การเมืองไทยกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร มอบหมายให้ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยื่นขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัย ในประเด็นที่ว่า
บุคคลต้อง “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” และ “ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”
ศาลให้เหตุผลว่า คำร้องดังกล่าวเป็นลักษณะของ “การหารือ” หรือ “ขอให้อธิบายหรือแปลความหมาย” ของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่จะรับไว้พิจารณา
เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอำนาจพิจารณาวินิจฉัย ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ…
ที่น่าสนใจคือ เหตุใดรัฐบาลจึงต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด ในเมื่อโดยหลักแล้ว เป็นอำนาจและดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีในการพิจารณาคุณสมบัติของรัฐมนตรีเอง
และคำว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ไม่ใช่หลักกฎหมายที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อการตีความ หากแต่เป็นมาตรฐานที่ “วิญญูชนหรือบุคคลทั่วไปในสังคม” สามารถเข้าใจได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามหากมองให้ลึกลงไป จะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การขอความชัดเจนทางกฎหมาย แต่กลับกลายเป็น “เกมทางการเมือง” ที่เชื่อมโยงกับ “ข้อตกลงลับ” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวในพรรครัฐบาลระบุว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ให้คำมั่นหรือรับปากกับกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ว่าจะผลักดันให้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลังการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)
ว่ากันว่าบุคคลดังกล่าวเป็น “คีย์แมน” ที่ “ทักษิณ” ไว้วางใจและมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งบนดินและใต้ดิน!?
แต่ปัญหาคือ บุคคลนี้มีข้อครหาด้านความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งมีความเสี่ยงสูง หากถูกแต่งตั้งเข้าสู่ตำแหน่ง
ด้วยเหตุนี้ การยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความจึงเป็นความพยายามที่จะ “ใช้ศาลเป็นเครื่องมือ” สร้าง “หลักประกัน” สำหรับการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว
ซึ่งหากศาลรับพิจารณาวินิจฉัย ก็จะเป็นการหลีกเลี่ยงการโจมตีจากสาธารณะและปัดความรับผิดชอบออกจากตัวนายกรัฐมนตรีแพทองธาร
แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง แผนนี้ก็ต้องพังทลายไป และภาระในการตัดสินใจกลับมาตกอยู่ที่ “นายกฯแพทองธาร” โดยตรง
กรณีของ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ไม่ใช่แค่ถ้อยคำในรัฐธรรมนูญ แต่เป็นหลักการที่ส่งผลโดยตรงต่อชะตากรรมของนายกรัฐมนตรี
“เศรษฐา” ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทักษิณเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หมายความว่า หาก “แพทองธาร” เลือกเดินเกมเดียวกัน ก็อาจจะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ “แพทองธาร” ต้องเผชิญทางเลือกที่ยากลำบาก หากเลือกทำตามคำสัญญาทางการเมืองที่ “พ่อ” เคยให้ไว้ และแต่งตั้งบุคคลที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ นอกจากจะถูกโจมตีจากสังคมในเรื่อง “ธรรมาภิบาล” แล้ว ยังอาจเสี่ยงที่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ในทางกลับกัน หากเลือกที่จะไม่แต่งตั้งบุคคลนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว นายกฯแพทองธารก็อาจต้องเผชิญความขัดแย้งจากกลุ่มบุคคลที่ “ทักษิณ” ได้ให้สัญญาไว้ ยิ่งกลุ่มนี้มีอำนาจต่อรองสูงพอที่จะพลิกเกมการเมืองได้
ดังนั้นปัญหานี้จึงไม่ใช่แค่เรื่อง “คุณสมบัติรัฐมนตรี” อีกต่อไป แต่กลายเป็นการต่อสู้เพื่ออำนาจในรัฐบาล และเป็นบทพิสูจน์ว่าแพทองธารมีอิสระในการตัดสินใจจริงหรือไม่
ท้ายที่สุดแล้ว คำว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ไม่ได้เป็นแค่ “หลักการทางกฎหมาย” แต่กลับกลายเป็นเครื่องมือที่กำลัง “ย้อนศร” กลับมาส่งผลกระทบต่อเครือข่ายอำนาจของทักษิณเอง
และที่น่าขันที่สุดคือ นายกฯแพทองธาร อาจต้องไปถามพ่อของเธอ-“ทักษิณ ชินวัตร” ที่เคยถูกตัดสินว่ากระทำความผิดในคดีทุจริตหลายคดี ว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” นั้นมีขอบเขตและหมายความว่าอย่างไร?
นี่จึงเป็น “ตลกร้ายของการเมืองไทย” ที่สะท้อนให้เห็นว่า “เกมของพ่อ” กำลังกลายเป็นภาระที่ลูกสาวต้องแบกรับไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีต สว.จับตาศึกอภิปรายหากเกี้ยเซียะเจอเปิดเวทีประชาชนสับแน่
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
วันซักฟอก! สส.เพื่อไทย ห้ามขาดห้ามตาย 'อิ๊งค์' พร้อมตอบแบบกว้างๆ
นายกฯแพทองธาร ร่วมประชุม สส.เพื่อไทย เตรียมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เผยจะชี้แจงในประเด็นกว้างๆ ให้รมต.ตอบละเอียด พร้อมแซวให้ สส.เฝ้ากลุ่มไลน์ขอข้อมูล ขณะที่ “วิสุทธิ์” สั่งห้ามขาดห้ามตายในช่วงซักฟอก พร้อมส่งกำลังใจให้นายกฯ
ปูเสื่อรอ 'ลุงป้อม' พร้อม! จัดหนัก 'อิ๊งค์-คนในครอบครัว' เนื้อๆเน้นๆไม่เยิ่นเย้อ
บิ๊กป้อม-'คอยฟังสิ คอยฟัง' ซักฟอกนายกฯหุ่นเชิดบุคคลในครอบครัว เลขาฯพปชร.ลั่นมีหมัดเด็ด ประชาชนไม่ผิดหวังแน่ เผยหัวหน้าพรรคข้อมูลแน่น-สมบูรณ์ เน้นเนื้อๆไม่เยิ่นเย้อกินเวลา ตอก 'สงคราม' ปรามาสลุง หากไม่เป็นอย่างพูด ต้องมาขอโทษที่พรรค แซะพรรคร่วมรัฐบาลง่อนแง่นแล้ว
ศาลอาญารับฟ้องคดี 'หมอวรงค์' หมิ่นประมาท 'ทักษิณ' กล่าวหา ถุงขนมทำงานในคดี 112
ที่ห้องพิจาณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าคดีหมายเลขดำ อ1961/2567 ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก
'พ่อมหาจำเริญ' เป็นใครไม่รู้ 'อนุทิน' ชี้ 'ทักษิณ' แค่เตือนในฐานะผู้ใหญ่ เปรียบ พท.-ภท. ตบจูบเหมือนผัวเมียลูกดก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกร
'วราวุธ' มั่นใจ พม.ไม่ใช่พ่อมหาจำเริญ ตามที่ 'ทักษิณ' ระบุแน่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกร