์บางเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ ยังไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน ซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงเช็คความถูกต้องของข้อมูล ถ้าเป็นเรื่องจริงและมั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง ก็จะได้เห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าตนผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาถึง 4 ครั้ง การเป็นเสียงส่วนน้อยกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงจะหวังได้ยากที่การลงมติจะทำให้น็อครัฐมนตรีได้ แต่ก็ไม่แน่เพราะพรรครัฐบาลนั้นง่อนแง่นกันอยู่ หากสมมติมีใครเปลี่ยนข้างขึ้นมาแล้วไปโหวตส่วนในญัตติอภิปราย ก็ไม่แน่เหมือนกัน แต่ทุกครั้งการน็อคกลางสภาฯของการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะโดยสภาวะไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลเป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง และสถานการณ์ความร้าวฉานของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก แต่สิ่งที่เราต้องการจริงๆ คือหวังว่าจะมีการโหวตไปตามเหตุผลและข้อมูล แต่ถ้าไม่ได้สิ่งที่เราหวังจริงๆคือให้ข้อมูลกับประชาชนรับทราบว่ารัฐบาลที่ทำงานอยู่มีข้อบกพร่องหรือข้อทุจริตใดๆที่ปกปิดเอาไว้บ้าง และทำให้สังคมหันมาสนใจการเมือง และสนใจการใช้อำนาจตรวจสอบอำนาจบริหารของสภาฯ เป็นเรื่องที่สำคัญ

ซักว่ามีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ที่จะซักฟอกนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ 3-4 เดือน และเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สังคมจับตาว่าพรรคประชาชนจะหยิบยกมาอภิปรายในครั้งนี้ด้วย และอาจถูกดักทางว่าเป็นคนนอกไม่เกี่ยวข้องนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจจะอภิปรายเป็นรายบุคคลจะมีทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ และขอย้ำอีกรอบว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา แต่เป็นรัฐบาลที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีกว่าๆ หน้าตาเหมือนเดิม เปลี่ยนขยับนิดหน่อยแค่เพียงพรรคเดียว ดังนั้น 1 ปีกว่าควรต้องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีผลงานอะไรที่เป็นรูปธรรม ข้ออ้างที่ว่าเพิ่งมาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่กี่เดือน ไม่ใช่เป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผล

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของนายทักษิณจะมีหรือไม่นั้น คงไม่ใช่เป็นเรื่องของนายทักษิณโดยตรง อาจจะมีเรื่องพฤติกรรมของฝ่ายบริหารที่บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เพื่อเอื้อให้บุคคลบางกลุ่ม ซึ่งคนทั้งประเทศก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ประชาชนมองว่าพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลไม่เข้มข้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่กังวล และไม่คิดว่าเราตรวจสอบไม่เข้มข้น หลายเรื่องที่ได้ฟังในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องที่เคยฟังมาโดยตลอด ถ้าไปถึงตอนนั้นแล้วบอกว่าตรวจสอบไม่เข้มข้น พูดเรื่องเดิมๆ ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าเราได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นเต็มที่ตลอดเวลาเหมือนกัน ดังนั้น ไม่กังวล เชื่อมั่นและมั่นใจว่าเราทำงานตรวจสอบเต็มที่ตลอด อย่างเรื่องชั้น 14 เราอภิปรายไปตั้งแต่การอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 รอบแรกก็โดนประท้วงหนัก จากนั้นนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ก็ได้นำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการจนเป็นข่าวและเกิดความขัดแย้งกันในกรรมาธิการ เกิดการต่อว่า มีบรรยากาศที่ดุเด็ดพอสมควร จึงได้ยืนยันว่าทำงานเต็มที่ไม่เคยออมมือใดๆทั้งสิ้น และการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าเราทำการตรวจสอบเข้มข้นแน่นอน ยืนยันว่าเราเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานอยู่บนหลักเหตุผล เราอาจจะเห็นด้วยกับหลายเรื่องที่รัฐบาลเสนอมา รวมถึงร่างกฎหมายที่รัฐบาลส่งมาก็มีร่างของพรรคประชาชนที่เสนออยู่แล้ว จึงเห็นด้วยเพราะสอดคล้องกับนโยบายของพรรคประชาชน ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปคัดค้านเสียทุกเรื่อง เรื่องไหนไม่ถูกต้องตรวจสอบเต็มที่

เมื่อถามว่าเปิดเผยได้หรือไม่ว่าจะมีรัฐมนตรีที่ถูกล็อคเป้าอภิปรายเกิน 10 คนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจ แต่น่าจะเกือบครบทุกพรรคร่วมรัฐบาลแน่ๆ แต่จะมีบางพรรคที่เพิ่งเข้าร่วม ยังไม่แน่ใจ ต้องรอดู และย้ำว่าเรื่องชั้น 14 มีแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เท้ง' ยุนายกฯ ใช้อำนาจบีบพรรคร่วมฯลงชื่อแก้รธน. ให้เป็นการเสนอของครม.

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีการหารือภายในพรรคเพื่อไทย

เลขาฯเพื่อไทย ขู่ฝ่ายค้านซักฟอกปมชั้น 14 ระวังโดนทักษิณฟ้อง

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปราบไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน สำหรับช่วงสมัยประชุมที่จะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งในครั้งนี้จะมีการยื่นและอภิปนายในช่วงปลายเดือน

'ซองเปล่า' ป่วนฝ่ายค้าน! หัวหน้าพรรคประชาชน ข้องใจ 'เสรีพิศุทธ์'

หัวหน้าพรรคประชาชน  ออกโรงโต้แทน “สุดารัตน์” ยันเอกสารไม่ใช่ซองเปล่า แต่ยังไม่ชัดว่าใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ซัดกลับ “เสรีพิศุ

ซูเปอร์แบก! 'ทวีไอพี สอดไส้' ขู่ฝ่ายค้านห้ามซักฟอกชั้น 14 อ้างป.ป.ช.กำลังไต่สวน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมนำประเด็นการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีต

แนะซักฟอกเนื้อๆล็อคเป้า 'กาสิโน-ชั้น14' นำคำพูด 'ทักษิณ' มาขยี้ให้ประชาชนเกิดระบาดทางอารมณ์

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน แนะฝ่ายค้านควรเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เพื่อให้สอดค

'ชูศักดิ์' ให้ฝ่ายค้านซักฟอกแค่ 2 วัน ฮึ่มพาดพิง 'พ่อนายกฯ' โดนฟ้องแน่

'ชูศักดิ์' มั่นใจกรอบอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เกิน 2 วัน หลังฝ่ายค้านขอถึง 5 วัน รอ ครม. เคาะสะดวกตอบวันไหน ขู่ซักฟอกพาดพิง 'ทักษิณ' ระวังโดนฟ้อง