ประเทศไทยติดอันดับ 5 เมืองที่น่าใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณ

29 ม.ค.2565 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ากรณีนิตยสาร Capital ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นนิตยสารรายเดือนที่เน้นการนำเสนอข่าวสารด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ได้เผยแพร่บทความการจัดอันดับ 10 ประเทศ/เมืองที่น่าใช้ชีวิตยามเกษียณมากที่สุด จัดทำโดยเว็บไซต์รีเทท ซอง ฟองเทีย (Retraite sans Frontieres) โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 5 ต่อจาก กรีซ โปรตุเกส มอรีเชียส และสเปน สะท้อนความโดดเด่นและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และเป็นเมืองที่น่าอาศัยอยู่ของไทย

การจัดลำดับดังกล่าว พิจารณาจากตัวชี้วัด 12 ข้อ ได้แก่ ค่าครองชีพ อสังหาริมทรัพย์ การแพทย์ มรดกทางวัฒนธรรม มรดกทางธรรมชาติ อาหาร สภาพอากาศ กิจกรรมสันทนาการ ความปลอดภัย ความยากง่ายในการปรับตัว ความสะดวกในการเดินทาง และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งประเทศไทยมีคะแนนนำในตัวชี้วัดหัวข้อค่าครองชีพ อสังหาริมทรัพย์ และการแพทย์ ซึ่งในบทความระบุว่า ถึงแม้มีสถานการณ์โควิด-19 และข้อจำกัดด้านการเดินทางจะมีผลต่อการจัดอันดับ ทำให้ประเทศในยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียนติดอันดับในสัดส่วนที่มากที่สุดเนื่องจากอยู่ใกล้ฝรั่งเศส แต่ไทยซึ่งอยู่ห่างไกลก็ยังสามารถรั้งอันดับที่ 5 ไว้ได้

นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มซึ่งมีความต้องการที่หลากหลาย และสำหรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการสร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มประชากรผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen) กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner) กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work – from – Thailand professional) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (High – skilled professional) กลุ่มนี้รัฐบาลจึงออกมาตรากดึงดูดให้พำนักในประเทศไทยเป็นเวลานาน โดยสามารถขอวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว มีอายุการตรวจลงตรา 10 ปี และสำหรับการเข้ามาในประเทศไทยเพื่อใช้ชีวิตในฐานะผู้สูงอายุ จะต้องมีอายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ระบุวัตถุประสงค์ว่าจะขอเข้ามาใช้ชีวิตในฐานะผู้สูงอายุหรือเกษียณ และจะไม่ทำงานในระหว่างพำนักในไทย มีหลักฐานแสดงฐานะทางการเงินหรือหลักฐานที่ได้รับเงินบำนาญ (ต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า 2 แสนบาท หรือมีรายได้/บำนาญไม่น้อยกว่า 6 หมื่น 5 พันบาทต่อเดือน)

มากไปกว่านั้น รัฐบาลยังมีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness Sandbox หัวหิน – ชะอำ มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ พัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจากประสบการณ์การท่องเที่ยว ในระยะต่อไปจะขยายพื้นที่นำร่องในภูมิภาคอื่นๆที่มีความพร้อม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประมาณการค่าใช้จ่ายของนักท่องเทียวในกลุ่มนี้ จะอยู่ที่ 3,276 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ต่อคนต่อการเดินทาง ควบคู่กันไป ก็มีโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกภายใต้โครงการ Thailand Riviera ส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยอัตลักษณ์ของความเป็นไทยมาตรฐานระดับสากล สอดรับกับกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้มีรายได้สูง และกลุ่มผู้สูงอายุเช่นกัน

“นายกรัฐมนตรีได้วางกรอบการทำงานของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสาธารณสุข คาดการณ์ว่า ภายใต้สถานการณ์โควิดที่สามารถบริหารจัดการได้เช่นนี้ มาตราการTest&Go จะสามมารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างงาน สร้างรายได้แก่ประเทศให้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน” นางสาวรัชดา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หัวหน้าเท้งเผาบ้านต่อสื่อนอก! บอกไทยไม่ใช่เหยื่อแต่เป็นศูนย์กลางฟอกเงิน

'ณัฐพงษ์-ศิริกัญญา' ร่วมฟังเสวนาชำแหละขุมทรัพย์เจ้าพ่อสแกมเมอร์ พร้อมพูดคุย 'ทอม ไรท์' ขณะ 'เท้ง' ลั่น หาก 'ปชน.' เป็นรัฐบาล จะถือเป็นวาระเร่งด่วน เอาจริงปราบสแกมเมอร์-เปิดโปงเครือข่ายทุนเทาในประเทศ

สงสารประเทศไทย ‘ก่อแก้ว’ ครวญหนักมาก!พอได้หรือยัง ’ทักษิณ‘ เกินจะรับไหว

“ก่อแก้ว” ครวญหนักสิ่งที่ถาโถมใส่นายใหญ่ตั้งแต่คดี 1 ปีไม่หักวันคุมขังเดิม การอุทธรณ์คดี 112 ไปจนถึงภาษีหุ้นชินคอร์ป ล้วนทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าถูกจัดเป็นตอน ๆ แบบซีรีส์ จนประเทศถดถอยและคนไทยหมดหวัง “พอได้หรือยังครับ”

ลั่นไทยไม่ใช่นักเรียนประถม! จวกสหรัฐทำตัวเป็นครูใหญ่ถือไม้เรียวขู่

จวกสหรัฐอเมริกาใช้กำแพงภาษีขู่ไทยเหมือนครูใหญ่คุมเด็กประถม พร้อมชี้ไทยไม่ใช่สนามเด็กเล่นของวอชิงตัน และอธิปไตยไม่ใช่ของแลกผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์กับใครทั้งนั้น

ไทยพร้อมแล้ว'โมโตจีพี2026' ตั้งเป้าเป็นสนามที่ดีที่สุด บัตรแกรนด์สแตนด์3.21 นาทีหมด

การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี” สนามประเทศไทย ประจำปี 2569 ซึ่งได้รับเกียรติสูงสุด ขึ้นแท่นสนามเปิดฤดูกาล เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ตอกย้ำก้าวสำคัญสู่ปีที่ 7 ที่แข็งแกร่งของไทยบนแผนที่มอเตอร์สปอร์ตโลก พร้อมเดินหน้า สานต่อความสำเร็จ ดันไทยสู่ “ฮับมอเตอร์สปอร์ตภูมิภาค” และสร้างต้นแบบเมืองกีฬาอาเซียน  จุดพลุคอนเซ็ปต์ ‘More Than a Race’ จัดใหญ่-สนุกขึ้น  ตั้งเป้าเป็นสนามแข่งที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดในปฏิทิน MotoGP ลุ้นสร้างสถิติใหม่ผู้ชมสูงสุดทำลายสถิติเดิม พร้อมเปิดจำหน่ายบัตรวันแรก กระแสตอบรับดีเยี่ยม ที่นั่งแกรนด์สแตนด์ Sold Out ด้วยเวลา 3.21 นาที