
15 ม.ค. 2568- ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายนัสเซอร์ ยีหมะ ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ดร.ใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกองทัพธรรม นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยื่นหนังสือถึง นายกแพทยสภาและกรรมการแพทยสภา เรื่อง ขอให้ยึดมั่นในจรรยาบรรณแพทย์
โดยหนังสือมีใจความว่า ตามที่แพทยสภาได้ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบ จรรยาบรรณและมาตรฐานความถูกต้องในวิชาชีพแพทย์ กรณีที่มีแพทย์เข้าไปทำการรักษาผู้ป่วยที่อ้างป่วยวิกฤต 180 วัน ของอดีตผู้ต้องขังเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร โดยที่ประชาชนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ หรือ แม้แต่คณะแพทย์กลุ่มหนึ่ง ก็มีความสงสัยในกระบวนการ ขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างมากว่า แพทย์ที่ทำการรรักษา อดีตผู้ต้องขังเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร จะได้กระทำการร่วมกันปกปิดอาการป่วยที่แท้จริงของอดีตผู้ต้องขังคนนี้หรือไม่ อย่างไร
เพราะมีการตั้งคำถามถึงความผิดปกติตั้งแต่การวินิจฉัยก่อนส่งตัวนักโทษออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นของมาตรฐานทางการแพทย์ที่ประชาชนมีคำถามมาโดยตลอด จนภาคสังคม สื่อมวลชน ประชาชน และคณะแพทย์บางกลุ่ม ได้ตั้งสมมุติฐานว่านี่คือการ ป่วยทิพย์ หรือแม้แต่กระบวนการรักษาในหลายขั้นตอนก็ผิดหลักของผู้ป่วยวิกฤต
วันนี้เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่แค่ทำลายความมีจรรยาบรรณของวงการแพทย์เท่านั้น แต่มันได้ทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยไปด้วย
เราทราบว่าแพทยสภาเป็นองค์กรที่รักษาไว้ซึ่ง เกียตริ ศักดิ์ศรี และจรรยาบรรณของการเป็นแพทย์ เราจึงขอให้
1. แพทยสภา เดินหน้าพิสูจน์ความจริง เหมือนที่แพทย์พิสูจย์โรคร้ายในตัวคน ว่าป่วยชนิดไหนแล้วให้ยารักษา กรณีก็เช่นเดียวกัน แพทยสภาต้องพิสูจน์และวินิจฉัยความจริงให้ปรากฎแก่ประเทศไทยแล้วฉีดยาความจริงให้ความถูกต้องปรากฏขึ้นมาให้ได้ เพื่อรักษาไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยและมาตรฐานทางการแพทย์เอง
2. เราขอให้กำลังใจแพทยสภา อย่าให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพื่อหวังจะให้ แพทยสภาเป็นองค์กรฟอกขาว ให้กับการป่วยทิพย์ของนักโทษเทวดา
3. เราจะร่วมกับแพทยสภาเพื่อเดินหน้าขอเอกสารทางการแพทย์หลายรายการที่แพทยสภาขอไปยัง โรงพยาบาลตำรวจ เพราะถือเป็นพยานเอกสารทางสังคมที่ทั้ง ป.ป.ช. ก็ต้องการเพื่อนำมาสู่การพิสูจย์ความจริงแก่ประเทศไทย
4. เราหวังว่าแพทยสภา จะยืนอยู่บนความถูกต้องยึดมั่นในจรรยาบรรณของแพทย์ในการสร้างความจริงอย่างถึงที่สุด
นายพิชิต กล่าวว่า เนื่องจากสังคมมีข้อสงสัยกในการรักษาตัวของนายทักษิณ รวมถึงคณะแพทย์เองก็มีข้อสงสัยจึงได้ส่งหนังสือยื่นต่อแพทยสภาให้ตรวจสอบ กระทั่งแพทยสภาเห็นพิรุธและตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมา ดังนั้นวันนี้สังคม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และแพทยสภาร่วมกันตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และวันนี้ครบกำหนดเส้นตายที่แพทยสภาให้รพ.ตำรวจส่งเอกสารทางการแพทย์กรณีการรักษาตัวองนายทักษิณมาให้ เราจึงเดินทางมาให้กำลังใจแพทยสภา ในการเดินหน้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่นายทักษิณอ้างว่าเจ็บป่วยต้องรักษาตัวนานกว่า 180 วัน เพื่อพิสูจน์ว่าการป่วยนั้นป่วยทิพย์หรือไม่ ป่วยอย่างไร ซึ่งแพทยสภาก็มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงให้กำลังใจเดินหน้าพิสูจน์ความจริง รักษากระบวนการยุติธรรม รักษาอาการป่วยของประเทศไทย หากไม่กระจ่างเราก็ตั้งคำถามอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม แพทยสภาอยู่ใกล้ชิดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีรัฐมนตรีที่อยู่ภายใต้สังกัดพรรคเพื่อไทย จึงกลัวว่าจะมีการแทรกแซงทางการเมือง กดดันแพทยสภา ทำให้แพทยสภากลายเป็นองค์กรฟอกความผิดเสียเอง จึงหวังว่าแพทยสภาจะยึดมั่น รักษามั่นใจจรรยาบรรณของแพทย์
“ถ้าวันนี้เรื่องนี้ผ่านไป คนที่ป่วยจริงๆ คือกระบวนการยุติธรรม คนที่ป่วยคือประเทศไทย วันนี้แพทยสภาเป็นทางออก ทางรอดหนึ่งที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้สังคมได้อย่างชัดเจน แล้วฉีดยาความจริงให้สังคม ซึ่งความจริงนั้นอยู่ที่เวชระเบียนที่จะช่วยรักษากระบวนการยุติธรรม วันนี้เรามาให้กำลังใจ และมีความห่วงใยว่าจะมีการเมืองแทรกแซงแพทยสภา หากแพทยสภาปล่อยให้การเมืองแทรกแซงได้ แพทยสภาก็จะกายเป็นองค์กรฟอกความผิดให้นายทักษิณ กลายเป็นตราประทับ ตราบาปชนิดหนึ่ง แต่ผมเชื่อมั่นว่าด้วยจรรยาบรรณของแทพย์ ด้วยวิชาชีพของแพทย์ จะรักษาจรรยาบรรณให้ถึงที่สุดด้วยการพิสูจน์ความจริงให้สังคมได้ทราบว่า มีคณะแทพย์ชุดหนึ่งร่วมกันปกปิดอาการป่วยองนายทักษิณหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์ที่รพ.ตำรวจ” นายพิชิต กล่าว
นายพิชิต กล่าวต่อว่า ท่าทีที่ผ่านมา ทางรพ.ตำรวจจะไม่เวชระเบียนมาให้หน่วยงานตรวจสอบตามที่ร้องขอมาตลอด ขนาดว่า ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีสภาพบังคับตามมีกฎหมายที่สามารถเรียกเอกสารจากทุกหน่วยงานได้ มากกว่าแพทยสภา ทางรพ.ตำรวจ และสำนักงานคำรวจแห่งชาติก็ยังไม่ส่งให้ ดังนั้นหากภายในวันนี้ (15 ม.ค. 2568) แล้วยังไม่ส่งมา ทางคปท.ก็จะนัดหมายรวมตัวกันไปทวงถามจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันที่ 21 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบบนิติรัฐนิติธรรมมาโดยตลอด ซึ่งจะมีหลายคณะร่วมกันไปทวงถามด้วยทั้งอดีตแกนนำพันธมิตร แกนนำกปปส. แกนนำนปช. เป็นต้น
แกนนำคปท. กล่าวอีกว่า สิ่งที่เรายืนยันมาตลอดคือรัฐบาลต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่รัฐบาลน.ส.แพรทองธาร และก่อนหน้านี้เราเคยสื่อสารไปถึงรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน โดยเรามีการตั้งคำถามถึงอาการป่วยทิพย์ของนายทักษิณที่เข้ารักษาตัวกว่า 180 วัน โดยเฉพาะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ซึ่งการป่วยของนายทักษิณ อยู่ในอำนาจของพ.ต.อ.ทวี ตั้งแต่ 120 วันแรกในการรักษาตัว ซึ่งสามาถรพิจารณาได้ พอป.ป.ช.ตั้งองค์คณะมาตรวจสอบข้าราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรม เป็นหน้าที่ที่พ.ต.อ.ต้องรับผิดชอบทางการเมือง ก่อนหน้านี้ต้องลาออกจากตำแหน่งด้วยซ้ำไป เพราะทำให้กระบวนการยุติธรรมภายใต้การบรารงานของตัวเองบิดเบี้ยว แต่เมื่อไม่ลาออกเราก็ต้องสื่อสารไปยังนายกฯ ว่าจะจัดการระบบนี้อย่างไรให้เกิดคาวมยุติธรรม รัฐบาลต้องทำหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้ ต้องสั่งให้รพ.ตำรวจนำเวชระเบียนส่งให้ ป.ป.ช. และแพทยสภา เมื่อความจริงกระจ่างท้ายที่สุด รัฐบาลต้องยึดมั่นใจกฎหมาย เอานายทักษิณกลับเข้าเรือนจำทันที
ด้านผู้แทนฝ่ายกฎหมายแพทยสภา กล่าวว่า ขอบคุณกำลังใจที่มาวันนี้พร้อมตั้งข้อสังเกตการทำงาน ซึ่งตนจะนำเรื่องส่งถึงผู้บริหารต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า แพทยสภาเป็นองค์กรตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม กรรมการแพทยสภามาจากการเลือกตั้งของสมาชิก ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุข จึงยืนยันว่าไม่ได้มีการเมืองแทรกแซง ส่วนเอกสารการรักษาของนายทักษิณ ที่มีการขอไปที่รพ.ตำรวจนั้นยังต้องรอจนถึงตอนเย็นวันนี้ ส่วนรายละเอียดและความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นเป็นหน้าที่ของอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมา รายละเอียดยังเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วหากในวันนี้ยังไม่มีการส่งเอกสารมาให้ตามที่มีการเรียกไป ทางอนุกรรมการก็พิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ หากเห็นว่าครบถ้วนก็ตัดสินได้เลย กับอีกทางหนึ่งหากมีการเชิญบุคคลก็ได้ เป็นไปตามดุลพินิจของอนุกรรมการฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ครอบครัวชินวัตร โชว์ภาพเยี่ยม 'ทักษิณ' แบบใกล้ชิดที่สุด โอกาสพิเศษช่วงปีใหม่
ครอบครัวชินวัตรเยี่ยม “ทักษิณ” ครั้งที่ 20 แบบใกล้ชิดในโอกาสพิเศษช่วงปีใหม่ที่คลองเปรม "อิ๊งค์-โอ๊ค"อุ้มภาพร่วมเฟรมพ่อในชุดนักโทษ โชว์สุขภาพสดใส ระบุได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน 2 ชั่วโมงเต็ม ทั้งก๋วยจั๊บ–แฮมเบอร์เกอร์ พร้อมพูดคุยยาวเรื่องน้ำท่วมภาคใต้


