นายกฯ เตรียมเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ พรุ่งนี้ ร่วมประชุม JCR ครั้งที่ 4 ขับเคลื่อนความร่วมมือ พร้อมจ้อภาคเอกชน
14 พ.ค.2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2568 ซึ่งจะเป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตามคำเชิญของนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยการเยือนครั้งนี้ นายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี (Joint Cabinet Retreat: JCR) ไทย–เวียดนาม ครั้งที่ 4 เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคีในทุกมิติ และการสานสัมพันธ์ไมตรีในหมู่มิตรประเทศประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับกำหนดการสำคัญ มีดังนี้ ในวันที่ 15 พฤษภาคม นายกฯ จะเดินทางถึงกรุงฮานอย เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเวลาที่เวียดนามเท่ากับประเทศไทย จากนั้นในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีและคณะ จะพบหารือกับหอการค้าไทยในเวียดนาม (ThaiCham) และภาคเอกชนเวียดนาม อาทิ กลุ่มบริษัท SOVICO (สายการบิน Vietjet) และบริษัท FPT ก่อนเข้าเยี่ยมคารวะผู้นำระดับสูงของเวียดนามในช่วงเย็น พร้อมทั้งพิธีให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติโดยรัฐบาลเวียดนามต่อคณะนายกรัฐมนตรีของไทย
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในวันที่ 16 พฤษภาคม ช่วงเช้า นายกฯ ได้รับเกียรติในพิธีวางพวงมาลา ณ สุสานอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ และอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน จากนั้นจะเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการและหารือระดับนายกฯ กับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกฯ เวียดนาม รวมถึงการประชุมร่วมนายกฯ และรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ไทย–เวียดนาม ครั้งที่ 4 ซึ่งถือเป็นเวทีหารือระดับสูงเฉพาะที่เวียดนามจัดขึ้นร่วมกับไทยเท่านั้น และช่วงบ่าย นายกฯ จะกล่าวเปิดงานสัมมนาทางธุรกิจไทย-เวียดนาม (Thailand-Vietnam Business Forum) ร่วมกับผู้นำเวียดนาม พร้อมเข้าเยี่ยมคารวะผู้นำระดับสูงของรัฐบาลเวียดนาม ก่อนเดินทางกลับไทย โดยจะเดินทางถึงไทยช่วงเย็นในวันเดียวกัน
“การเดินทางเยือนเวียดนามและการประชุม JCR ครั้งที่ 4 เป็นการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย–เวียดนาม ให้ก้าวสู่ระดับหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยเสริมสร้างความร่วมมือทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจในระดับสูง รวมทั้งเปิดโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ที่เอื้อต่อการลงทุนร่วมระหว่างภาคเอกชน การพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อประโยชน์ของประชาชนร่วมกันทั้งสองประเทศในระยะยาว“นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า คณะของนายกฯ ที่จะร่วมเดินทางประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า การประชุม JCR จัดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2547 และครั้งล่าสุดในปี 2555 ในสมัยรัฐบาลอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สำหรับครั้งนี้ จะเป็นการประชุม JCR เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 20 ปี โดยนางสาวแพทองธารจะเป็นประธานร่วมการประชุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ


