ในวันที่ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมกว่า หมื่นล้านบาท ฐาน ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ต่อความเสียหายจากการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นี่ไม่ใช่แค่คำตัดสินเรื่องตัวบุคคล แต่เป็นการตอกย้ำ หลักแห่งความรับผิดชอบ ของผู้บริหารประเทศในอดีต
คำตัดสินดังกล่าวมีรากมาจากคดีที่ถูกพิสูจน์ในชั้นศาลแล้วว่า โครงการจีทูจีที่กล่าวอ้างนั้นเป็นเพียงฉากหน้าของการทุจริตแบบ “สามชั้น” ตั้งแต่การ ปลอมชื่อคู่ค้ารัฐบาลต่างประเทศ การ ปลอมเอกสาร ไปจนถึงการ นำข้าวกลับมาขายในประเทศในราคาต่ำ เพื่อเปิดช่องทางให้พวกพ้องแสวงหากำไรโดยรัฐเป็นผู้รับภาระ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นการตอบสนองเชิงอารมณ์ จาก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่ออกมาแชร์โพสต์ “ให้กำลังใจอา” ทั้งข้อความ ภาพเก่า เพลง และคำกล่าวที่เรียกร้องความเห็นใจ
ในฐานะ หลานสาว นั่นเป็นเรื่องหนึ่งแต่ในฐานะ หัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่อาจแยกออกจากตำแหน่งทางการเมืองได้เลย
หากผู้นำประเทศแสดงออกว่า ความยุติธรรมมีสองมาตรฐาน หนึ่งเพื่อประชาชน อีกหนึ่งเพื่อครอบครัว ความเชื่อมั่นต่อระบบยุติธรรมทั้งระบบจะหายไปโดยสิ้นเชิง
โพสต์ของนายกรัฐมนตรีจึงไม่ใช่เพียงแค่การให้กำลังใจ แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐไทยยังคงเป็นสมบัติของตระกูลการเมือง มากกว่าจะเป็นเครื่องมือของประชาชน ใช่หรือไม่
เมื่อ ผู้พิพากษาตัดสินตามหลักฐาน แต่หัวหน้ารัฐบาลกลับสื่อสารว่าศาลได้ “ซ้ำเติมความอยุติธรรม” ก็เท่ากับกำลังบ่อนเซาะความน่าเชื่อถือของ กระบวนการยุติธรรม เสียเอง
ขณะเดียวกัน ความพยายามจะวาดภาพว่ายิ่งลักษณ์คือ เหยื่อของ “การเมืองเล่นงาน” กลับไม่สามารถลบล้างความเสียหายเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นกับรัฐได้
เพราะคำพิพากษาของศาล ไม่ได้เกิดจาก “ความเกลียดชังทางการเมือง” แต่เกิดจาก การตรวจสอบเชิงนิติกรรมและการเงิน ว่าใครควรรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการบริหาร
ถ้า แพทองธาร คือหัวหน้ารัฐบาลที่เชื่อในกฎหมาย ก็ควรจะรักษา ความเป็นกลางของอำนาจบริหาร ไม่ใช่ใช้มันไปสนับสนุนการ “ต้านคำพิพากษา” อย่างไม่เป็นทางการผ่านโซเชียลมีเดีย
เพราะไม่มีใครในประเทศนี้ที่มีอภิสิทธิ์พิเศษพอจะ “ไม่ต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ” โดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้บังคับบัญชา
คำว่า ไม่รู้ ไม่เกี่ยว ไม่เห็น ไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับผู้นำประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน
สิ่งที่น่าตั้งคำถามจึงไม่ใช่แค่คำว่า “อยุติธรรม” แต่คือเจตนาที่จะปลุกอารมณ์สาธารณะให้คล้อยตามการตีความความยุติธรรมเฉพาะกรณี เฉพาะครอบครัว
ไม่มีใครปฏิเสธว่าไทยมีปัญหาเรื่อง ความอยุติธรรม แต่การเรียกร้องความยุติธรรมที่ จำกัดเฉพาะคนที่มีนามสกุลเดียวกัน ไม่ใช่คำตอบของประเทศนี้
คนที่ยังอยู่ในคุกจาก คดีการเมือง นักเคลื่อนไหวที่ถูกดำเนินคดีเพียงเพราะเห็นต่าง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่โดนฟ้องข้อหาหมิ่นสถาบัน หรือมั่วสุม ชุมนุมเกินห้าคน
ไม่มีใครได้ฟังเพลง “ฤดูที่แตกต่าง” เหมือนที่ยิ่งลักษณ์ได้ ไม่มีใครได้รับสตอรีส่งกำลังใจจากนายกรัฐมนตรี ไม่มีใครมีรัฐบาลทั้งชุดคอยคืนความยุติธรรมให้กับตัวเอง
นี่ไม่ใช่ปัญหาของ ยิ่งลักษณ์ แต่มันคือปัญหาของ โครงสร้างทางการเมือง ที่ไม่เคย “พ้นเงาครอบครัว”
เมื่อรัฐถูกใช้เป็นเกราะให้คนในตระกูล แต่กลายเป็นคุกสำหรับคนเห็นต่างจากรัฐ ความยุติธรรมจึงไม่ใช่แค่บิดเบี้ยว แต่กำลังถูกตัดเย็บใหม่ให้พอดีกับขนาดของสกุล
และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในนามของคนสกุล “ชินวัตร” จึงไม่เคยข้ามพ้นกรอบของ ผลประโยชน์ตัวเอง
ตราบใดที่ผู้มีอำนาจยังเลือกเห็นเฉพาะ “อาคนเดียว” โดยมองไม่เห็น “ประชาชนทั้งประเทศ” คำว่า “ยุติธรรม” ที่พูดถึงก็ยังเป็นแค่ของใช้ส่วนตัว
นี่คือความแตกต่างของ “นายกรัฐมนตรี” กับ “หลานสาว” ซึ่งในระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรจะสวมอยู่ในคนเดียวกัน!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดฉากมหากาพย์ก่อสร้างตึกสูงซอยร่วมฤดี!ศาลปกครองสูงสุดยืนไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาคดีบริษัท ลาภประทาน จำกัดฟ้องเรียกค่าเสียหาย กทม.ละเมิดไม่ตรวจสอบความกว้างของเขตทางในซอยร่วมฤดี
ลุ้นระทึก! ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำสั่งมหากาพย์คดีก่อสร้างตึกสูงซอยร่วมฤดี
ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 2306/2564
ยิ่งลักษณ์โพสต์โชว์เมนู ‘เยี่ยมใต้’ บินตรงถึงดูไบ เผยคิดถึงสะตอผัดกุ้ง-แกงเหลือง
อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อัปเดตภาพมื้ออาหารใต้ระบุว่าร้าน “เยี่ยมใต้” ส่งเมนูโปรดบินตรงถึงดูไบ เจ้าตัวบอกดีใจได้ทานหลา
ไม่ยอม ‘ทนายทักษิณ‘ ลำดับไทม์ไลน์คดีขายหุ้นชินคอร์ป ก่อนชี้เปรี้ยงคำวินิจฉัยศาลฎีกามีความพิสดาร
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ลำดับเหตุการณ์คดีภาษีการข
คดี 112 ทักษิณ และภาษีชินคอร์ป ความเชื่อแซงหน้ากระบวนการยุติธรรม
กลางเดือนพฤศจิกายน 2568 ชื่อของ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งจากสองคดีสำคัญที่มีผลออกมาในช่วงใกล้กัน ทั้งคำ
'เอม' เผยทักษิณ 'เสียใจ-เจ็บช้ำ' หลังอัยการอุทธรณ์คดี 112 ส่วน 'โอ๊ค' จิตตก!
"พินทองทา" เผยทักษิณเจ็บช้ำต่อกรณีอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดี 112 บอกต้องคุยวางแผนสู้คดี พร้อมห่วงสภาพจิตใจพ่อ เพราะอยู่ในเรือนจำตามลำพัง ขณะที่ "พานทองแท้" ยอมรับจิตตก แต่ขอบคุณกำลังใจจากประชาชน


