ลุ้น! แพทยสภา ถก 8 พ.ค. ปมชั้น 14 ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม เรื่องใหญ่วงการแพทย์

ลุ้น’แพทยสภา’ นัดประชุม 8 พ.ค.ลงดาบ-ยกคำร้องหรือเลื่อนอีก สรุปผลสอบจริยธรรมแพทย์รักษาทักษิณ ชั้น 14  ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม จะเป็นเรื่องใหญ่มากในวงการแพทย์ หลังเลื่อนมาหนึ่งเดือน

20 เม.ย.2568-ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการติดตามตรวจสอบผลการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อแพทยสภาเมื่อ 8 เมษายน เพื่อเรียกร้องให้เร่งรัดผลการสอบสวน แพทย์ที่รพ.ราชทัณฑ์กับรพ.ตำรวจว่ารักษานายทักษิณ  ได้ถูกต้องตามมาตรฐานการรักษาและจริยธรรมฯ หรือไม่

“วันที่ไปยื่นเรื่องต่อแพทยสภา ก็ขอให้แพทยสภาเร่งรัด ทั้งตัวอนุกรรมการ และกระบวนการ เพราะเมื่ออนุกรรมการสอบสวนเสร็จต้องยื่นให้กรรมการกลั่นกรอง และส่งให้แพทยสภา เพื่อบรรจุวาระเข้าการประชุมใหญ่ของแพทยสภา ที่คาดว่าน่าจะเป็น 8 พ.ค. เพราะแพทยสภาจะประชุมกันเดือนละครั้งในทุกวันพฤหัสบดีที่สองของเดือน ผมก็บอกว่า ตอนนี้ทุกคนมีข้อสรุปในใจแล้ว ทั้งแพทย์และประชาชนทั่วไป หากช้า หรือผลออกมาแล้ว คนเห็นว่ามันขัดหูขัดตา เช่น ยกคำร้อง ไม่มีการขัดหรือผิดมาตรฐานจริยธรรม แบบนี้เรื่องใหญ่มาก หากว่าเราสอบมาแบบนี้ ได้เอกสารมาแบบนี้ ให้เวลาขยายไปอีกหนึ่งเดือนแล้วมาบอกว่าไม่ผิด มันเข้ากันไม่ได้กับข้อมูล”

ผศ.นพ. ตุลย์ สิทธิสมวงศ์

นพ.ตุลย์กล่าวว่าสำหรับแนวผลการพิจารณาฯ หลักๆ ของแพทยสภาจะมีเช่น ยกก็คือไม่ผิดเลย ซึ่งตอนนี้ สภานายกพิเศษแพทยสภาโดยตำแหน่งคือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ที่มีสิทธิ์จะโหวตไม่เห็นด้วยได้  ซึ่งโดยปกติเดิมไม่มี คือเดิม รมว.สาธารณสุข มักจะเป็นอาจารย์แพทย์หรือแพทย์ ซึ่งเป็นที่นับถือได้รับการยอมรับ การให้เป็นสภานายกพิเศษ ก็ไม่ได้ขัดเขินอะไร แต่พอมีนักการเมืองเข้ามา ผมคิดว่าอาจถึงคราวจำเป็นแล้วที่ต้องเปลี่ยนตรงนี้ หรือว่าถ้าผิด แล้วการลงโทษให้ลงโทษสถานใด เช่นว่ากล่าวตักเตือน หรือจะเป็นอย่างไร ซึ่งการพิจารณาของแพทยสภา จะพิจารณาเฉพาะในส่วนของแพทย์เท่านั้น คนที่ไม่ใช่แพทย์ แพทยสภาลงโทษไม่ได้ แต่เชิญมาสอบได้

เมื่อถามว่า บางคนไปคาดหวังผลสอบของแพทยสภา จะไปถึงตัวนายทักษิณหรือนายกฯในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รพ.ตำรวจ) นพ.ตุลย์กล่าวว่า ต้องเรียกว่าโดยอ้อม เช่นหากมีการช่วยเหลือให้พ้นคุกโดยทุจริต ไม่ว่า 180 วันแรกหรือช่วงพักโทษ 180 วันหลัง ก็ต้องมีคนไปแจ้งกับศาลฎีกา ในฐานะผู้ออกคำสั่งแรกที่ให้ติดคุกแปดปี เช่นเดียวกัน แพทยสภา ไม่มีอำนาจไปพิจารณาตัดสินได้ว่า มีการป่วยทิพย์หรือป่วยจริงแต่สิ่งที่แพทยสภาสอบเชื่อว่า ทางคณะกรรมการป.ป.ช.จะขอไปประกอบการพิจารณาคำร้องสำนวนคดีของป.ป.ช.แน่นอน หลังป.ป.ช.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เรื่องดังกล่าว เพราะหากมีการเชื่อว่าทักษิณป่วยทิพย์ ก็ต้องมีคนที่กระทำความผิดมาตรา 157 อันนี้ไม่ใช่เรื่องของแพทยสภา เป็นอำนาจของป.ป.ช.

นพ.ตุลย์กล่าวอีกว่า ก่อหน้านี้ที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  รมว.ยุติธรรมไปตอบกระทู้ในสภาฯ อ้างว่าตามพรบ.สุขภาพแห่งชาติ หากผู้ป่วย เจ้าของข้อมูลไม่ให้ข้อมูล ผมจะบอกว่า อันนี้ไม่ใช่ศรีธนญชัย แต่เหลี่ยมโจร เพราะมีการเขียนข้อยกเว้น กรณีจำเป็นต้องให้ เป็นเหตุจากมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรบ.สุขภาพแห่งชาติ พรบ.ข้อมูลข่าวสาร อยู่ดีๆ หมอตุลย์ไปขอเขาไม่ให้ แต่หากเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งทำการสอบสวน ที่เรียกว่าเจ้าพนักงานตามกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม อันนี้ขอได้ แต่สมมุติว่าหน่วยงานขอแล้วได้มา การใช้ข้อมูลต้องรักษาเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาได้ ดังนั้นที่บอกว่าให้ไม่ได้เลย จึงเป็นการเข้าใจผิด

นพ.ตุลย์ ย้ำว่าการสอบสวนเรื่องนี้ คือการดูว่าแพทย์ที่รักษา เขารักษาได้ถูกต้องหรือไม่ และเป็นผู้ป่วยขั้นวิกฤตจริงหรือไม่ เพราะตัวที่โยงกันอยู่คือ ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่ หากไม่วิกฤต ทักษิณต้องกลับไปเรือนจำ 180 วันแรก แต่ถ้าวิกฤตจริง ก็ต้องไปไอซียู และการที่ทักษิณอยู่รพ.ตำรวจ 180 วันโดยบอกว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤต คำถามคือเมื่อได้รับการพักโทษ เดือนก.พ. 2567 ถ้าคุณป่วยวิกฤตจริงแล้วออกมา ต้องไปโรงพยาบาล จะรพ.พระราม9ก็ได้ หรือที่ไหนที่เลือก แต่ต้องไม่ใช่รพ.ตำรวจ เพราะที่รพ.ตำรวจ ไม่ใช่แค่รักษาอย่างเดียวแต่มันคือสถานที่คุมขัง หรือเรือนจำของทักษิณ ที่ดูจะสุขสบายเกินไป มันผิดกฎกระทรวงที่ไม่ให้อยู่ห้องพิเศษ เพราะฉะนั้น ที่พอวันที่ 18 ก.พ.2567 ออกจากรพ.ตำรวจแล้วออกขาดเลย ก็เป็นการฟ้องกลายๆ ว่า 180 วันแรกไม่ได้วิกฤตจริง เพราะถ้าคุณยังป่วยวิกฤตอยู่จนกลับคุกไม่ได้ พอออกมาแล้ว คุณก็ต้องไปรักษาตัวต่อที่รพ.อื่น

ถามว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้ไปจบที่หน่วยงานใด นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ศาลฎีกา เพราะป.ป.ช.กับแพทยสภา ก็แค่จะบอกว่า เรื่องนี้มีทุจริตหรือไม่ในการดูแลรักษา เพราะพอทุจริต ผลของการทุจริตช่วยไม่ให้ทักษิณกลับเข้าคุก ไม่ว่าจะเป็นการรักษา 180 วันแรกหรือช่วงพักโทษ 180 วันหลัง ถ้าผลออกมาว่าผิด ก็สะท้อนว่า ที่ได้รับใบบริสุทธิ์ ที่ตอนนี้พ้นหนึ่งปีแล้ว แต่เป็นหนึ่งปีที่มีผู้สงสัยว่า มีชื่อเป็นนักโทษแต่ตัวไม่เคยอยู่ในเรือนจำเลยตลอด 360 วัน ที่ก็คาดว่าอาจจะรู้ผลในการประชุมแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘วิรังรอง’ ยกมติแพทยสภา จี้ผู้ตรวจฯกลับคำวินิจฉัย ‘กรมคุก-รพ.ตร.’ ปฏิบัติโดยชอบด้วยกม.

ขอถามนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าจะแก้ไขกรณีดังกล่าวอย่างไร? เมื่อคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ขัดต่อมติของแพทยสภา

'อ.ไชยันต์' ยกธรรมะนิยามความเมตตา สรุปใช้ไม่ได้กับ 'ทักษิณ'

ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ความเมตตา กับคุณทักษิณ" โดยระบุว่า

จับตา 3 ดีลสำคัญ เชื่อมฝ่ายอนุรักษ์นิยม ชี้ชะตา ‘รัฐบาลอิ๊งค์-ทักษิณ’ ไปต่อหรือจบแค่นี้

ดีล3ข้อนี้ยังทำไม่สำเร็จ ถ้ารัฐบาลชุดนี้หรือนายทักษิณเปิดดีลต่อกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้ อาจทำให้รัฐบาลชุดนี้เดินต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากฝ่ายอนุรักษ์นิยม หักดีล ปิดดีล ล้มดีลไป รัฐบาลชุดนี้ก็ถึงจุดจบทางการเมือง

จตุพร เผยกองเชียร์ ‘แม้ว’ โหมปั่น ‘ผิดเป็นถูก’ ดิ้นด้อยค่าแพทยสภา

อับจน สิ้นฤทธิ์กร่าง กองเชียร์โหมปั่นกระแสผิดเป็นถูก ยกสุขภาพคนแก่ชราอ้อนหนีข้อเท็จจริงทางแพทย์ “จตุพร” ตอกซ้ำหลักนิติธรรมอยู่เหนือเมตตาธรรม เชื่อศาลนำผลสอบแพทยสภาไต่สวน หวังทักษิณเป็นแบบอย่างยึดมั่นกระบวนการยุติธรรม กระตุกสติอย่าหนี ให้ยอมรับชะตากรรมคุกอย่างทรนง