‘สุริยะใส’ แนะรบ.เดินนโยบายที่สมดุล ยืนสู้ชาติมหาอำนาจ ใช้สองมาตรฐานกดดันไทย

‘สุริยะใส’ชี้การมีจุดยืนที่เป็นอิสระและยึดหลักมนุษยธรรมอย่างแท้จริงจะช่วยให้ไทยสามารถดำรงบทบาทในเวทีโลกอย่างมีศักดิ์ศรี และไม่ตกเป็นเหยื่อของมหาอำนาจที่ใช้สิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง

16 มี.ค.2568-ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กระบุ เรื่อง รัฐไทยต้องเท่าทันประเด็นสิทธิมนุษยชน “หลักการสากล” หรือ “เครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์” ระบุว่า กรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน ซึ่งนำไปสู่การที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) วีซ่าเจ้าหน้าที่ไทย สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของประเด็นสิทธิมนุษยชนในเวทีโลก ประเด็นนี้ไม่ได้เป็นเพียง “หลักการสากล” ที่ทุกประเทศยึดถือเท่านั้น แต่ยังถูกใช้เป็น “เครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์”ในการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ ประเทศตะวันตกมักหยิบยก “สิทธิมนุษยชน” ขึ้นมาเป็นเงื่อนไขสำคัญในการกำหนดท่าทีทางการทูตและนโยบายระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม หลายกรณีกลับสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานที่ไม่เท่าเทียมกัน เช่น สหรัฐอเมริกา ที่วิพากษ์จีนเรื่องการละเมิดสิทธิของชาวอุยกูร์ แต่กลับมีนโยบายผลักดันผู้ลี้ภัยจากยูเครนและตะวันออกกลางกลับประเทศของตนเอง  หรือการที่ไทยถูกโจมตีอย่างหนักในประเด็นการส่งตัวชาว “อุยกูร์” กลับจีน แต่ประเทศตะวันตกกลับเพิกเฉยต่อการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยของตนเอง

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า “สิทธิมนุษยชน” ไม่ได้ถูกนำมาใช้เพียงเพื่อปกป้องหลักสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์

สำหรับรัฐไทย การเผชิญแรงกดดันจากประเทศมหาอำนาจในประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ไทยต้องตระหนักคือ การรักษาความเป็นกลางและการมีจุดยืนที่มั่นคง ไทยควรให้ความสำคัญกับหลัก “มนุษยธรรม” และ “กฎหมายระหว่างประเทศ” แต่ขณะเดียวกันต้องระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของ “มหาอำนาจ” ที่ใช้ “สิทธิมนุษยชน” เป็น “กลยุทธ์” กดดันทางการเมือง

หากไทยสามารถดำเนิน “นโยบายที่สมดุล” เช่น การจัดการปัญหาผู้ลี้ภัยตามหลักสิทธิมนุษยชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ และการมี “จุดยืนที่เป็นอิสระ” จากแรงกดดันของต่างชาติ ไทยก็จะสามารถรักษาภาพลักษณ์ในเวทีโลกได้โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของนโยบายสองมาตรฐาน

นอกจากนี้ ไทยควรมีบทบาท “เชิงรุก” ในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างสร้างสรรค์ รัฐบาลสามารถใช้เวทีนานาชาติ เช่น อาเซียน หรือสหประชาชาติ เป็นช่องทางผลักดันแนวทางที่เป็นกลางและยุติธรรม เช่น การสนับสนุนการคุ้มครองผู้ลี้ภัยโดยคำนึงถึงข้อจำกัดด้านความมั่นคงของรัฐ และการสนับสนุนให้แก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนผ่านการเจรจา แทนการคว่ำบาตรหรือการประณามฝ่ายเดียว

หากไทยสามารถ “รักษาสมดุล” ระหว่าง “การปกป้องสิทธิมนุษยชน” กับการ “รักษาผลประโยชน์ของชาติ” จะช่วยให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น และไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ

ในยุคที่ “สิทธิมนุษยชน” ถูกใช้ทั้งเป็น “หลักการสากล” และเป็น “เครื่องมือ” ในการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Competition) รัฐไทยจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อมิติทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเด็นนี้ พร้อมกำหนดนโยบายที่สมดุลระหว่างการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์และการรักษาผลประโยชน์ของชาติ

การมีจุดยืนที่เป็นอิสระและยึดหลักมนุษยธรรมอย่างแท้จริงจะช่วยให้ไทยสามารถดำรงบทบาทในเวทีโลกอย่างมีศักดิ์ศรี และไม่ตกเป็นเหยื่อของมหาอำนาจที่ใช้สิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธกส. ช่วยคนชายแดน ยกหนี้กรณีเสียชีวิต ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

ธกส. ออกมาตรการช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ยกหนี้กรณีลูกหนี้เสียชีวิตหรือสาบสูญ พร้อมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 2 หมื่นบาท

เริ่มแล้ววันนี้! รัฐบาล ชวนฝากบ้านกับตำรวจ 4.0 อุ่นใจเดินทางไกลปีใหม่ 2569

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าโครงการ ตำรวจร่วมใจ ยกระดับความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง

หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี

กต. ขอให้มั่นใจ 'สีหศักดิ์' ประชุมอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ จะไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบ

กต. ย้ำไม่มีอะไรมากดดันไทยให้เสียเปรียบเวทีอาเซียน 22 ธ.ค.นี้ หลัง สหรัฐ-จีน แสดงท่าทีปะทะชายแดน ย้ำ กัมพูชา ต้องรับ 3 เงื่อนไข "สีหศักดิ์" ยกคณะไปมาเลเซีย 21 ธ.ค.นี้

นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ