วันที่ 30 เมษายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งที่สั่นสะเทือนกระบวนการตีความกฎหมายในคดี “ทักษิณ ชินวัตร” อย่างลึกซึ้ง
แม้ศาลจะไม่รับคำร้องของผู้ยื่น เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่คู่ความ และไม่มีส่วนได้เสียโดยตรง
แต่ในคำสั่งเดียวกัน ศาลได้ตั้งข้อสงสัยด้วยถ้อยคำสำคัญว่า
“เมื่อความปรากฏแก่ศาลว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร”
ประโยคเดียวนี้เพียงพอที่จะยืนยันว่า คดีนี้ยังไม่สิ้นสุดลงตามที่บางฝ่ายเข้าใจ
ศาลเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่า การบังคับโทษในคดีที่คำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว อาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการความสมบูรณ์ของข้อมูล
แต่เป็นการใช้อำนาจที่บัญญัติไว้อย่างชัดเจนใน มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560
เมื่อศาลตั้งข้อสงสัยด้วยตนเองเช่นนี้ กระบวนการย่อมไม่สามารถหยุดอยู่เพียงแค่การยกคำร้อง
และคำว่า “ยกคำร้อง” ที่บางฝ่ายยึดเป็นหลักฐานว่า “เรื่องจบแล้ว” อาจเป็นเพียงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อบทบาทของศาล
เพราะศาลไม่ได้ยกคำร้องเนื่องจากข้อเท็จจริงไม่มีมูล
แต่ยกเพราะ “ผู้ร้องไม่มีสถานะตามกฎหมาย” ในคดีถึงที่สุดเดิมต่างหาก
ศาลจึงมีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องไปยังโจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงว่าได้มีการบังคับโทษตามหมายจำคุกของศาลแล้วหรือยัง
พร้อมกำหนดระยะเวลา 30 วันให้ยื่นคำชี้แจง และนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 9.30 น.
หากการบังคับโทษได้เกิดขึ้นโดยชอบแล้ว ย่อมสามารถพิสูจน์ด้วยเอกสารและหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แต่หากการควบคุมตัวในคืนวันที่จำเลยเข้ารับโทษเป็นเพียงการ “รับเข้า” โดยไม่มีการควบคุมตัวในเรือนจำตามหมาย
หรือมีการส่งตัวออกจากเรือนจำไปยังโรงพยาบาลโดยไม่มี “หมายปล่อยของศาล”
การบังคับโทษในครั้งนั้นก็ย่อม ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ศาลใช้คำว่า “อาจไม่เป็นไปตามหมายจำคุก” ไม่ใช่เพราะไม่แน่ใจในหลักกฎหมาย
แต่เพราะต้องเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องแสดงหลักฐาน และชี้แจงอย่างเป็นทางการ
หากหลักฐานชี้ชัดว่าไม่มีการบังคับตามหมายจริง ศาลก็ย่อมสามารถออกคำสั่งใหม่ให้ดำเนินการตามคำพิพากษาเดิมให้ครบถ้วน
การอ้างว่า “บังคับโทษซ้ำไม่ได้” จึงยังไม่มีน้ำหนักในเวลานี้
เพราะการ “บังคับซ้ำ” จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อเคยมีการ “บังคับครั้งแรก” อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วเท่านั้น
แต่ในคำสั่งศาลยังไม่ได้วินิจฉัยว่ามีการบังคับแล้ว
กลับระบุชัดว่า ยังต้องตรวจสอบว่า “ได้บังคับแล้วหรือยัง” และ “ชอบด้วยหมายหรือไม่”
นี่คือบริบทสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม
เพราะหากศาลเห็นว่า การบังคับโทษไม่เป็นไปตามหมายจำคุก ก็ย่อมมีอำนาจออกหมายใหม่ให้ดำเนินการให้ครบถ้วนตามโทษที่เหลืออยู่
สถานะของ “ทักษิณ” จึงยังไม่พ้นจากความรับผิดทางอาญา แม้จะเคยถูกส่งตัวจากศาลไปยังกรมราชทัณฑ์แล้วก็ตาม
เพราะคำว่าถูก “บังคับโทษ” หมายถึง การควบคุมตัวตาม “หมายจำคุก” ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ไม่ใช่การอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง โดยไม่มีคำสั่งศาลรองรับ
จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าเขา “รับโทษครบถ้วนแล้ว” ตามกระบวนการยุติธรรม
ทักษิณ จึงยังอยู่ในภาวะที่เรียกได้ว่า “กึ่งจำคุก” ซึ่งหมายถึงสถานะที่ยังมีโทษตามคำพิพากษาเหลืออยู่ และอาจต้องกลับเข้าสู่กระบวนการควบคุมตัวอีกครั้ง
เมื่อถึงวันนัดไต่สวน หากไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าการบังคับโทษได้เป็นไปตามหมายจำคุก
ศาลย่อมมีอำนาจออกหมายจำคุกใหม่ หรือมีคำสั่งอื่นตามที่เห็นสมควร เพื่อให้การบังคับโทษเป็นไปตามคำพิพากษาเดิม
ทั้งหมดนี้คือกระบวนการภายใต้เขตอำนาจของศาล
มิใช่สิ่งที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะชี้นำ ตีความ หรือตัดสินล่วงหน้าได้
ตราบใดที่ยังไม่มีคำวินิจฉัยรับรองว่าการบังคับโทษได้เกิดขึ้นโดยชอบด้วยหมายจำคุก
ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังไม่พ้นจากสถานะตามคำพิพากษาที่ถึงที่สุด
และนั่นคือเหตุผลที่ทุกฝ่ายควรรอฟังคำวินิจฉัยของศาล ด้วยความสงบ เยือกเย็น และไม่ก้าวล้ำขอบเขตแห่งอำนาจตุลาการ
เพราะเมื่อคำวินิจฉัยนั้นมาถึงจริง ทุกข้อสงสัยย่อมได้รับคำตอบอย่างเด็ดขาดในตัวของมันเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน
“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ
‘เจ๋งดอกจิก’ ป่วยเส้นเลือดสมอง! ศาลเลื่อนอ่านฎีกาคดีก่อการร้าย
ศาลเลื่อนอ่านฎีกา คดี นปช.ก่อการร้าย เหตุ ”เจ๋ง ดอกจิก“ ป่วยเส้นเลือดสมองตีบ นัดใหม่ 20 ม.ค. ปีหน้า
ศาลฎีกา พิพากษายืนยกฟ้อง 'กานต์' เมียเสก คดีหมิ่นประมาท อีฟ แม็กซิม
ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง "กานต์ วิภากร" เมียเสก โลโซ ไม่ผิดหมิ่นประมาท "อีฟ แม็กซิม" เจ้าตัวขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ห่วงเสก โลโซที่อยู่ภายในเรือนจำ
ป.ป.ช. ฟันจริยธรรมร้ายแรง 'จิรพงษ์' อดีต สส.เพื่อไทย
ป.ป.ช. ชี้มูล 'จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์' อดีต สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ผิดจริยธรรมร้ายแรง ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ตราด ส่งศาลฎีกาวินิจฉัย
'หมอวรงค์' มองภาพ 'เบนสมิธ' ร่วมวง 'ทักษิณ-ธรรมนัส' น่ามีผลต่อปท. มากกว่ารูปเก่า 'อนุทิน'
ภาพที่มีเบน สมิธกับทักษิณ และมีธรรมนัส น่าจะมีน้ำหนักสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วของนายอนุทิน แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องพิสูจน์ อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างผ่านมาทางธรรมนัสก็ได้
ศาลฎีกาพิพากษายืน คุกตลอดชีวิต สมาขิกเเก๊งค้ายาเล่าต๋า
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่อย.5907/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่

