มติที่ประชุมเหล่าทัพ กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันอย่างชัดเจนในการสนับสนุนภารกิจของกองทัพบกอย่างเต็มขีดความสามารถ ต่อการรักษาอธิปไตย กรณีชายแดนไทย- กัมพูชา
6 มิถุนายน 2568 - เวลา 14.45 น. กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมี พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้กล่าวแสดงความขอบคุณ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการรักษาอธิปไตยบริเวณแนวชายแดนในทุกสถานการณ์ พร้อมย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ
ซึ่งทุกเหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมสนับสนุนกองทัพบกในทุกมิติ
ในการนี้ กองทัพบกได้รายงานต่อที่ประชุมอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเหตุการณ์ โดยยืนยันว่าการปฏิบัติของทหารไทยเป็นไปตามกฎหมายและกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการลุกลาม โดยอิงตามแนวเส้นปฏิบัติการที่ประเทศไทยถือปฏิบัติต่อเนื่องมาโดยตลอด
ทั้งนี้ กองทัพบกได้ชี้แจงว่าเหตุปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นระหว่างทหารไทยทำการลาดตระเวนในพื้นที่ประเทศไทย และถูกฝ่ายทหารกัมพูชาเปิดฉากการยิง จึงได้ทำการยิงตอบโต้ ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการชี้แจงผ่านช่องทางทางการแล้วโดยครบถ้วน อย่างไรก็ตาม แม้ฝ่ายไทยจะดำเนินการประสานงานผ่านกลไกการเจรจาที่ทั้งสองประเทศเคยตกลงกันไว้ แต่กลับไม่ส่งผลในการคลี่คลายสถานการณ์เท่าที่ควร อีกทั้งยังตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของทหารฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถือเป็นภัยคุมคามต่อความมั่นคงของชาติ
ผู้บัญชาการทหารบก จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยยกระดับความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากจำเป็นต้องดำเนินมาตรการทางทหารเพื่อตอบโต้การรุกล้ำอธิปไตยและปกป้องคุ้มครองประชาชน
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบการเตรียมการสนับสนุนจากทุกเหล่าทัพเพื่อปกป้องประเทศอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ การดำเนินการด้านการข่าวร่วม ด้านยุทธการร่วม ด้านส่งกำลังบำรุงร่วม และสนับสนุนข้อมูลให้กับหน่วยงานราชการอื่นๆของรัฐบาล อาทิ กรมแผนที่ทหารสนับข้อมูลด้านข่าวกรองภูมิสารสนเทศ (GEOINT) ให้กับ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา (ฝ่ายไทย) Joint Boundary Committee (JBC) กรมข่าวทหารทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการเตรียมชี้แจงผู้ช่วยทูตทหารต่างชาติในประเทศไทย รวมถึงผู้ช่วยทูตทหารไทยในต่างประเทศให้รับทราบข้อเท็จจริงและแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลและกองทัพไทยในการคลี่คลายสถานการณ์
ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยืนยันจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเด็ดขาด โดยสั่งการให้ตำรวจตระเวนชายแดนและหน่วยตำรวจในพื้นที่ชายแดนเตรียมความพร้อมเต็มรูปแบบ ทั้งด้านกำลังพล อาวุธ และยุทโธปกรณ์ รวมถึงจัดทำแผนเผชิญเหตุ เพิ่มมาตรการสืบสวนหาข่าวเชิงลึก และเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการเผยแพร่ข่าวปลอม พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองบุคคลต่างด้าวตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง และบูรณาการการทำงานร่วมกับกองทัพอย่างใกล้ชิดทั้งในพื้นที่แนวหน้าและแนวหลังในช่วงท้ายของการประชุมฯ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันอย่างชัดเจนในการสนับสนุนภารกิจของกองทัพบกอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งในด้านการวางแผน การปฏิบัติการ และการประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อธำรงไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย และเกียรติภูมิของชาติไทย พร้อมทั้งเน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินงานภายใต้หลักสากล การรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพของภูมิภาค
กองทัพไทยขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมทั้งขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ในการใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และร่วมเป็นพลังสำคัญในการธำรงความมั่นคง สันติสุข และความสามัคคีของชาติไทยอย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันไม่ชี้แจง UN ไทยรักษาอธิปไตย โดนกัมพูชายิง BM-21 มาเป็นชุดๆ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีเรียก นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าหารือถึงสถานการณ์ชายแดนว่า วันที่ 16 ธ.ค. จะมีการประชุมสมช. มีวาระที่เกี่ยวกับการควบคุมจำกัดยุทธภัณฑ์ทั้งหลายที่
'อธิบดีศิลปากร' ยัน 'ปราสาทตาควาย' ซ่อมได้ ตราบใดเป็นของไทย
'อธิบดีกรมศิลปากร' ยืนยัน 'ปราสาทตาควาย' ซ่อมได้ ตราบใดยังตั้งอยู่ในแผ่นดินไทย รวมถึงปราสาทอื่นด้วย 'บัวแก้ว' ขอกัมพูชายุติใช้พื้นที่โบราณสถานเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร
สมช. จ่อเคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย ช่วยคนไทยในเขมรกลับบ้าน
'ฉัตรชัย' เผยนายกฯ หารือก่อนถก สมช. 16 ธ.ค. เคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย-ช่วยคนไทยในเขมรกลับประเทศ พร้อมจับตาปมจับสายลับ ยึดขีปนาวุธสัญชาติจีน
ดาบนั้นคืนสนอง! หนุนทหารไทยใช้ GAM-102LR ถล่มเขมร
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ดาบนั้นคืนสนอง ข้อเสนอให้ใช้ GAM-102LR อาวุธร้ายแรงที่ยึดจากทหารเขมรจัดการกองทัพเขมร จัดไปอย่าให้เสียของ
'กองทัพภาค 2' แจ้งงดไลฟ์-โพสต์-แชร์ สร้างอันตรายทหาร
เพจ "กองทัพภาคที่ 2" โพสต์ข้อความว่า "งดไลฟ์ งดโพสต์ งดแชร์ ไม่ต้องรีบแจ้งลงสื่อ การปฏิบัติทางทหารยังไม่จบ การบอกลักษณะพื้นที่เฉพาะเจาะจง/พื้นที่จำกัด ยิ่งสร้างอันตรายให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่".
ผงะ!จรวด‘จีน’โผล่ กองทัพยึดจากเขมร/เคอร์ฟิวตราด5อำเภอ/ชงปิดอ่าวไทย
"กองทัพบก" ลั่นต้องสถาปนาแนวชายแดนที่ถูกรุกล้ำกลับคืนมาให้ได้

