สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นคงของสถานะอำนาจ “ทักษิณ ชินวัตร” อย่างชัดเจน เมื่อหลายสัญญาณสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในการประคับประคอง “แพทองธาร” บุตรสาวในฐานะนายกรัฐมนตรี ว่าจะสามารถข้ามปีนี้และอยู่ครบเทอมได้หรือไม่
ทักษิณเคยกล่าวไว้อย่างมั่นใจว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะได้กลับประเทศไทยภายในสงกรานต์ปี 2568 แต่จนถึงวันนี้ ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งบอกว่าการกลับมาของยิ่งลักษณ์จะเกิดขึ้นตามคำกล่าวนั้น
แม้ยิ่งลักษณ์จะสามารถกลับได้ตลอดเวลา แต่ต้องเผชิญกับโทษจำคุกในคดีทุจริตโครงการระบายข้าวจีทูจี ซึ่งทักษิณเคยยืนยันว่า “จะไม่ยอมให้ยิ่งลักษณ์ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว” แต่ความเงียบงันในเรื่องนี้สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของทักษิณในการช่วยน้องสาวหลีกเลี่ยงโทษจำคุก
นอกจากนี้ “ศาลอาญา” ไม่อนุญาตให้ทักษิณเดินทางไปต่างประเทศร่วมประชุมอาเซียนที่อินโดนีเซีย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังมาเลเซียและบรูไน การตัดสินของศาลในกรณีนี้ไม่ได้อิงการเมืองแต่อย่างใด
แต่สะท้อนให้เห็นถึงความ “เปราะบาง” ของสถานะอำนาจของทักษิณในตอนนี้ เหมือนกับ “ตะเกียงที่กำลังจะดับ”
ความเปราะบางนี้ยิ่งชัดขึ้นเมื่อทักษิณยังต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัว และข้อกฎหมายหลายประการ ทั้งเรื่อง โรคป่วยทิพย์ชั้น 14 และ คดี 112 ที่จะเริ่มการไต่สวนในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ยิ่งทำให้สถานะของทักษิณไม่มั่นคง และอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการประคับประคองอำนาจให้กับแพทองธาร
ในสถานการณ์ที่สถานะความมั่นคงของทักษิณเริ่มคลอนแคลน คำถามที่ตามมาคือ “ทักษิณ” จะสามารถช่วยรักษาสถานะของบุตรสาว “แพทองธาร ชินวัตร” ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่? หรือจะเผชิญกับแรงกดดันทางการเมือง ที่อาจทำให้รัฐบาลนี้ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้จนถึงปี 2570 ตามที่เคยประกาศไว้?
ความมั่นคงสถานะนายกฯของของแพทองธาร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจบารมีของทักษิณเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องพึ่งพาความมีเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็น “รัฐบาลผสม” จากหลายพรรคการเมือง
หากมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยเฉพาะช่วงยุครัฐบาลไทยรักไทย ที่ “ทักษิณ” มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่สุดท้ายกลับต้องพังลงหลังจากขายหุ้นชินคอร์ปให้ต่างชาติ ทำให้เกิดแรงต้านอย่างหนักจนกลายเป็นจุดจบของอำนาจในยุคนั้น
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะมีอำนาจมากมาย ก็ยังไม่สามารถรักษาตำแหน่งตัวเองได้ เหมือนกับ “เกมการเมืองที่เล่นกันในสนามหิน” ที่ต้องพิจารณาทุกก้าวให้รอบคอบและระมัดระวังทุกการตัดสินใจ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลของแพทองธารกำลังเผชิญกับแรงเสียดทานภายในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะในประเด็น กฎหมายกาสิโน-การพนันออนไลน์ ที่เริ่มมีเสียงคัดค้านจากพรรคร่วมบางพรรค
ความจริงแล้ว นโยบายเรื่องกาสิโนเริ่มต้นจาก ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย ซึ่ง ไม่ใช่แนวทางของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น แต่เหมือนเป็นการมัดมือชกพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เริ่มมีกระแสข่าวความไม่พอใจเกิดขึ้นแล้ว
เพียงแต่ พรรคการเมืองบางพรรค ยังสงวนท่าที รอประเมินสถานการณ์ ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร ก่อนตัดสินใจแสดงท่าทีคัดค้านกฎหมายกาสิโน
ภายใต้แรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้เกิดการพูดคุยกันภายใน “พรรคเพื่อไทย” เกี่ยวกับทางเลือกในการ “พับโครงการกาสิโน” ไว้ก่อน เพื่อลดแรงกดดันจากพรรคร่วมและสังคม
เพราะแม้ว่าการผลักดันกาสิโนจะเป็นแผนเชิงเศรษฐกิจที่ทักษิณต้องการ แต่หากกระแสต่อต้านรุนแรงขึ้นจนกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล การถอยออกจากประเด็นนี้อาจเป็นกลยุทธ์ที่พรรคเพื่อไทยต้องพิจารณา
สัญญาณเหล่านี้สะท้อนถึงความไม่ลงรอยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่หนักหน่วงยิ่งขึ้นในเร็ววัน
นี่คือสิ่งที่ “ทักษิณ” และ “แพทองธาร” ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้สถานการณ์นี้กลายเป็นเงื่อนไข ที่อาจทำให้รัฐบาลต้องจบลงเร็วกว่าที่คาด
การตัดสินใจของพรรคการเมืองต่างๆ ในพรรคร่วมรัฐบาล จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่สามารถเปลี่ยนทิศทางของรัฐบาลแพทองธารในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น แรงกดดันจากภายนอก โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวทางสังคมและม็อบที่เริ่มขยายตัวต่อต้านกฎหมายกาสิโน ยิ่งทำให้รัฐบาลแพทองธารต้องเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่ขึ้น หากกระแสการต่อต้านรัฐบาลแพร่กระจายวงกว้าง
สุดท้าย การเมืองไม่มีคำว่าสายเกินไปในการเปลี่ยนเกม แต่ก็ไม่มีทางหนีจากราคาที่ต้องจ่าย หาก ทักษิณ-แพทองธาร เลือกพับโครงการกาสิโน อาจรักษาเสถียรภาพรัฐบาลไว้ได้ แต่ถ้ายังดันทุรังเดินหน้า อาจเป็นเชื้อไฟเผารัฐบาลตัวเองให้มอดก่อนครบเทอม
กลายเป็นเพียง “รัฐบาลทางผ่าน” ที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็น หมากตัวสุดท้ายของตระกูลชินวัตร!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีคำตอบ! รัฐบาลอนุทินมี ‘ศุภจี‘ เป็นจุดเด่น ทำไมปล่อยให้มี ’ธรรมนัส’ เป็นจุดอ่อน
คุณศุภจีคือตัวแทนของ "ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ" ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ดึงดูดชนชั้นกลางและคนเมือง และเป็นเกราะป้องกันทางการเมือง เมื่อฝ่า
ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม
ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง
เปิด 3 ทฤษฎี! 'นายกฯหนู' ยุบสภาหลังโหวตวาระ 3 แก้รธน.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้ความผ่านเฟซบุ๊กว่า Game of Thrones การเมืองไทย
รู้ทุกเรื่อง! กูรูใหญ่ เปิดแผนสุดแสบพรรคเพื่อไทย แก้เกมชิงยุบสภาหนีซักฟอก
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ด่วน
‘โบว์ ณัฏฐา’ ชี้ภาพเลือกตั้งเริ่มชัด เหลือสองพรรคที่ขยับขึ้นมาเด่น
“โบว์ ณัฏฐา” วิเคราะห์แนวโน้มจากโพลชุดล่าสุด ระบุศูนย์กลางการแข่งขันเริ่มขยับเหลือสองพรรคที่โดดขึ้นมา ขณะที่เพื่อไทยถูกทิ้งระยะ แม้คนยังไม่ตัดสินใจมีจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกระหว่างตัวเลือกที่เด่นที่สุดในตอนนี้
ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมการเมืองสามก๊ก ชิงยุบสภาแก้รัฐธรรมนูญเป็นหมันทันที
สืบเนื่องจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้ออกมาโต้ตอบทางการเมืองในเชิงหากฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยไม่รอ แต่ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ


